POLITICS

’รวมไทยสร้างชาติ‘ ชู ‘พีระพันธุ์ – อรรถวิชช์ – นราพัฒน์’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ

’รวมไทยสร้างชาติ‘ ชู ‘พีระพันธุ์ – อรรถวิชช์ – นราพัฒน์’ เป็นแคนดิเดตนายกฯ พร้อมโชว์นโยบายครั้งแรก ประกาศให้เงินทหารออกรบ รอบละ 200,000 บาท สมัครใจเกณฑ์ทหาร รับ 30,000 บาท พร้อมเงินเดือน – ค่าครองชีพ 15,000 บาท ทุบค่าไฟ-น้ำมัน พิฆาตคนชั่ว แก้กฎหมายประหาร “คนโกง-สแกมเมอร์” ลูกหลานใช้หนี้คืนแผ่นดิน โว เป็น รมว.พลังงาน คนแรก ลดพลังงานได้จริง ไม่อ่อนข้อให้นายทุน

วันนี้ (22 ธ.ค. 68) พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดตัวนโยบายชุดแรก นำโดย นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรค, นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค และว่าที่ผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. ของงพรรค

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองมาแถลงข่าวนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ เห็นว่าเป็นที่จำเป็นกับประเทศชาติในวันนี้คือ “เด็ดขาด แก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ” หลายคนมีคำถาม แต่ตนเองอยากบอกว่า ที่ตนเองมายืนอยู่ตรงนี้ ในฐานะผู้นำพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อมาประกาศให้พี่น้องประชาชนรู้ว่าเรารวมไทยสร้างชาติ เราจะแก้ไขปัญหาของประเทศ

ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศวันนี้ ทั้งเรื่องความมั่นคง การปะทะกันตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ค่าครองชีพ การทุจริต การโกงชาติ สแกมเมอร์ เศรษฐกิจฐานราก คนรากหญ้าจะตายอยู่แล้ว แต่บางบริษัท กำไร 2 – 3 แสนล้านบาท จะอยู่กันอย่างไร เกษตรกรจะหาเงินแต่ละบาทแต่ละสตางค์ ต้นทุนก็ไม่ลง แต่พ่อค้าคนกลางรวยเอา ๆ ปัญหาแบบนี้ ไม่ได้เพิ่งเกิด แต่เกิดมานานแล้ว ประเด็นคือเราปล่อยให้ปัญหาเหล่านี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีกไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นวิกฤตของประเทศ นี่เป็นวิกฤตของประเทศ และปล่อยให้เป็นอย่างนี้ เพราะไม่เคยมีการแก้ไขปัญหาด้วยความเอาจริงเอาจังและเด็ดขาด ปัญหาธรรมดาเลยกลายเป็นวิกฤต และจากวิกฤต มันคือความเดือดร้อนของคนไทยอย่างมาก เราพรรครวมไทยสร้างชาติตระหนัก และที่ผ่านมาตนเองประกาศมาตลอดว่ารวมไทยสร้างชาติไม่ได้มาเล่นการเมือง แต่เรามาทำงานการเมืองให้กับพี่น้องประชาชน

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ตนเองเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนแรก ที่แก้ไขปัญหาเรื่องค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันให้กับประชาชน เป็นคนแรก และเป็นครั้งแรกที่ผู้ค้าน้ำมัน ต้องประกาศต้นทุนให้ประชาชน และกระทรวงพลังงานรับทราบ นี่คือตัวอย่างของความเด็ดขาด และเอาจริงในการแก้ไขปัญหา ปัญหาทั้งหมดวันนี้รวมไทยสร้างชาติ ไม่ได้มาเพียงแก้ไขปัญหา จากนี้ไป เราเข้ามาล้างบางความเสียหาย ความชั่ว ความไม่เอาจริงเอาจัง ทำให้ประเทศเกิดวิกฤต เราจะเข้ามาล้างบางความชั่วเหล่านี้ให้หมดไปจากแผ่นดินไทย

