POLITICS

‘ธิษะณา‘ ร้อง กมธ.ทหาร ตรวจสอบ แรงจูงใจการเสียชีวิตอดีตผู้ช่วยหาเสียงในค่ายทหาร

‘ธิษะณา‘ ร้อง กมธ.ทหาร ตรวจสอบ แรงจูงใจการเสียชีวิตอดีตผู้ช่วยหาเสียงในค่ายทหาร ยืนยันทักมาบ่นถึงความทุกข์และกดดันในค่ายทหารตลอด ไม่ทราบมีปัญหาส่วนตัวแฟนสาวหรือไม่ ’ธนเดช’ ยันไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง

วันนี้ (20 มี.ค. 67) น.ส.ธิษะณา ชุนหะวัน สส.กทม. พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือต่อ นายธนเดช เพ็งสุข สส.กทม. พรรคก้าวไกล รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตระหว่างการรับราชการทหารเกณฑ์ของ นายคมทัช พันฤทธิ์ อดีตผู้ช่วยหาเสียงของตนเอง

น.ส.ธิษะณา กล่าวว่าตนเองได้รับแจ้งจากเพื่อนสนิทของนายคมทัช ที่ไม่เปิดเผยชื่อและนามสกุลว่าพี่สาวของนายคมทัตได้แจ้งแก่ตนว่าเมื่อ วันที่ 19 มีนาคม 2567 เวลาหลังเที่ยงคืน นายคมทัช ซึ่งอยู่ระหว่างการรับราชการทหารเกณฑ์กองบัญชาการกองทัพบกได้กระทำการอัตวิบากกรรมตนเอง เสียชีวิต ในค่ายทหารของกองทัพบกแห่งหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบรายละเอียดอย่างแน่ชัดว่าสาเหตุการตายเป็นเพราะอะไร จากสาเหตุดังกล่าวตนเสียใจและกังวลใจต่อการตรวจสอบสาเหตุในการเสียชีวิตซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีเหตุจากแรงจูงใจอื่นที่ถูกกดดันหรือไม่ เนื่องจากตนและนายพรพัฒน์ได้มีการติดต่อกันเป็นระยะ นายพรทัชได้เคยบอกกล่าวความรู้สึกทุกข์ และความยากลำบากในการรับราชการทหารอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันที่ 17 มีนาคม 2567 เวลา 16:28 น. มีคนแจ้งตนว่านายคมทัศน์ใกล้จะปลดประจำการแล้ว ตนจึงเห็นสาเหตุของการกระทำอัตวิบากกรรมตนเอง และตั้งข้อ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แล้วไม่ได้รับการรักษาเป็นระยะเวลานานซึ่งกองทัพไม่มีสวัสดิการดูแลพลทหารหรือนโยบายที่ดูแลผู้ป่วยทางจิตเวช จึงขอให้ประธานคณะกรรมาธิการ กิจการทหารได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว โดยเสนอแนะว่า กองทัพบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแสดงความจริงใจและความโปร่งใสโดยการเปิดเผยผลการชันสูตรพลิกศพตาม ป.วิอาญา ต่อหน้าสาธารณะชน หรือต่อ กมธ.ทหาร และผู้บังคับบัญชาของนายคมทัชต้องแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น

รวมทั้งต้องเปิดเผยข้อมูลที่อาจเป็นแรงจูงใจเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต กองทัพบกต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันแก้ไขรักษาสภาวะหรือโรคทางจิตเวชที่เกิดจากการฝึกฝนและการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลอย่างครอบคลุมและทั่วถึง มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำหากผู้ใดเป็นโรคซึมเศร้าและไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

นายธนเดช เพ็งสุข รองประธาน กมธ.ทหาร กล่าวว่า ตนได้ทราบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้และได้ติดต่อโดยตรงไปยังเจ้ากรมยุทธการทหารบกเพื่อขอทราบข้อมูลโดยละเอียดจนได้รับข้อมูลกลับมาในช่วงค่ำว่าเป็น เรื่องจริง ซึ่งทางกองทัพบกได้ชี้แจงข้อมูลมาโดยยังไม่มีรายละเอียดมากนัก โดยหลังจากนี้กรรมาธิการจะดำเนินการตรวจสอบในเรื่องที่ถูกตั้งข้อสังเกตอย่างชัดเจนและนำคำตอบมาสู่สังคมให้ได้ ส่วนการดูแลด้านจิตวิทยาต่อกำลังพลในค่ายทหาร ทางกมทอทหารได้ตั้งข้อสังเกตนี้ไปยังทั้งสามเหล่าทัพให้หามาตรการในการดูแลกำลังพลทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคตเพื่อเพื่อป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้น ในอนาคต

