‘ชัยธวัช’ มั่นใจศาล รธน.ตัดสินคดี 112 ไม่นำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล
‘ชัยธวัช’ ย้ำ ก้าวไกลให้ความสำคัญกระบวนการยุติธรรม มั่นใจศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินคดี 112 ไม่นำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล เผย ‘พิธา’ จะไปฟังคำตัดสินวันที่ 24 ม.ค. เอง
วันนี้ (18 ม.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีการยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบสิ้นสุดลง จากคดีซุกหุ้น หจก.บุรีเจริญ โดยยืนยันว่า แม้พรรคก้าวไกลจะทำงานตรวจสอบ แต่ตรวจสอบภายใต้หลักการที่ถูกต้อง ส่วนเรื่องการ ร้องให้ยุบพรรคนั้นเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกล แต่ย้ำว่าเฉพาะกรณีนี้ยังมีเรื่องต่อเนื่องอีกหลายส่วน นอกจากเรื่องยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จแล้วยังมีเรื่องที่นายศักดิ์สยามเอาบริษัทของตัวเองมาเป็นคู่สัญญากับรัฐ ซึ่งยังเป็นประเด็นให้ตรวจสอบต่อเนื่องอยู่ ไม่ใช่จะนึกถึงเรื่องจะให้ยุบพรรคอย่างเดียว
ส่วนที่พรรคก้าวไกล ไม่ยื่นให้ยุบพรรคภูมิใจไทยเพราะกังวลว่าพรรคตนเองจะถูกยุบนั้น นายชัยธวัช ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 31 มกราคมนี้แต่อย่างใด เพราะคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัย ในวันนั้นเป็นคำร้องที่จะนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกล แต่เป็นคำร้องเพื่อให้ยุติการกระทำที่กล่าวหามา มั่นใจว่าพรรคก้าวไกลไม่ถูกร้องให้ยุบพรรคแน่นอน
นายชัยธวัช ย้ำว่า พรรคก้าวไกลได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ และยืนอยู่บนข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย จึงไม่ได้กังวล พร้อมที่จะไปรับฟังคำวินิจฉัยตัดสิน หากไม่ติดโหวตวาระสำคัญที่รัฐสภา ก็จะเดินทางไปฟังคำตัดสินด้วยตนเองทั้งวันที่ 24 มกราคมและวันที่ 31 มกราคม และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็จะไปฟังคำตัดสินด้วยตัวเองในคดีถือหุ้นไอทีวีด้วย
นายชัยธวัช ย้ำถึงบทบาทของฝ่ายค้านว่า ยังยึดมั่น หลักจริยธรรม และยุติธรรมสองมาตรฐานโดยเฉพาะ สว. บางคนบางคนสะท้อนว่าผิดหวังฝ่ายค้านยุคนี้ที่เห็นเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ ให้ความสำคัญเรื่องกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะคนบนชั้น 14 น้อยมากนั้น ก็ยืนยันว่า ไม่ได้น้อยอย่างแน่นอน เรื่องการสร้างระบบความยุติธรรมที่เสมอภาคเป็นวาระสำคัญ ไม่ว่าเป็นพรรคก้าวไกล หรือพรรคอื่นก็ให้ความสำคัญ เพียงแต่จังหวะก้าว ประเด็นและรายละเอียดหลายเรื่อง อาจจะไม่ถูกใจ หรือไม่ทันใจ แต่ขอเอาหลักการที่ถูกต้องมาจะดีกว่า เพราะยังไงก็ไม่ได้ทิ้งเรื่องนี้แน่นอน และถือเป็นเรื่องดี สว. ให้ความสำคัญเรื่องนี้ หวังว่า สว. จะให้ความสำคัญกับเรื่องความยุติธรรมในทุกมิติ ในทุกกรณีด้วย โดยเฉพาะคดีการเมืองที่พรรคก้าวไกลได้เสนอไป ควรจะเป็นเงื่อนไขที่จะมีนโยบายคลี่คลายความขัดแย้งในเรื่องเหล่านี้ด้วย
