เปิดใจ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ พร้อมทำหน้าที่ สส. มองคดีหุ้นไอทีวี สะท้อน 4 เสาประชาธิปไตยเข้มแข็ง
เปิดใจ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ พร้อมทำหน้าที่ สส. มองคดีหุ้นไอทีวี สะท้อน 4 เสาประชาธิปไตยเข้มแข็ง ‘Freedom of Speech’ ขอบคุณสื่อเป็นประภาคารให้ประเทศไทยยามที่ต้องการความจริง
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เปิดใจกับ The Reporters ถึงการเข้าทำหน้าที่ สส.ในวันนี้ (25 ม.ค. 66) ที่สภาผู้แทนราษฎร คงได้มีโอกาสสวัสดีเพื่อน สส.ในบรรยากาศที่เปลี่ยนไป และเตรียมทำงานในสภาฯ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ได้ไปดูปัญหากองขยะที่สมุทรปราการและภูเก็ต เห็นปัญหาวิธีการจัดงบประมาณของท้องถิ่น ก็น่าจะได้ยื่นญัตติ รวมถึงการผลักดันกฎหมายที่รออยู่ และย้ำให้ สส. และสื่อมวลชนรับฟังว่ากฎหมายใดที่ผ่านได้ เช่น กฎหมายสะอาดและ พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และในการอภิปรายรัฐบาล ก่อนจะเดินทางไปภาคเหนือในวันเสาร์และอาทิตย์นี้
ส่วนจะกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค ซึ่งพรรคก้าวไกลจะครบ 4 ปีในปลายเดือนเมษายนนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ก็มีการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคอยู่แล้ว
จากการถือหุ้นสื่อของนักการเมือง ในกรณีคดีหุ้นไอทีวีของนายพิธา ควรนำมาหารือเพื่อเปลี่ยนแปลงกฎหมายกับบริบทสื่อที่เปลี่ยไปหรือไม่ นายพิธา กล่าว่า เป็นเรื่องที่น่าจะพูดคุยกัน กฎหมายนี้ควรมีเอาไว้เพื่อไม่ให้ใครเหนือสื่อ เพราะการลงทุน ของบริษัทที่มีหลากหลาย อาจเกี่ยวข้องกับสื่อได้ โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ
“ส่วนตัวเราก็จะต้องละเอียดรอบคอบในการทำงานในการตรวจบัญชีของตัวเอง แต่อย่างที่นักกฎหมายบอกว่า เราอาจต้องคุยกันใหม่ว่า ไม่น่าจะเป็นกฎหมายที่นำมาใช้เพื่อลดความสะดวก เพิ่มความยากลำบากให้คนมาเล่นการเมืองโดยไม่จำเป็น”
นายพิธา เห็นด้วยที่กรณีคดีหุ้นไอทีวี เป็นการตรวจสอบของสื่อและประชาชน ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของ 4 เสาประชาธิปไตย ไม่ใช่แค่การเลือกตั้งหรือนักการเมือง แต่เป็น Freedom of Speech สื่อมวลชนที่กล้าหาญ ไม่เกรงกลัวต่ออิทธิพลใดๆ วิ่งเข้าหาข้อเท็จจริง ประชาชนเป็นที่ประจักษ์ จึงต้องขอบคุณสื่อมวลชน ที่เป็นประภาคารให้กับประเทศไทยในยามที่ต้องการความจริง