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่กองทัพบกได้ชี้แจงเบื้องต้นว่ามูลเหตุมาจากเรื่องชู้สาวนั้นได้รับทราบหรือยัง นายธนเดช กล่าวว่า ตนตรวจสอบเอกสารของกองทัพบกที่ส่งมาให้กรรมาธิการเมื่อวานนี้ แจ้งว่าพลทหารคมทัช พันฤทธิ์ เป็นพลทหาร ตำแหน่งพลลูกมือ สังกัด ร้อย บร.ที่ 3 พัน บร. ปฏิบัติราชการที่โรงเรียนทหารบกอุปถัมภ์โยธินวิทยา ได้กระทำอัตถวิบากกรรมวันที่ 19 มีนาคม 2567 โดยพบว่าเสียชีวิตในเวลา 08:20 น. โดยได้ระบุว่า มีแรงจูงใจจากเรื่องส่วนตัวกับแฟนสาว ซึ่งประเด็นนี้เป็นของกองทัพบก และยังมีหลายมุมมองมาก รวมถึงมุมมองจาก น.ส.ธิษะณาเช่นกัน แต่ทางกรรมาธิการไม่ทิ้งประเด็นใดเลย

ด้าน น.ส.ธิษะณา กล่าวว่า เรื่องนี้จำเป็นต้องพิจารณาจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นความกดดันจากการต้องเข้าไปเกรทหารและการถูกบังคับต่างๆที่ตนได้เห็นข้อความที่น้องเล่าเรื่องราวประสบการณ์ของตนในกองทัพด้วยหรืออาจมีปัญหาส่วนตัวซึ่งตนไม่อาจทราบได้และไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงในประเด็นนี้เพราะผู้เสียชีวิตไม่เคยได้พิมพ์ข้อความมาแต่ได้ส่งข้อความเรื่องความกดดันของผู้บังคับบัญชาที่กระทำต่อตัวเขามาอย่างต่อเนื่องข้อความที่ส่งมามีแต่เรื่องในกองทัพไม่มีประเด็นเรื่องส่วนตัวตนจึงยังไม่สามารถพูดในประเด็นเรื่องส่วนตัวได้ซึ่งเพื่อนทหารเกณฑ์ด้วยกันอาจจะทราบถึงเรื่องส่วนตัวตนก็ไม่ทราบได้และเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการที่จะทำการสืบทราบความจริงต่อไปและอยากให้ผู้บังคับบัญชาแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้นด้วย

ส่วนประเด็นเรื่องการชันสูตรพลิกศพ นายธนเดช กล่าวว่าเมื่อคืนนี้ตนได้คุยกับผู้บังคับบัญชา พบว่าญาติไม่ติดใจผลการชันสูตร ซึ่งตนได้กำชับว่าหากญาติเกิดจิตใจขอให้กองทัพบกได้อำนวยความสะดวกในการแนะนำให้ญาติไปชันสูตรในโรงพยาบาลเอกชนอีกครั้ง ซึ่งทราบมาว่าผู้บังคับการกองพันและหน่วยขึ้นตรงได้ไปพบกับผู้ผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตแล้วเพื่อเยียวยาในเบื้องต้นซึ่งตนขอวิงวอนไปยังผู้บังคับกองพันสอบถามไปยังเพื่อนกำลังพลที่ใกล้ชิดว่าในช่วงที่ผ่านนายคมทัช มีภาวะสุขภาพจิตหรือมีเรื่องเคยปรับทุกข์กับเพื่อนบ้างหรือไม่ หรือสอบถามไปยังนายทหารรุ่นพี่ว่าเคยทำอะไรให้เกิดความขุ่นข้องหมองใจหรือไม่ ซึ่งทางกองทัพบกได้รับประเด็นนี้ไปและจะรีบกลับมารายงานอย่างคณะกรรมาธิการ

ผู้สื่อข่าวถามว่าลักษณะนิสัยของนายคมทัช ตอนเป็นผู้ช่วยหาเสียง น.ส.ธิษะณา เป็นอย่างไร น.ส.ธิษะณา กล่าวว่า ตอนที่อยู่ด้วยกันไม่มีอาการอะไร เป็นคนทำงาน พักผ่อน ใช้ชีวิต นายคมทัชเคยได้ช่วยตนเป็นผู้ช่วยหาเสียงและช่วยหาเสียงเลือกตั้ง ตั้งแต่การเลือกตั้งซ่อมหลักสี่แล้ว ช่วยงานพรรคอยู่เสมอ ก็เริ่มมีการส่งข้อความมาบ่นเรื่องการนอนไม่หลับตั้งแต่เข้าไปอยู่ในค่ายทหาร ซึ่งอาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคซึมเศร้า

Related Posts

Send this to a friend