POLITICS

โฆษกรัฐบาล เผย การไฟฟ้าฯ ขอให้ประชาชนตรวจสอบ ยอดเงินค่าไฟฟ้าเดือน พ.ค.66

ที่เริ่มใช้มาตรการช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อน แนะ หากชำระบิลค่าไฟแล้ว จะคืนส่วนลดให้เดือนถัดไป พร้อมเตือนระวังมิจฉาชีพ แอบอ้างหลอกเก็บเงินค่าบริการต่างๆนอกที่ทำการ

วันนี้ (19 พ.ค. 66) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย การไฟฟ้าฯ ขอให้ประชาชนตรวจสอบยอดเงินค่าไฟฟ้าเดือน พ.ค.ปี2566 หากชำระบิลค่าไฟแล้ว การไฟฟ้าฯ จะคืนส่วนลดให้เดือนถัดไป พร้อมเตือนระมัดระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง หลอกเก็บเงินค่าบริการต่างๆนอกสถานที่ทำการ ทั้งนี้หากพบชื่อผู้ส่งเป็นตัวเลขเบอร์โทรศัพท์ หรือ ตัวอักษรที่ไม่ใช่การสะกดตามคำว่า “MEA” ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อความดังกล่าว

นายอนุชา กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 มีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทา ผลกระทบภาระค่าไฟฟ้าประชาชน จากสถานการณ์ราคาพลังงาน และในช่วงฤดูร้อนปี 2566 โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการมาตร การบรรเทาความเดือดร้อน และช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน ที่ได้รับผลกระทบจากราคาไฟฟ้า ตามที่ ครม.เสนอ โดยให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าต่อเนื่อง 4 เดือน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน และส่วนลดค่าไฟฟ้า (เพิ่มเติม) สำหรับงวดเดือนพฤษภาคม 2566 จำนวน 150 บาทต่อราย ให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน ทั้งนี้กำหนดให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้า ก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มนั้น

การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งว่า สำหรับใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่จดหน่วยและส่งใบแจ้งค่าไฟฟ้า ในวันที่ 14-17 พฤษภาคม 2566 ที่ยังไม่มีส่วนลด MEA จะปรับปรุงในระบบรับชำระเงินค่าไฟฟ้า โดยผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถตรวจสอบ ยอดเงินค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 ที่มีการปรับปรุงแล้วได้ที่ แอปพลิเคชัน MEA Smart life หรือที่ทำการ MEA ทั้ง 18 เขต หากผู้ใช้ไฟฟ้าที่ชำระค่าไฟฟ้าแล้ว MEA จะคืนเงินส่วนลดดังกล่าวให้ในเดือนถัดไป ทั้งนี้ ใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนพฤษภาคม 2566 จะเป็นการจดหน่วยในวันใดวันหนึ่ง ระหว่างวันที่ 14 พ.ค.ถึงวันที่ 13 มิ.ย.2566

นายอนุชา กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ตามที่มีประชาชน ได้รับข้อความแอบอ้างหน่วยงาน MEA หรือ การไฟฟ้านครหลวง เพื่อหลอกเก็บเงินค่าบริการต่างๆ นอกสถานที่ทำการ MEA รวมถึงเพื่อล่อลวงให้รับบริการผ่านระบบออนไลน์ หรือคลิกลิงก์ต่างๆจนมีความเสี่ยง ทำให้เหยื่อเสียทรัพย์สินนั้น MEA มีความห่วงใยต่อกรณีดังกล่าว โดยได้แจ้งวิธีสังเกต SMS ของ MEA ที่ถูกต้อง ขอให้ประชาชนสังเกตบริเวณชื่อบุคคลผู้ส่ง โดยจะต้องระบุชื่อเป็น “MEA” เท่านั้น หากพบชื่อผู้ส่งเป็นตัวเลขเบอร์โทรศัพท์ หรือตัวอักษรที่ไม่ใช่การสะกดตามคำว่า “MEA” ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อความดังกล่าว ทั้งนี้ MEA ยืนยันว่าจะไม่ส่ง SMS ให้กับบุคคลทั่วไป ยกเว้นเป็นผู้ที่กำลังติดต่อธุรกรรมกับ MEA หรือรับบริการ MEA e-Bill อยู่เท่านั้น

สำหรับการตรวจสอบความถูกต้อง ของการใช้งาน Line ของ MEA ประชาชนสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้โดยการดูความถูกต้องของชื่อ Line ต้องระบุเป็น “MEA Connect” โดยระบุชื่อ Line id เป็น @meathailand และด้านหน้าชื่อต้องมีสัญลักษณ์โล่สีเขียว ซึ่งแสดงถึงสถานะที่เป็นทางการ ส่วนกรณีเว็บไซต์ MEA นั้น ประชาชนสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ โดยการดูความถูกต้องของชื่อเว็บไซต์ ซึ่งต้องระบุเป็น https://www.mea.or.th รวมถึง MEA ยืนยันว่า ปัจจุบัน MEA ไม่มีนโยบายให้พนักงาน หรือตัวแทนพนักงาน รับชำระค่าไฟฟ้า หรือค่าบริการใดๆนอกสถานที่ทำการของ MEA อีกด้วย

“MEA ขอให้ประชาชนระมัดระวัง การรับข้อมูลจากช่องทางการสื่อสาร ในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งอาจมีการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง และทำให้ประชาชนเกิดความสับสนได้ ซึ่งประชาชนสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสามารถสอบถามข้อมูลค่าไฟฟ้า ได้ที่ช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ของ MEA ได้แก่ Facebook: การไฟฟ้านครหลวง MEA,Line: @meathailand,Twitter: @mea_news, และ MEA Call Center โทร 1130 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”

Related Posts

Send this to a friend