‘ชลน่าน’ คาดชงร่างแก้ไข รธน.วาระ 1 รับหลักการไม่เกิน 29 ต.ค.นี้
‘ชลน่าน’ คาดชงร่างแก้ไข รธน.วาระ 1 รับหลักการไม่เกิน 29 ต.ค.นี้ ชี้ ‘เพื่อไทย’ ยึดคำวินิจฉัยศาลฯ เป็นบรรทัดฐาน
วันนี้ (20 ก.ย. 68) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่ามีความก้าวหน้า หลังจากได้ประชุมไป 3 ครั้ง โดยเมื่อวานนี้ (19 ก.ย. 68) คณะทำงานได้มีการประชุมพิจารณาร่างที่ได้มีการยกร่างไปแล้ว และได้ให้ฝ่ายเลขาฯ ไปปรับแก้ เพราะเบื้องต้นร่างของพรรคเพื่อไทยเสร็จแล้ว เพียงแต่มีข้อทักท้วงที่ต้องปรับแก้ โดยหลักเรายึดหลักการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเพราะไม่อยากให้เป็นปัญหา และการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
เรามุ่งเน้นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น คือเพิ่มหมวด 15/1 เข้าไป ตามมาตรา 256 เราไม่แตะประเด็นอื่นเลย เพราะระยะเวลามันสั้น จึงเน้นที่การจัดทำรัฐธรรมนูญ และสิ่งที่เราต้องคำนึงคือผู้ยกร่างจะเป็นใคร เราใช้คำว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพราะจะเป็นถ้อยคำที่ต้องปรากฏในรัฐธรรมนูญ จึงคิดว่าสภาร่างเป็นที่รู้จักและเข้าใจ และเปิดช่องการมีส่วนร่วมมากที่สุด โดยที่มาของสภาร่างรัฐธรรมนูญ เราเลี่ยงไม่ให้ขัดกับคำวินิจฉัยของรัฐธรรมนูญ จึงใช้วิธีเลือกทางอ้อม ตอนนี้วางไว้ที่ 140-150 คน เนื่องจากยังมีองค์กรต่าง ๆ ที่ยังขาดหายไป และแบ่งที่มาออกเป็น 2 ส่วน คือ การมีส่วนร่วมของประชาชนให้มาจากแต่ละจังหวัดเพื่อเลือกเบื้องต้นมา ซึ่งแต่ละจังหวัดจะคำนวณจากฐานประชากรตั้งจำนวนไว้ที่ 100 คน แต่ผู้สมควรได้รับการคัดเลือกจะเป็น 2 เท่า ส่วนจังหวัดที่ค่าเฉลี่ยประชากรไม่ถึง 1 คน ก็จะปัดให้ส่งตัวแทนมา 2 คน และส่วนที่ 2 ที่มาจากองค์กรต่าง ๆ ให้ส่งตัวแทนมาผ่านการแต่งตั้งของสภา โดยเมื่อได้ทั้ง 2 ส่วนมาแล้ว รัฐสภาจะเป็นผู้แต่งตั้ง
ส่วนร่างของพรรคเพื่อไทยจะเสร็จทันภายในสัปดาห์หน้าหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่าดูจากเวลาแล้วเรามั่นใจ ถ้าไม่มีปัญหาอุปสรรคอื่น และดูจากไทม์ไลน์ที่กระชับที่สุด วาระที่ 1 อย่างช้าต้องไม่เกินวันที่ 29 ต.ค.68 เพราะสภาผู้แทนราษฎรจะปิดสมัยประชุมวันที่ 31 ต.ค.68 และเปิดสมัยในวันที่ 12 ธ.ค.68 ดังนั้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ต.ค.จนถึง 30 ต.ค.68 มีโอกาสเสนอและพิจารณาร่างได้ก่อนหน้านั้นด้วยซ้ำ ในชั้นรับหลักการและตั้งกรรมาธิการเพื่อพิจารณาร่าง พร้อมย้ำว่ามั่นใจดูจากไทม์ไลน์เสร็จทันแน่นอน และช้าสุดวาระ 3 ต้องไม่เกินกว่า 15 ม.ค.69 หากดูจากวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ และนับไปคำนวณเวลายุบสภา เว้นไว้ 15 วัน เพื่อส่งให้ทำประชามติ












