‘ราเมศ’ เผย ประชาธิปัตย์ ยืนยันไม่ได้ขวาง ‘เเลนด์บริดจ์’ แต่มองรัฐบาลตัดสินใจเร็วไป
‘ราเมศ’ เผย ประชาธิปัตย์ตั้งคณะทำงานศึกษา ‘เเลนด์บริดจ์’ ก่อนแสดงจุดยืนต่อรัฐบาล ยืนยันไม่ได้ขัดขวาง มองรัฐบาลตัดสินใจเร็วไป
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีโครงการเเลนด์บริดจ์ว่า พรรคได้ติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์ ซึ่งพรรคได้ให้ความคิดเห็นไปแล้วบางส่วน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเก็บข้อมูลโครงการโดยมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามามีส่วนร่วม เวลานี้ไม่อยากให้มองว่ามีความเห็นเป็นสองฝั่ง แต่สิ่งสำคัญที่รัฐบาลนี้ละเลยไป คือขั้นตอนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดในการรับฟังเสียงของประชาชน และอีกประเด็นคือ การให้ความรู้กับประชาชนในโครงการดังกล่าว
นายราเมศ กล่าวต่อไปว่า โครงการใหญ่มีทั้งผลดีและผลเสีย แต่ทำอย่างไรให้รัฐบาลยึดหลักประกันของคนพื้นที่ ต้องอธิบายตามรัฐธรรมนูญขั้นพื้นฐาน อธิบายให้ประชาชนเข้าใจถึงผลดีผลเสียและผลกระทบ ยิ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับวิถีชีวิตของประชาชน รัฐบาลจะต้องให้ข้อมูลให้ครบถ้วน ไม่เช่นนั้นโครงการจะเดินไปผิดทิศผิดทาง
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะมีคณะทำงานขึ้นมาศึกษาเรื่องดังกล่าวโดยเฉพาะ ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ขัดขวาง ซึ่งโครงการต่าง ๆ ที่พรรคคิด เชื่อว่าหลายโครงการก่อนหน้านี้มีประโยชน์กับประชาชน เพราะฉะนั้น ข้อมูลต่าง ๆ พรรคจะเก็บรวบรวมศึกษาความเป็นมาเป็นไป และความมีพิรุธ จะต้องมีการศึกษาอย่างรอบคอบ หลังจากนั้นจะแสดงจุดยืน ทำหนังสือไปยังรัฐบาลเพื่อให้เห็นว่า จุดยืนของพรรคต่อโครงการดังกล่าวเป็นอย่างไร
นริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคเก็บข้อมูลรวบรวมไว้ในระดับหนึ่ง แต่คณะกรรมาธิการยังไม่ได้พิจารณา ซึ่งแผนของพรรคในกรรมาธิการก็มี คาดว่าจะใช้เวลาอีกช่วงหนึ่ง เวลานี้ยังไม่สามารถให้ความชัดเจนได้ เพราะยังมีข้อมูลที่จะต้องพิจารณาร่วมกันในชั้นกรรมาธิการก่อน ถึงแม้พรรคประชาธิปัตย์จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็จะมีทางออกในการพัฒนาพื้นที่ในภูมิภาคอย่างแน่นอน โดยจะนำเสนอต่อรัฐบาลถึงท่าทีและจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่ากรณีดังกล่าวมีความเห็นอย่างไร
เมื่อถามว่ารัฐบาลฉาบฉวยเกินไปหรือไม่ ที่นำโครงการดังกล่าวมาชูเป็นนโยบายสำคัญ นายราเมศ กล่าวว่า การศึกษาต้องลึกกว่านี้ ต้องเป็นเอกภาพกว่านี้ ต้องมีข้อสรุปที่มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่รัฐบาลรีบเกินไป สรุปเร็วเกิน ไปเชิญชวนเข้ามาลงทุนเร็วเกินไปนิด ไม่ได้มองว่าเป็นการเร่งใช้งบประมาณ แต่เป็นการเชิญชวนลงทุน ซึ่งรัฐบาลจะต้องสร้างความมั่นใจ หากโครงการเเลนด์บริดจ์ไม่สามารถสร้างความมั่นใจได้ โครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลในอนาคตก็จะไม่สามารถสร้างความมั่นใจได้เช่นกัน ซึ่งจะกระทบกับโครงการของรัฐบาลในอนาคต
