POLITICS

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เชียงราย 21 ธ.ค.นี้

โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เชียงราย 21 ธ.ค.นี้ เปิดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีของนร.ไทย-นร.ญี่ปุ่น พร้อมตรวจติดตามการค้าชายแดนไทย-พม่า-จีน และโครงการนำร่องเกษตรดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ จังหวัดเชียงราย ในวันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 โดยมีกำหนดการดังนี้

เวลาประมาณ 07.30 น. นายกรัฐมนตรีจะออกเดินทางจากท่าอาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย และเดินทางต่อไปยังโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย (รร.จภ.) จังหวัดเชียงราย เพื่อเป็นประธานเปิดงานมหกรรมสิ่งประดิษฐ์ไอซีทีของนักเรียนไทยและนักเรียนญี่ปุ่น Thailand-Japan Student ICT Fair 2022 (TJ-SIF2022) โดยนายกรัฐมนตรีจะรับฟังการนำเสนอโครงงานของนักเรียนพร้อมติดตามผลการพัฒนาโรงเรียนในด้านต่าง ๆ และเยี่ยมชมนิทรรศการ PCSHS CR Smart School ชมวีดิทัศน์การแข่งขัน Thailand – Japan Game Programming Hackathon (TJ-GPH 2022) และการพัฒนาเกมส์ของนักเรียน

รวมทั้งเยี่ยมชมผลงานและนวัตกรรมด้านไอซีทีของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วย ซึ่ง รร.จภ. เป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาคมุ่งจัดการศึกษาให้กับนักเรียนผู้มีศักยภาพสูง มีความสามารถพิเศษด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาให้ศึกษาต่อทางด้าน STEM ในมหาวิทยาลัยวิจัยชั้นนำของโลก และพัฒนาไปสู่การเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยี วิศวกร และนักคณิตศาสตร์ในอนาคต โดยที่ผ่านมามีผลการดำเนินงานบรรลุเป้าหมายอย่างชัดเจน สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลโดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมด้าน STEM เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติและนโยบาย Thailand 4.0

ในช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.20 น. นายกรัฐมนตรีและคณะ จะตรวจติดตามผลการดำเนินงานการค้าชายแดนไทย-พม่า-จีน ณ ด่านศุลกากรแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปศูนย์ฝึกอบรมผาหมี จังหวัดเชียงราย เพื่อเยี่ยมชมโครงการนำร่องเกษตรดิจิทัลด้วยเทคโนโลยี 5G ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้พืชมูลค่าสูง ได้แก่ วานิลลา ซึ่งเป็นพืชชนิดแรกของโครงการ มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่าง ๆ ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ เช่น ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อจัดการระบบการรดน้ำบนพื้นที่ไหล่เขาร่วมกับแบบดั้งเดิม ทำให้ลดระยะเวลารดน้ำจากเดิม 3 วัน เหลือแค่ 3 ชม./วัน ปรับปรุงระบบการจดบันทึกประวัติการเจริญเติบโตและการเก็บบันทึกข้อมูลแบบอัตโนมัติ ทำให้ทีมนักวิจัยลดระยะเวลาการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด จากเดิมต้องใช้เวลา 6-10 วัน เหลือเพียง 4 วัน ซึ่งเทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านี้ ช่วยสร้างรายได้ ลดปัญหาความยากจน และสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางกลับถึงท่าอาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ในเวลาประมาณ 18.00 น. กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม

Related Posts

Send this to a friend