POLITICS

’ไพบูลย์’ มั่นใจรัฐสภาไม่คว่ำกฎหมายลูก เชื่อเสียงข้างมากเห็นชอบตามที่กรรมาธิการเสนอ

’ไพบูลย์’ มั่นใจรัฐสภาไม่คว่ำกฎหมายลูก เชื่อเสียงข้างมากเห็นชอบตามที่กรรมาธิการเสนอ เผยหลังผ่านวาระ 3 ส่งให้เพียง กกต. องค์กรเดียว ไม่ต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญ

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าวว่า วันนี้จะเป็นการพิจารณาทบทวนรายงานของคณะกรรมาธิการ เพื่อลงมติรับรอง ก่อนจะนำเสนอต่อประธานรัฐสภา ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าจะบรรจุเข้าสู่ระเบียบการประชุมในวันที่ 9 มิ.ย. 65 และมั่นใจว่าในการพิจารณาวาระที่ 2 จะไม่มีปัญหาอะไร โดยส่วนใหญ่จะเป็นไปตามที่กรรมาธิการเสนอ และคาดว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นในวันที่ 10 มิ.ย. 65 จากนั้นก็สามารถลงมติในวาระที่ 3 ได้ทันทีไม่ต้องรอ 15 วันเหมือนกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

และเมื่อรัฐสภาพิจารณาเสร็จก็จะต้องส่งให้ กกต. พิจารณาข้อกฎหมายเพียงหน่วยงานเดียว ว่าร่างที่ได้แก้ไขขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยไม่มีการส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่ง กกต. มีเวลาพิจารณาภายใน 15 วัน ก่อนส่งกลับมาที่รัฐสภา และหากไม่มีประเด็นส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญก็จะส่งไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ โดยคาดว่ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับจะสามารถประกาศใช้ได้ประมาณปลายเดือนกันยายน หรือช่วงต้นเดือนตุลาคม

ทั้งนี้ นายไพบูลย์ เชื่อว่าเสียงข้างมากในรัฐสภาจะเห็นชอบกับที่กรรมาธิการแก้ไข ส่วนกระแสการคว่ำร่างกฎหมายนั้นเป็นเพียงการแสดงความเห็นของบางคน แต่ไม่มีความเป็นไปได้ในสถานการณ์ในบริบทใด ซึ่งสำหรับตนเชื่อว่าไม่มีความเป็นไปได้ และเชื่อว่าในประเด็นของการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อก็จะไม่มีการไปพลิกกลับเป็นหาร 500 ในชั้นการพิจารณาวานะที่ 2 ซึ่งในมาตราที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้กรรมาธิการไม่ได้มีการแก้ไข ยังคงไว้ตามร่างฉบับที่ กกต.ยกร่างส่งให้ ครม. ดังนั้นเมื่อกรรมาธิการเสียงข้างมาก 32 ต่อ 11 ให้คงตามร่างเดิมก็เชื่อว่าเสียงข้างมากในรัฐสภาก็จะยังคงตามร่างเดิม ซึ่งหากรัฐสภาโหวตลงมติให้ใช้วิธีหารด้วย 100 ตามที่ กกต.ยกร่างมา ก็เชื่อว่า กกต. คงไม่มีเหตุขัดข้องใด เว้นแต่จะโหวตให้หารด้วย 500 แต่ตนเชื่อว่าไม่มี แต่หากมีโหวตเป็นหาร 500 ก็เชื่อว่า กกต. จะมีความเห็นว่าขัดต่อเจตนารมณ์รัฐธรรมูญ

ส่วนในชั้นกรรมาธิการ ตัวแทนจาก ส.ว.ส่วนใหญ่โหวตเห็นด้วยกับการหาร 500 เมื่อกลับเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภา ส.ว.ทั้งหมดจะไปสนับสนุนการหาร 500 นั้น นายไพบูลย์ ระบุว่า จะรอต้องดู เพราะกรรมาธิการฝ่าย ส.ว. นั้นมี 14 คน โหวตลงมติเห็นด้วยกับการหาร 500 มี 9 คน โหวตเห็นด้วยกับการหาร 100 มี 2 คน งดออกเสียง 1 คน และไม่ได้อยู่ในห้องประชุม 2 คน ดังนั้นเสียง ส.ว. ไม่ได้เป็นเอกภาพ และ ส.ว. ในรัฐสภาก็ถือเป็นเสียง 1 ใน 3 ของรัฐสภา แต่เสียงที่เห็นชอบส่วนใหญ่มาจากเสียงของ ส.ส.ซึ่งมีอยู่ 476 คน ดังนั้นเชื่อว่าจะไม่มีปัญหาในการลงมติ และทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยความเรียบร้อย

นายไพบูลย์ ยังย้ำว่า วิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่หารด้วย 100 นั้น ไม่ได้เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบ แต่เป็นเรื่องที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องการทำงานของนิติบัญญัติที่แก้ไขกฎหมายต้องให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเท่านั้น และต้องเป็นการหารด้วย 100 เพราะ กกต.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงยังยืนยันมาว่าหารด้วย 100 ซึ่งในการโหวตลงมติในกรรมาธิการผู้แทนจาก กกต. 2 คนก็โหวตเห็นด้วยกับหาร 100 รวมถึงผู้แทนจากคณะกรรมการกฤษฎีกา 1 คนก็เห็นด้วย

นอกจากนี้ นายไพบูลย์ ยังย้ำว่ารัฐบาลจะไม่มีอุบัติเหตุทางการเมือง และจะสามารถอยู่จนครบวาระ

Related Posts

Send this to a friend