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เรื่องความมั่นคง เรื่องอธิปไตย จะทำอย่างไร กำจัดคนโกงให้หมดจากประเทศ หมดจากแผ่นดิน ทำอย่างไรให้ค่าครองชีพค่าพลังงานมันถูกลงกว่านี้ เพื่อฟื้นเศรษฐกิจฐานราก คนรากหญ้าต้องอยู่ได้อย่างมีความสุข ดำรงชีวิตได้ง่าย ให้สังคมเราดีกว่านี้ทุกคนได้รับการดูแลเกษตรกร ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ต้องได้รับการดูแล นโยบายหลักที่สำคัญของเรา พรรครวมไทยสร้างชาติ จะเข้าสู่สนามเลือกตั้งในปี 2569 นี้ภายใต้คำว่า “เด็ดขาด แก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ”

นายพีระพันธุ์ ระบุว่า หนึ่งตารางนิ้วของประเทศไทยเสียไม่ได้เด็ดขาด เราจะยกเลิกเอ็มโอยู 43 และ 44 ซึ่งประเทศไทยไม่เคยได้ประโยชน์อะไรเลยแม้แต่หนึ่งครั้ง ทำตัวเป็นคนดี แต่ถูกรังแกมาตลอด ศักดิ์ศรีประเทศไทยถูกเหยียบย่ำ ถูกย่ำยี เราจะไม่ยอมอีกต่อไป แผ่นดินไทยทุกตารางนิ้ว ต้องกลับคืน เขตทางทะเลต้องกลับมาเป็นของเราอย่างถูกต้อง หมดปัญหาเรื่องพลังงานใต้ท้องทะเล ต้องนำกลับขึ้นมาพัฒนาเพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่ได้ไปโกงใคร แต่เราต้องทำโดยเด็ดขาด

นายพีระพันธุ์ ระบุว่า เราต้องสร้างรั้วชายแดนอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาการเข้าออกการค้ายาเสพติด สแกมเมอร์ ทุนเทา การค้ามนุษย์ แต่ที่แย่ที่สุดคือการเข้ามาฝังทุ่นระเบิด เราจะไม่ปล่อยให้ใครทำแบบนี้กับแผ่นดินไทย และทหารไทยอีกเด็ดขาด เราจะป้องกันอธิปไตยของชาติจากการรุกรานทุกรูปแบบ และการป้องกันคนชั่วที่จะเข้ามาทำมาหากินในประเทศไทยอย่างเด็ดขาด

“รั้วของจริงสร้างด้วยเหล็ก รั้วของชาติสร้างด้วยจิตวิญญาณ เลือดเนื้อ” นายพีระพันธุ์ กล่าว

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า คนเหล่านี้มีชีวิตเหมือนเรา มีครอบครัวต้องดูแล ดังนั้น ทุกคนที่ออกรบ จะได้เบี้ยออกรบคนละ 200,000 บาท ทุกรอบของการออกรบ ทหารใหม่ที่จะเข้ามาทำงานทุกคนที่สมัครใจเกณฑ์ทหารรับไปเลยคนละ 30,000 บาท ทหารเกณฑ์ส่วนใหญ่ เป็นคนรายได้น้อย มีภาระครอบครัว ดูแลพ่อแม่ แต่ต้องมาเป็นทหารนับใช้ชาติ จึงมีเงินเดือน และค่าของชีพให้เดือนละ 15,000 บาท

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า เราต้องกำจัดพิฆาตคนชั่วให้หมดไปจากแผ่นดินนี้ คนโกงชาติ โกงแผ่นดิน ต้องประหารให้หมด พวกสแกมเมอร์ ต้องโทษหนักประหารชีวิตสูงสุด หากเราเป็นรัฐบาล จะออกพระราชกำหนดประหารคนชั่วเหล่านี้ให้หมดจากแผ่นดินทันที และคนที่โกงเงินชาติ ลูกหลานจะต้องชดใช้เงินที่โกงแผ่นดิน

นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ปัญหาของทุกคนคือค่าครองชีพ และสิ่งที่รัฐบาลสามารถช่วยได้คือการ “ทุบค่าพลังงาน” ซึ่งจะสามารถลดค่าพลังงานได้ถึง 3.71 บาท และสามารถลดได้ถึง 3.30 บาทส่วนราคาน้ำมันเบนซิน และดีเซล 30 บาทต่อลิตรเท่านั้น ตอนนี้จะทำให้ดู เพราะเตรียมการทำแล้ว ทำได้ทันที เราจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับนายทุน ทั้งทุนพลังงาน และคนที่เอาเปรียบสังคม และประชาชนเราจะไม่ยอมเด็ดขาด

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า นโยบายปฏิรูปการศึกษาสำคัญ อยากเรียนอะไรต้องได้เรียน เลิกฟ้องนักเรียนที่เป็นหนี้ กยศ. ทำงานใช้หนี้ภาครัฐ เพื่อประโยชน์และสังคม

นายพีระพันธุ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า เราพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่สนามรบ ไม่ได้ชิงความชนะกับพรรคการเมืองไหน แต่เราจะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ขอโอกาสประชาชน เอาชนะวิกฤติชาติ เข้ามาแก้ไขปัญหาเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อพรรค เราจะทำทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของชาติ ซึ่งวันนี้เราพร้อมส่งผู้สมัคร สส. ครบทั้ง 33 เขตในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงนโยบายด้านเศรษฐกิจว่า กว่า 20 ปีแล้ว ที่เศรษฐกิจไทยย่ำอยู่กับที่ สาเหตุคือประเทศไทยไม่มีธุรกิจใหม่ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ หรือ Data Center กี่นายกรัฐมนตรีแล้ว ที่พาธุรกิจเหล่านี้เข้ามาเมืองไทย แต่สุดท้ายก็ไหลออกไปสู่ต่างประเทศ เด็กจบใหม่หางานยาก ห่วงโซ่อุปทานไม่เคยครบเส้น

ปัจจัยแรก คือเรื่องพลังงาน มี 2 ธุรกิจที่ผูกขาดรุนแรงที่สุดในประเทศนี้ ซึ่งเราจะสู้ คือธุรกิจพลังงานผูกขาด ประเทศไทยไม่สามารถหาพลังงานสะอาดได้ 100% เพราะเราเกรงใจผู้ผลิต สัญญาที่เราต่อทุก 25 ปีเราต้องรอหมดสัญญาก่อนหรือไม่จึงจะพาประเทศไทยไปธุรกิจใหม่ได้ ต่อไปนี้เราไม่รอ

โดยนโยบายใหม่ที่เราจะเปิดเพื่อสร้างการจ้างงานคือเสรีโซล่าเซลล์ ไทยเป็นประเทศที่มีแสงแดดมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเอเชีย นโยบายนี้นอกจากจะทำให้ประชาชนประหยัดไฟแล้ว ก็จะเป็นการดึงดูดธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ และ Data Center เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยที่นายกรัฐมนตรีไม่ต้องจูงมือมา เพราะธุรกิจเหล่านี้ต้องการพลังงานสะอาด 100% โรงงานใดก็สามารถติดโซล่าเซลล์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตใคร

นายอรรถวิชช์ ชี้ว่า นายพีระพันธ์พ้นจากตำแหน่งแค่ไม่นาน นโยบายนี้กลับถูกคว่ำทันที แต่ปัจจุบันนี้ไทยผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการ หากรัฐบาลปล่อยให้มีการซื้อกระแสไฟฟ้ากลับสู่ระบบอีก จะทำให้ค่าไฟยิ่งแพงขึ้น จึงควรเปิดโอกาสให้มีเสรีโซล่าเซลล์ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและเพิ่มการจ้างงาน แต่ทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่สามารถทำได้ เพราะเราไปเหยียบเท้าทุนพลังงานใหญ่เข้าเท่านั้น

