‘ทูตพินทุ์สุดา’ เผย ‘ปานปรีย์’ ย้ำไทยยึดมั่น ‘จีนเดียว’ ตลอดมา

‘ทูตพินทุ์สุดา‘ เผย ’ปานปรีย์‘ ย้ำไทยยึดมั่น ‘จีนเดียว‘ ตลอดมา – ‘หวังอี้‘ ยกเคสคนจีนแห่ซื้อทุเรียนกิน สะท้อนศักยภาพสินค้าเกษตรไทย แย้ม 2 รมว.กต. เห็นพ้องเร่งรัดโครงการรถไฟ-หาข้อสรุปยกเว้นวีซ่า พร้อมเชิญเยือนอย่างเป็นทางการ หลังหารือกันเป็นครั้งแรก

นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง และเจ้าหน้าที่อาวุโสไทยในกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง บรรยายแก่สื่อมวลชน ณ กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2566 เกี่ยวกับการหารือทวิภาคีอย่างเป็นทางการครั้งแรก ระหว่างนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กับ หวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ขณะเข้าร่วมการประชุมกรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation: MLC) ระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 6 – 7 ธันวาคม 2566 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

นางสาวพินทุ์สุดา เปิดเผยว่า การหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทยและจีนนั้น เป็นไปด้วยบรรยากาศเป็นกันเองและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายยินดีในความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับจีน ซึ่งเป็นผลจากการเยือนไทยของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในการประชุมระดับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2565 และการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศใกล้ชิดยิ่งขึ้น และหวังให้มีการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ระดับสูงอย่างต่อเนื่อง

นางสาวพินทุ์สุดา คาดหวังให้มีการรื้อฟื้นกลไกระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ (Consultative Mechanism) ที่เคยจัดตั้งมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน ก่อนจะหยุดไป จึงอยากให้รือฟื้นกลไกเพื่อหารือประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งทวิภาคี ภูมิภาค และระหว่างประเทศ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนก็ยินดี ฝ่ายไทยจึงเชิญ หวัง อี้ เยือนไทยอย่างเป็นทางการในโอกาสแรก ขณะเดียวกัน หวัง อี้ ก็เชิญนายปานปรีย์ เยือนจีนอย่างเป็นทางการในโอกาสแรกเช่นกัน

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังเห็นความสำคัญของการเชื่อมโยงภูมิภาคและอนุภูมิภาค จึงเห็นพ้องเร่งรัดการเชื่อมโยงผ่านโครงการรถไฟลาว-จีน และโครงการรถไฟไทย-จีน เพื่ออำนวยความสะดวกการขนส่งสินค้าการเกษตร และการเดินทางไปมาหากัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนโครงข่ายรถไฟเอเชีย (Asia Railway Network) ที่นอกจากเชื่อมต่อรถไฟในจีน ลาว และไทย ก็ยังเชื่อมต่อไปยังมาเลเซีย และสิงคโปร์ด้วยได้

“สำหรับสินค้าเกษตร จีนก็เป็นตลาดใหญ่ของไทย ในระหว่างการหารือ หวัง อี้ ก็หยิบยกกรณีว่า คนจีนนิยมบริโภคทุเรียน ทุเรียนเป็นสินค้าที่ส่งออกไปจีนได้มูลค่ามาก มีเหตุการณ์ที่เปิดขายทุเรียนผ่านออนไลน์แพลตฟอร์มภายใน 1 นาที ก็ขายได้ 8,000 กว่าลูกทันที สินค้าเกษตรจึงมีศักยภาพสูงมาก“ นางสาสพินทุ์สุดา กล่าว

นางสาวพินทุ์สุดา ยังกล่าวต่อไปว่า จีนยังแจ้งความยินดีให้นำสินค้าเกษตรจากไทยไปจีนให้มากขึ้น และแจ้งความประสงค์ของจีนที่จะขยายการลงทุนมาไทยมากขึ้น ในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต และยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electronic Vehicles: EV)

ส่วนเรื่องมิติความมั่นคง นางสาวพินทุ์สุดา เปิดเผยว่า ทั้งสองฝ่ายอยากกระชับความร่วมมือ ในการปราบปรามอาชญากรรม และหลอกลวงออนไลน์ข้ามชาติ ทั้งยังเห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือท่องเที่ยว อย่างการเร่งรัดเจรจาความตกลงการตรวจลงตราผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาไทย – จีน เพื่อยกเว้นวีซ่าระหว่างกัน ทั้งสองฝ่ายจะให้คณะทำงานไปพบกันโดยเร็ว เพื่อหาข้อสรุปในโอกาสแรก ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญ

สำหรับประเด็นภูมิภาค นางสาวพินทุ์สุดา เปิดเผยว่า ไทยย้ำในการยึดมั่นในท่าทีของไทยต่อหลักการจีนเดียว (One China Policy) มาโดยตลอด นายปานปรีย์ ยังขอบคุณ หวัง อี้ ที่สั่งการด้วยตนเองในการช่วยเหลือคนไทยในเมืองเล้าก์ก่าย รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา