POLITICS

‘วิโรจน์’ ขอดูรายละเอียดก่อน หลัง ’สุทิน‘ เชิญร่วมเป็นที่ปรึกษาโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ

‘วิโรจน์’ ขอดูรายละเอียดก่อน หลัง ’สุทิน‘ เชิญร่วมเป็นที่ปรึกษาโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ย้ำหลักการตรวจสอบถ่วงดุล อย่าให้นิติบัญญัติอยู่เหนือฝ่ายบริหาร

วันนี้ (23 ม.ค. 67) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวถึงกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เชิญนายวิโรจน์ และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ เป็นที่ปรึกษาโครงการจัดซื้อจัดจ้างเรือดำน้ำว่า เรื่องการตรวจสอบถ่วงดุลเรามี กมธ.ความมั่นคงของนายรังสิมันต์อยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมารัฐมนตรีให้ความร่วมมือ ในการตรวจสอบถ่วงดุล ก็เพียงแค่ให้ข้อมูลเปิดเผย รายละเอียดสัญญา และตอบคำถามที่ กมธ.สงสัย

อย่างไรก็ตาม อะไรที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศชาติ และเรื่องการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เป็นเรื่องที่พิจารณาได้ แต่เราต้องอย่าลืมหลักการ การตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจนิติบัญญัติต้องไม่เข้าไปแทรกแซงอำนาจฝ่าย บริหาร เพราะความรับผิดชอบในการตัดสินใจ ยังอยู่ในอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สิ่งที่ต้องกังวลคือจะเอาความเห็นของฝ่ายนิติบัญญัติ ไปอ้างอิงในการตัดสินใจของฝ่ายบริหาร ถ้าอยู่ลักษณะเช่นนั้น จะทำลายหลักการตรวจสอบ และถ่วงดุลในระบอบประชาธิปไตยทันที

ดังนั้นในความรู้สึกของตนเองกับนายสุทิน เข้าใจกันดี ไม่ได้มีปัญหา แต่อยากจะรักษาหลักการตรวจสอบถ่วงดุล และอยากให้เป็นหน้าที่ของ กมธ.การทหาร หรือกมธ.ความมั่นคง ของนายรังสิมันต์ แต่ตนเองคงตอบแทนนายรังสิมันต์ไม่ได้ ส่วน กมธ.การทหาร อยากให้อยู่ในบทบาทของ กมธ.การทหาร และกระทรวงกลาโหมมากกว่า ดีกว่าให้เป็นนายวิโรจน์

ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่าหมายความว่าจะไม่เข้าร่วมตามคำเชิญใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่าคิดว่าคงจะมีโอกาสหารือกับนายสุทิน ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งวันนี้คงต้องคุยกันในรายละเอียดก่อน แต่เจตนาที่พยายามจะคลี่คลายหาทางออก ให้เป็นประโยชน์กับเงินภาษีของประชาชน ก็เป็นดำริที่ดีอยู่แล้ว แต่ถ้าเรามีการข้อตกลงร่วมกัน ในการตรวจสอบถ่วงดุลระหว่างกระทรวงกลาโหม และ กมธ.การทหาร เพื่อให้ทำงานกันอย่างแนบแน่นมากขึ้น ไม่ใช่ว่าส่งเอกสารหรือขอหนังสืออะไรไปแล้ว ไม่เคยได้รับอย่างที่เคยเป็นมา ถ้าจะทำงานอย่างไร้รอยต่อมากขึ้น ถ้าเราสงสัยแล้วท่านชี้แจง เปิดเผยรายละเอียดเป็นสาธารณะ อะไรที่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็เข้าอกเข้าใจกัน ตรงนั้นจะทำให้เราทำงานได้อย่างเข้าใจ

สำหรับกรณีที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้ตอบรับเข้าร่วมแล้วมองว่าเป็นบทบาทที่เหมาะสมหรือไม่ นายวิโรจน์ มองว่าเป็นการตัดสินใจของนายยุทธพงศ์ ซึ่งบทบาทที่ผ่านมา ก็เป็นคนที่มีข้อมูลเรื่องเรือดำน้ำ และน่าจะช่วยงานนายสุทินได้พอสมควร ไม่ว่านายยุทธพงศ์จะตัดสินใจด้วยเหตุผลใด ตนเองก็เคารพการตัดสินใจของนายยุทธพงษ์

ทั้งนี้ จะต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคก่อนจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า คงจะมีการหารือกันในหมู่ ส.ส. มากกว่า เพราะเป็นเรื่องอำนาจนิติบัญญัติ

Related Posts

Send this to a friend