POLITICS

เปิดประวัติ ‘พล.ต.ไพศาล หนูสังข์’ ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่

เปิดประวัติ ‘พล.ต.ไพศาล หนูสังข์’ ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ พร้อมสานต่อนโยบายอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ดึงส่วนราชการเข้ามามีส่วนร่วมกับประชาชน ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรม ขยายความร่วมมือในการแก้ปัญหาทุกด้าน

เปิดประวัติ พล.ต.ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ว่าที่แม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ต่อจาก พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค โดย พล.ต.ไพศาล เกิดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2508 มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนวชิรานุกูล จ.สงขลา ศึกษาต่อจนจบระดับปริญญาโทที่ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น สาขารัฐประศาสนศาสตร์

ด้านการศึกษาทางทหาร เป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 25 โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 36 โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ชุดที่ 76 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 64 มีตำแหน่งราชการสำคัญ ประกอบด้วย

1.ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 15 จ.นครศรีธรรมราช

2.ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 46 จ.นราธิวาส

3.ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 5 จ.สงขลา และสตูล

4.รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ อ.เทพา จ.สงขลา

5.ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 รับผิดชอบ 14 จังหวัดภาคใต้

6.รองแม่ทัพภาคที่ 4 จ.นครศรีธรรมราช

สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ราชการสนาม ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ได้แก่

1.หัวหน้าฝ่ายยุทธการ หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 จ.ยะลา

2.รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 24 จ.ปัตตานี

3.ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 46 จ.นราธิวาส

4.ผู้บังคับศูนย์ฝึกทางยุทธวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในภาค 4 ส่วนหน้า จ.สงขลา

5.ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 5 จ.สงขลา สตูล ยะลา และนราธิวาส

6.ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค 4 ส่วนหน้า จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ อ.จะนะ นาทวี เทพา สะบ้าย้อย จ.สงขลา

7.ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส จ.นราธิวาส

8.ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ อ.จะนะ นาทวี เทพา สะบ้าย้อย จ.สงขลา

9.รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส และ อ.จะนะ นาทวี เทพา สะบ้าย้อย จ.สงขลา

นโยบายหลังจากรับมอบตำแหน่งเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ไพศาล จะใช้ประสบการณ์การทำงานในภาคใต้เกือบตลอดทั้งชีวิต สนองนโยบายผู้บังคับบัญชาหน่วยเหนือและสานต่อนโยบายของ พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 โดยถือคติ “ทุกปัญหาย่อมมีทางออก“ โดยเฉพาะการสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านระดับพื้นฐานในสังคมชุมชนสู่ระดับสังคมเมือง ดึงส่วนราชการเข้ามามีส่วนร่วมกับประชาชนในการแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทุกด้าน

นอกจากนี้ ยังส่งเสริมสังคมให้อยู่ร่วมกันแบบพหุวัฒนธรรม เหมือนเฉกเช่นภาพในอดีตให้กลับคืนมา แม้ต่างเชื้อชาติศาสนาก็สามารถอยู่ร่วมกัน ช่วยเหลือจุนเจือกัน จะสามารถขยายผลถึงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาในทุกด้าน โดยเฉพาะปัญหาความมั่นคงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งจะค่อย ๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีได้

Related Posts

Send this to a friend