POLITICS

นครบาลเตรียมพร้อมรับม็อบ เตือนจะถูกดำเนินคดี และหางานทำยาก

นครบาลเตรียมพร้อมรับม็อบ หากมีการชุมนุม วันนี้ เตือนผู้ชุมนุมเรียกร้องทางการเมือง จะถูกดำเนินคดี และหางานทำยาก

วันนี้ (21 ม.ค. 65) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงถึงสถานการณ์การชุมนุมมางการเมือง 4 กลุ่มในวันนี้ (21 ม.ค. 65) ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ กลุ่ม p-move และกลุ่มสลัม 4 ภาค รวมตัวกันหน้าทำเนียบรัฐบาล กลุ่มที่2 กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎรชุมนุมหน้าเรือนจำพิเศษกรุง กลุ่มที่3 กลุ่มพลเมืองโต้กลับชุมนุมที่หน้าศาลฎีกา และกลุ่มสุดท้ายคือที่ต้องเฝ้าระวังคือกลุ่มทะลุแก๊ส ชุมนุมใต้ด่วนดินแดง

จากการชุมนุมดังกล่าว คาดว่าจะส่งผลกระทบกับการจราจร จำนวน 2 จุดที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ขอให้ประชาชน หลีกเลี่ยงเส้นทางถนนงามวงศ์วานและจุดที่ 2 หากมีการรวมกลุ่มทะลุแก๊ส ขอให้หลีกเลี่ยงการจราจร ถนนอโศกดินแดง และถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าและออกตั้งแต่เวลา 16:00 น. เป็นต้นไป ประชาชน สามารถสอบถามการจราจรได้ที่เบอร์ 1197 ตลอด 24 ชั่วโมง

ปัจจุบัน มีคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจนครบาล 814 คดี สอบสวนและสั่งฟ้องไปแล้ว 409 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 405 คดี

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวถึงการจัดกิจกรรมชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะหน้าทำเนียบรัฐบาล กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดหน้าที่ตำรวจดูแลด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย ผ่านพ้นไปด้วยดี โดยขอให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับในการชุมนุม ต้องไม่กระทบสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน

โดยเฉพาะเรื่องการจราจร โดยคดีที่เกิดขึ้นในส่วนของนครบาลรวมกว่า 800 กว่าคดีคิดเป็น 68% ของคดีทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นว่าคดีใน กทม.มีการดำเนินคดีเป็นจำนวนมากโดย ผู้ที่ถูกดำเนินคดีบางรายเป็นเยาวชน เมื่อการดำเนินคดีเสร็จสิ้นจำเป็นต้องหางานทำการถูกดำเนินคดี เป็นส่วนหนึ่งที่นายจ้างจะพิจารณา บุคคลที่จะเข้าทำงานในบริษัทต่างๆ ต้องคิดให้รอบคอบในการออกมาชุมนุมเรียกร้อง อย่าตกเป็นเครื่องมือโดยเฉพาะการแสดงความคิดเห็นด้านการเมืองในโซเชียลมีเดีย ที่สุ่มเสี่ยงกับการจะถูกดำเนินคดีในอนาคต

นอกจากนี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ ยังได่กล่าวถึงกรณีของ ด.ต.สุดสาคร ที่ปรากฏภาพเผยแพร่ ทางสื่อโซเชียล โดยระบุข้อความว่า “ไปทําอะไรมา ถึงต้องปิดแผ่นป้ายทะเบียน ถามจริง !! ไม่รู้สึกละอายใจบ้างเลยเหรอ” สอบสวนพบว่า ตํารวจที่ปรากฏในภาพคือ ด.ต.สุดสาคร บุญล้อม ผบ.หมู่ จร.สน. ทุ่งมหาเมฆ โดยเจ้าตัวยืนยันว่า เป็นบุคคลตามภาพจริง และได้ขับรถจักรยานยนต์ติดสติ๊กเกอร์ รณรงค์ปลอดโควิด ปลอดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่2565 และไม่ทราบว่ามีการปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน

ด้าน ด.ต.สุดสาคร ฯ ยืนยันว่ามิได้มีเจตนาที่จะ ปิดบังแผ่นป้ายทะเบียน โดยปัจจุบันได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว จากนั้นได้นําตัว ด.ต.สุดสาคร บุญล้อม พบพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อทําการปรับเป็นจํานวน เงิน 500 บาท ในความผิดฐาน “เปลี่ยนแปลงโดยวิธีใดๆ หรือปิดบังทั้งหมดหรือแต่บางส่วนซึ่งเครื่องหมาย ที่นายทะเบียนออกให้ประจํารถ”

Related Posts

Send this to a friend