‘เศรษฐา’ เชื่อ ‘ก้าวไกล’ เคารพคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ปลุกระดมวุ่นวาย
‘เศรษฐา’ เชื่อ ‘ก้าวไกล’ เคารพคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ปลุกระดมจนวุ่นวาย หลังโดนยุบพรรค บอกคุยฝ่ายความมั่นคงแล้ว มองเป็นการแสดงจุดยืนเดินหน้าการเมือง ชี้ ’อเมริกา‘ ค้านไม่มีความหมาย ลั่น ไทยเป็นประเทศเอกราช ไม่มีใครยอมให้ก้าวก่าย เผย ‘บัวแก้ว’ แถลงบ่ายนี้ เผยดูเนื้อหาชี้แจงแล้วไม่ระหองระแหง
เมื่อเวลา 08.40 น. วันนี้ (8 ส.ค. 67) ที่ ท่าอากาศยานกองบิน 2 กองบิน.6 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเคลื่อนไหวของพรรคก้าวไกลหลัง ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค ที่เหมือนเป็นการปลุกระดมว่า ตนเองคิดว่าอย่าใช้คำว่าปลุกระดม และคิดว่าไม่ใช่ความตั้งใจของพรรคก้าวไกล ที่จะให้เกิดความวุ่นวายหรือปลุกระดม แต่เป็นการแสดงจุดยืน และตนเข้าใจว่าเป็นการประกาศที่จะเดินหน้าการเมืองต่อไป ก็ขอให้กำลังใจในการที่จะต้องทำงานต่อไป ซึ่งก็เป็นเรื่องของทางการเมืองไป และตนเองก็ได้พูดคุยกับฝ่ายความมั่นคงแล้ว ไม่ได้มีข่าวอะไรที่ทำให้เราจะต้องระมัดระวังในเรื่องการปลุกระดม และตนเองก็มั่นใจว่าทางพรรคก้าวไกลเคารพการตัดสินของศาล และมีแนวทางการเดินต่ออย่างถูกต้องตามวิถีทางทางการเมืองที่ต้องเดินต่อไป ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (7 ส.ค. 67) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มารายงานเรื่องการชุมนุมหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัย ก็เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นไปด้วยความสงบทุก ๆ ฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาออกมาคัดค้านไม่เห็นด้วยต่อการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไทย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราเป็นประเทศที่มีเอกราช เรื่องการออกมาคัดค้าน มันไม่มีความหมายอะไรหรอก เพราะเราเป็นประเทศที่มีเอกราช เรามีวิถีการพัฒนาเรื่องการเมือง เรื่องของระบอบประชาธิปไตยของเราให้เป็นไปตามขั้นตอนที่มันถูกต้อง สิ่งที่เราไม่เห็นด้วยก็แก้กฎหมายกันไป ตามวิถีของรัฐสภาอยู่แล้ว
“ผมมั่นใจว่าคนไทยทุกคนเข้าใจตรงนี้ เราคงไม่มีใครยอมให้ประเทศอื่นมาก้าวก่ายเรื่องอธิปไตยของเราหรอก ทั้งนี้อย่าใช้คำว่าก้าวก่ายดีกว่า ผมว่าเขาอาจจะมาเสนอแนะ เราอยู่ด้วยกันในโลกที่มีความเปราะบาง ฉะนั้นเราก็ต้องบริหารกันไป ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยอีกด้วยว่าวันนี้ในช่วงบ่ายกระทรวงการต่างประเทศก็จะมีการแถลงข่าว ซึ่งตนเองได้ดูแล้วก็เป็นถ้อยคำที่เหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดความระหองระแหง ขอใช้คำนี้ดีกว่า เขาก็เป็นประเทศที่ใหญ่ ก็มีความเป็นห่วง และเป็นความปรารถนาดี ส่วนเราก็มีวิธีการเดินของเรา
ส่วนที่ภาคเอกชนแสดงความเป็นห่วงการเมืองช่วงเดือนสิงหาคมนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แน่นอน แต่ก็จบไปแล้วเมื่อวานเรื่องหนึ่ง แต่ก็ยังมีความไม่แน่นอน ยังมีความเป็นห่วงเป็นใยอยู่เรื่องของตนเองในวันที่ 14 สิงหาคม อย่างที่เรียนไปแล้วว่าได้ส่งเรื่องไปที่ศาลเรียบร้อยแล้ว และเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญก็เตรียมการพิจารณาอยู่แล้ว ในวันที่ 14 สิงหาคม ก็คงจะทราบ ส่วนวันนี้ตนเองก็ยังทำงานอยู่ตามปกติ และในวันที่ 14 สิงหาคม ก็ยังทำงานปกติ แม้จะกังวลแต่ก็ไม่ได้ลดหรือเลื่อนตารางการทำงาน ยังคงทำงานอยู่ตลอด
กรณีที่ภาคเอกชนเป็นห่วงเรื่องการเมืองจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อันนี้ไม่ทราบ ไม่อยากจะไปพูดอะไรที่เป็นการชี้นำ ให้คณะทำงานต้องเป็นห่วง แต่ละองค์กร แต่ละคนมีหน้าที่ ขอให้ทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ในช่วงเวลาที่ยังต้องทำอยู่