อีกปัจจัยคือ ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ พรรครวมไทยสร้างชาติเสนอนโยบายเครดิตบูโร ปัจจุบันคนไทยติดเครดิตบูโรอยู่ราว 5 ล้านคน ส่วนมากเป็นวัยทำงานทั้งนั้น ประเทศไทยนี่ครัวเรือนสูง แต่ไม่เกิดการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์ เพราะเครดิตบูโรติดอยู่ 3 ปี วันนี้เรากำลังนำชนชั้นกลางของเราไปเจอดอกเบี้ยแพง ขณะที่ปีที่แล้วธุรกิจกำไรพาณิชย์ทั้งกลุ่มกำไร 2-3 แสนล้านบาท

นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า หากเลือกรวมไทยสร้างชาติ หากเราได้เข้าไปเป็นรัฐบาล จะลบประวัติเครดิตบูโรทันทีเมื่อจ่ายจบ กู้ใหม่ได้ทันที เราจะไม่แช่แข็งลูกหนี้เด็ดขาด และจะชนกับกลุ่มธนาคารถ้าท่านไม่เห็นด้วย

ปัจจัยสุดท้ายคือ นโยบายระบบราชการงานไว หลายใบอนุญาต จบที่ 1 คำขอ เราจะไม่เปิดโอกาสให้ข้าราชการโกงกินอีกต่อไป รถจะทำให้เรื่องต่างๆ ผลักดันยาก ถ่วงเวลาไปเปล่าๆ

ต่อมา นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงนโยบายด้านการเกษตร โดยระบุว่า ปัญหาของเกษตรกรหลักๆ ประกอบด้วย เรื่องต้นทุน และการถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลาง ต้นทุนของการเกษตรคือน้ำ แต่กระทรวงเกษตรซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบก็ยังไม่สามารถขยายพื้นที่ชลประทาน หรือพื้นที่รับน้ำที่จะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม รัฐบาลควรเพิ่มงบประมาณสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำ ทำแก้มลิงในทุกจังหวัดให้ช่วยกันเก็บน้ำ ซึ่งจะทำให้สามารถกระจายน้ำไปสู่เกษตรกรทุกพื้นที่ได้ และประกอบกับโซล่าร์เซลล์เสรี การส่งน้ำก็ไม่ใช่เรื่องยาก โดยต้นทุนก็จะต่ำ

สำหรับเรื่องปุ๋ย เชื่อว่าพรรครวมไทยสร้างชาติมีความเด็ดขาดในการแก้ปัญหาราคาปุ๋ย เราจะดึงโพแทสเซียมขึ้นมาเป็นแม่ปุ๋ย และซากุระให้ราคาปุ๋ยไม่เกินกระสอบละ 500 บาท ขณะที่ปัญหาเรื่องที่ดินทำกิน พรรคจะเสนอตั้งศาลที่ดินดูแลปัญหาให้ประชาชนเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้ความเป็นธรรม รัฐไม่ได้ถูกต้องเสมอไป รัฐจัดสรรที่ดินมาแล้วแต่หน่วยงานไม่ดำเนินการ ประชาชนสามารถพึ่งศาลที่ดินได้

นายนราพัฒน์ ระบุว่า รัฐต้องสร้างหน่วยงานกลางเพื่อดูแลราคาผลผลิตทางการเกษตร สินค้าเกษตรต้องต่อยอดกำไรจากผลิตภัณฑ์แปรรูป สร้างพื้นที่ให้เกษตรกรสามารถจำนำ เพิ่มมูลค่าได้ รวมไทยสร้างชาติจะช่วยลดทั้งต้นทุนชีวิต เช่น ค่าน้ำมัน ค่าไฟ ค่าก๊าซหุงต้ม และลดต้นทุนอาชีพ เพิ่มกำไรในกระเป๋า รวมถึงลดต้นทุนทางเศรษฐกิจ เพิ่มการแข่งขัน

จากนั้น พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ได้แก่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ

Related Posts

Send this to a friend