POLITICS

‘มงคลกิตติ์’ ร้องศาล รธน.สั่ง นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ปมวาระ 8 ปี

‘มงคลกิตติ์’ ร้อง ศาลรัฐธรรมนูญ สั่ง นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ปมวาระ 8 ปี วอน พลเอกประยุทธ์ อย่าผูกขาดอำนาจ ลาออกจากตำแหน่งอย่างสง่างามก่อน 24 ส.ค.นี้!

วันนี้ (15 ส.ค. 65) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ และพ้นจากตำแหน่ง กรณีวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี โดยนำเอกสารเป็นพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2557 และ 9 มิถุนายน 2562 รวมทั้งรายงานการประชุมของคณะกรรมร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 500 วันที่ 7 กันยายน 2561 มาประกอบ

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า การยื่นคำร้อง เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการเป็นนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ ให้สิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 158 วรรคสี่ นายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่งรวมกันเกิน 8 ปีมิได้ ประกอบรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 ทั้งยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พลเอกประยุทธ์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ก่อนมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะสิ้นสุด เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม

“ผมใช้สิทธิในฐานะประชาชน และผู้แทนปวงชนชาวไทย ตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 213 หากหลังวันที่ 24 สิงหาคมนี้ พลเอกประยุทธ์ยังดำรงตำแหน่งอยู่ เท่ากับเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ว่า เรื่องดังกล่าวขัด หรือไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ”

นายมงคลกิตติ์ ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีผู้ใดยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ มีเพียงคำร้องของนายศรีสุวรรณ จรรยา ที่ยื่นต่อสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่วนพรรคร่วมฝ่ายค้านกำลังจะล่ารายชื่อ ส.ส.เพื่อยื่นคำร้องผ่านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปยังศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 17 ส.ค.นี้ ซึ่งต้องใช้เวลาหลายวันในการตรวจสอบข้อกฎหมายก่อนยื่นเรื่องมาที่ศาลรัฐธรรมนูญ เกรงว่าจะไม่ทันการ จึงขอนำเอกสารต่าง ๆ มายื่นเป็นต้นขั้วให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้พลเอกประยุทธ์ ยุติปฎิบัติหน้าที่ก่อนวันที่ 24 สิงหาคม 2565

ขอฝากถึงพลเอกประยุทธ์ให้พอสักที ที่ผ่านมาประชาชนคนไทยให้โอกาสมา 8 ปี จากนี้ขอให้โอกาสให้ประเทศไทยได้เจอผู้นำประเทศที่มีความสามารถ ให้ประชาชนได้ตัดสินใจด้วยตนเอง ขออย่าผูกขาดอำนาจ คนเราต้องมีขึ้นและมีลง หากให้สง่างามต้องลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อนวันที่ 24 สิงหาคมนี้

ส่วนกรณีสภาฯ ล่มเมื่อช่วงเช้า ก็เป็นไปตามคาดที่พรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐจะไม่เข้าร่วมประชุม ทำให้องค์ประชุมไม่ครบ เพราะฉะนั้นจะกลับมาใช้สูตรหาร 100 ตามร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอมา มีกฎหมายการเลือกตั้ง เพียงแต่ต้องผ่านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ผ่านวาระ 3 ในวันที่ 19 ส.ค.นี้ไปก่อน

นายมงคลกิตติ์ ทิ้งท้ายว่า อยากให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยภายใน 15 วัน เพื่อสรรหานายกรัฐมนตรีตามระบบเดิม ส่วนศาลจะวินิจฉัยอย่างไรก็เคารพ ไม่ก้าวล่วงสิทธิของตุลาการทั้ง 9 คน แต่ประชาชนจะโอเคหรือไม่ ต้องอย่าลืมว่า กฎหมายเป็นลายลักษณ์อักษรไม่ใช่จารีตประเพณี เขียนครอบคลุมว่า นายกรัฐมนตรีมีวาระครบ 8 ปีแล้ว

Related Posts

Send this to a friend