‘โรม’ เสนอกระดุม 5 เม็ดปฏิรูปตำรวจ แก้ปัญหาระบบอุปถัมภ์
‘โรม’ เสนอกระดุม 5 เม็ดปฏิรูปตำรวจ ให้ รอง ผบ.ตร.แสดงวิสัยทัศน์ ซาวน์เสียง ตร.ทั้งประเทศก่อนเลือก ผบ.ตร. -กระจายอำนาจให้ ปชช.รู้ประวัติ ตร.ที่ย้ายมา-เพิ่มงบชั้นผู้น้อย ให้ตำรวจไม่หิว-ส่งเสริมให้เติบโต เป็นนายร้อยฯ-เลิกกฎแปลก เช่น ห้ามใส่แว่นดำ
วันนี้ (24 พ.ย. 66) ที่อาคารอนาคตใหม่ นายรังสิมันต์ โรม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าว “หยุดระบบตั๋วและปฏิรูปตำรวจไทย” โดยระบุว่า ตนไม่ใช่คนแรกที่พูดถึงเรื่องนี้ เพียงติดตามอย่างใกล้ชิดและเอาจริงเอาจัง เพื่อให้ปัญหาในวงการตำรวจที่สะท้อนระบบอุปถัมภ์ได้หายไป การแก้ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ต้องใช้การซื้อขายตำแหน่ง การใช้ตั๋ว ได้หมดไป แต่วันนี้เมื่อนายกรัฐมนตรีพูดออกมาอย่างชัดเจน จึงเป็นโอกาสที่จะนำเสนอ “ข้อเสนอปฏิรูปตำรวจ” เพื่อการแก้ปัญหาระบบอุปถัมภ์ในวงการตำรวจ คืนความเป็นธรรมให้คนตำรวจน้ำดี
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตน พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย ต่างเคยทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านร่วมกัน การทำหน้าที่ในเวลานั้นทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ยืนยันตรงกันว่า ต่อต้านระบบอุปถัมภ์ นายเศรษฐา ทวีสิน เคยประกาศในเวทีตอนหาเสียงว่า ระบบเส้นสายเหล่านี้จะต้องถูกจัดการออกไป แต่กลายเป็นว่าวันนี้เราเห็นคำพูดที่พูดได้อย่างหน้าชื่นตาบานของนายเศรษฐา เกี่ยวกับระบบอุปถัมภ์ ผ่านการฝากตำรวจ ฝากผู้กำกับ ในที่ประชุม สส.ของพรรคเพื่อไทย นี่คือเรื่องใหญ่ที่แสดงให้เห็นว่า ระบบอุปถัมภ์ในองค์กรตำรวจไม่ได้หมดไป และที่สำคัญกลับเป็นเรื่องที่พูดจากปากนายกรัฐมนตรีในที่ประชุม สส.ของพรรคตัวเอง ได้อย่างไม่รู้สึกผิดอะไร
และแม้จะพูดแบบนั้นไปแล้ว คำอธิบายในวันต่อมาก็ไม่ได้สะท้อนถึงความรู้สึกผิดชอบชั่วดีว่า สิ่งที่ตนพูดไปเป็นการสะท้อนถึงระบบอุปถัมภ์ที่คนมีอำนาจอย่างนายกรัฐมนตรีพึงแก้ปัญหา มิใช่พึงเข้าร่วมกับปัญหาแม้แต่น้อย ไม่เห็นความรู้สึกผิดของนายกรัฐมนตรีเลยแม้แต่น้อย จนถึงวันนี้ก็เห็นปรากฏการณ์เงียบ ทั้งจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็ไม่ตอบอะไร เพราะอาจเชื่อว่าหากไม่พูดอะไร เดี๋ยวเรื่องก็จะเงียบไปเอง จึงขอถามว่า “นี่เหรอครับคือผู้นำของประเทศเรา นี่หรือคือการแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อว่าเศรษฐา ทวีสิน”
“ผมคงไม่หวังกับรัฐบาลนี้แล้ว ในการแก้ปัญหาตำรวจ เพราะรู้สึกว่าหากจะแก้ปัญหากันจริงๆ สิ่งแรกที่เราต้องมีคือเจตจำนง หากไม่มีเจตจำนงในการแก้ปัญหาปฏิรูปตำรวจแต่ต้น มันไม่มีทางแก้ปัญหาระบบอุปถัมภ์ที่เกิดขึ้นในองค์กรตำรวจได้” นายรังสิมันต์ กล่าวย้ำ
นายรังสิมันต์ จึงเสนอกระดุม 5 เม็ด ที่จะนำไปสู่การปฏิรูปตำรวจ ผู้ที่แก้เรื่องนี้ได้อาจต้องถูกส่งต่อไปยังผู้อื่นที่อาจไม่ใช่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน มีดังนี้
กระดุมเม็ดแรก คือ ต้องทำให้การเลือก ผบ.ตร. มาจากความสามารถและเป็นไปเพื่อประโยชน์ขององค์กรตำรวจโดยมี 3 ขั้นตอน คือ
1.ให้รอง ผบ.ตร.ที่ต้องการเป็น ผบ.ตร.ต้องสมัครเข้ามาพร้อมแฟ้มผลงาน ชี้แจงผลงานว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้กรรมการใช้ดุลพินิจและความเห็นได้ว่ารอง ผบ.ตร.คนใดมีผลงาน มีความเหมาะสมที่จะเป็นผู้นำของตำรวจ
