‘ภาคีกลุ่มราชภักดี’ ยื่นสภาฯ ค้านรวม ม.112 เป็นคดีทางการเมือง ถาม ถ้าไม่ทำชั่วจะกลัวอะไร

วันนี้ (23 พ.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา ภาคีกลุ่มราชภักดีเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ. นิรโทษกรรมสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นายนิกร จำนง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาข้อมูล และสถิติคดีความผิดอันเนื่องมาจากแรงจูงใจทางการเมือง เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อคัดค้านกรณีที่ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล เรียกร้องให้บรรจุประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นคดีทางการเมือง
นายอัครวุธ ไกรศรีสมบัติ กล่าวว่า ตนเองอยากเตือนสติ น.ส.ภัสราวลี ว่า ความผิดตามมาตรา112 เป็นความผิดอาญาและความมั่นคง สิ่งที่มาเรียกร้องนั้นถือเป็นความผิดไปแล้ว ขอให้ไปต่อสู้กันในศาล ตามกระบวนการ อย่าทำความผิดแล้วมาขออภัยโทษ หรือนิรโทษกรรม ตนเห็นด้วยกับนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นคนสีเสื้ออะไรก็เห็นด้วย แต่ความผิดมาตรา 112 ไม่เกี่ยว เพราะไม่ใช่คดีทางการเมือง
“หากไม่หมิ่นจะกลัวอะไรกับมาตรา 112 หากไม่ได้ทำชั่วก็อย่ากลัวกับมาตรานี้ พวกเราอยู่กันได้สังคมอยู่ด้วยกันได้ เรื่องนี้เพิ่งมีมาได้ไม่นาน เด็กเหล่านี้ไม่ได้ทำเองด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่มีผู้ใหญ่ที่เสี้ยม มีคนอยู่เบื้องหลังมุดอยู่ใต้กระโปรงของเด็ก สั่งให้เด็กออกไปทำให้เกิดความเสียหาย คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดจากการ นิรโทษกรรมมาตรา 112 ก็ขอให้ย้อนกลับไปดูว่าใครมีคดีมาตรานี้ติดตัวอยู่” นายอัครวุธกล่าว
ด้านนายนิกร กล่าวว่า หนังสือที่ยื่นเราจะรับไว้เพื่อเข้าสู่คณะกรรมธิการ เรามีหน้าที่ศึกษาไม่ได้มีหน้าที่ในการยกร่าง เราพบว่าจากการศึกษามีฐานความผิดที่อิงมาเกี่ยวกับคดีทางการเมือง 17 ฐานความผิด จากนั้นเราก็จะได้ทำการศึกษาเพิ่มเติมและนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาใหญ่ว่าควรนิรโทษกรรมฐานความผิดอะไรบ้าง แต่ทั้งนี้ตั้งแต่ที่การพิจารณาเรื่องนี้มายังไม่เคยมีคณะกรรมาธิการชุดไหนที่เอาคดี 112 มาพิจารณา เราจึงสรุปความเห็นว่าความผิดตามมาตรา 112 นั้น ยังมีความอ่อนไหวอยู่ แม้จะมีการเสนอให้มีการนิรโทษกรรมเกี่ยวกับความผิดมาตรา 112 หรือคดีที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ด้วย แต่จนถึงขณะนี้ต้องเรียนว่าเรายังไม่ได้มีการตัดสินอะไรว่าจะเอาคดีอะไรเป็นคดีหลักหรือคดีรอง และควรจะมีการดำเนินการอย่างไร ฉะนั้นข้อเสนอที่กลุ่มดังกล่าวมาเรียกร้องก็จะถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในกรรมาธิการด้วย