2.ต้องเปิดให้รอง ผบ.ตร.ที่สมัครเป็น ผบ.ตร. ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อประชาชน สังคม และพี่น้องตำรวจ ได้เข้าใจว่าที่ท่านสมัครมาเป็น ผบ.ตร.นั้นมีวิสัยทัศน์อะไร จะนำพาองค์กรตำรวจเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จะทำให้ชีวิตของตำรวจชั้นผู้น้อยดีขึ้นได้อย่างไร ท่านจะทำอย่างไรให้ตำรวจผู้น้อยที่อาจเป็นสายตรวจต่างๆ ไม่ต้องควักเงินส่วนตัวไปเติมน้ำมันอีกแล้ว แสดงวิสัยทัศน์ให้สังคมได้เห็นถึงความคิดเห็นของท่าน
3.สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ ให้ตำรวจสามารถเข้ามาใช้บริการโดยไม่ระบุตัวตน แต่ระบุได้ว่าเป็นตำรวจแน่นอน ให้โหวตเลือกว่า รอง ผบ.ตร.คนไหนสมควรที่จะเป็น ผบ.ตร. ซึ่งอาจเป็นส่วนหนึ่งของคะแนนทั้งหมด เพื่อให้เป็นการเช็คเสียงมายังนายกรัฐมนตรี ว่าใครคือคนที่ตำรวจส่วนใหญ่อยากให้เป็น ผบ.ตร. ซึ่งทั้ง 3 ขั้นตอนนี้ไม่ต้องแก้กฎหมาย พรบ.ตำรวจ แม้แต่น้อย ทำได้เลยทันทีในการเลือก ผบ.ตร.ครั้งหน้า
กระดุมเม็ดที่สอง คือการกระจายอำนาจของตำรวจ เพื่อให้จังหวัดและประชาชนในจังหวัดเข้ามามีบทบาท มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ อาจเป็นวิธีที่ยากเพราะต้องแก้กฎหมาย พรบ.ตำรวจ ซึ่งเป็นการเปิดให้ประชาชนในจังหวัดมีส่วนตัดสินใจ ทราบว่าตำรวจที่ย้ายมามีคุณภาพหรือไม่ มีประวัติอย่างไร รวมถึงทิศทางในการปราบปรามอาชญากรรมที่มีลักษณะแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ว่าได้คนที่เหมาะสมกับงานหรือไม่
กระดุมเม็ดที่ 3 คือนายกรัฐมนตรีต้องไม่ทำให้ตำรวจหิว จนต้องไปหาเงินเองเพื่อให้อิ่มท้อง ต้องดูแลสวัสดิการ ความเป็นอยู่ของตำรวจชั้นผู้น้อยให้ดีขึ้น ยกระดับงบประมาณให้เพียงพอต่อความจำเป็นในการปฏิบัติงาน ไม่ให้ตำรวจต้องเติมน้ำมันเอง ตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกเพื่อมายกระดับคุณภาพชีวิตให้ตำรวจไม่หิว
กระดุมเม็ดที่ 4 รัฐบาลต้องส่งเสริมให้ตำรวจชั้นประทวนได้มีโอกาสเติบโตมากขึ้น เช่น ทำให้เข้าถึงการศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีมากขึ้น ส่งเสริมให้มีโอกาสได้เป็นนายตำรวจ เพราะทุกวันนี้เวลาอยากได้นายร้อยใหม่ๆ เราไปเปิดรับจากบุคคลภายนอกก่อน แต่ตำรวจชั้นประทวนที่จบปริญญาตรีหลายคนยังไม่มีโอกาส ทำไมไม่เอาคนที่เคยผ่านงานตำรวจอยู่แล้ว ไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่ เข้ามาก่อน ทำให้ตำรวจชั้นผู้น้อยมีความหวังในอาชีพการงานมากขึ้น
กระดุมเม็ดที่ 5 รัฐต้องยกเลิกงานที่ไม่จำเป็นหรือกฎที่ไม่จำเป็นออกไป เช่น การติดตามผู้บังคับบัญชาจำนวนมาก ต้องลดภาระของตำรวจลง หรือในกรณีตำรวจในภาคใต้ มีคำสั่งไม่ให้ใส่แว่นตาดำ ทำเพื่ออะไร เป็นข้อห้ามที่ไร้สาระ นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บังคับบัญชาโดยตรงของตำรวจ ต้องยกเลิกสิ่งที่ไม่จำเป็นทั้งหลาย การยกระดับงานเอกสารให้เป็นดิจิตอลทั้งหมด ความจำเป็นในการซื้อกระดาษ น้ำหมึก เครื่องปริ้น จะลดลงทันที รัฐบาลต้องคิดลดภาระของตำรวจ เพื่อให้โฟกัสกับการทำงานเพื่อประชาชน
นายรังสิมันต์ ทิ้งท้ายว่า กระดุมทั้ง 5 เม็ด ไม่อาจทำสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่เราต้องเริ่มทำ และมีหมุดหมายทางความคิด เพราะปัญหาตำรวจกระทบต่อชีวิตของประชาชนทุกคน
