POLITICS

‘ลูกรับจ้าง-หลานจำเป็น’ พาผู้สูงอายุไปหาหมอ

“ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น” เป็นอีกหนึ่งอาชีพอาชีพ ที่ตอบโจทย์สังคมสูงวัยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นบริการรับส่งผู้สูงวัยไปหาหมอ ที่เกิดจากไอเดียริเริ่มของ จอย-ณัฐกาญจน์ เด่นวณิชชากร ที่มองว่าอาชีพนี้เป็นตัวช่วยของลูกหลาน ที่อาจจะมีเวลาน้อยในการดูแลพ่อแม่ เนื่องจากต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพ และการไปพบแพทย์นั้น สามารถช่วยป้องกันหรือชะลอโรค ของผู้สูงวัยไม่ให้เจ็บป่วยมากยิ่งขึ้น โดยไม่ได้มาแทนที่ลูกหลานแต่อย่างใด และนอกจากพาคุณตาคุณยายไปพบแพทย์แล้ว ยังมีบริการอื่นๆ อีก เช่น พาไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ไปทำบุญไหว้พระ ไปช้อปปิ้ง หรือไปร่วมงานแต่งเป็นเพื่อน ในกรณีที่ลูกหลานติดภารกิจ หรือไม่มีเวลาพาท่านไปทำกิจกรรมเหล่านี้ เรียกว่าธุรกิจนี้เป็นส่วนหนึ่ง ที่มาช่วยเติมเต็มการดูแลผู้สูงวัย ได้อย่างเข้าใจ เสมือนคนในครอบครัว

และจากการเปิดให้บริการเข้าปีที่ 2 ก็ได้รับกระแสตอบรับ จากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี เนื่องจากคนวัยนี้ ต้องการเพื่อนและที่พึ่งทางใจ เพราะเมื่ออายุมาก สังคมของคนวัยเกษียณมักจะเล็กลง โดยเฉพาะการที่เพื่อนวัยเดียวกันเริ่มทยอยจากไป ทั้งนี้จอยเล่าว่าที่ผ่านมามีลูกค้าบางราย ที่สงสัยและซักถามรายละเอียดค่อนข้างเยอะ ก่อนจองใช้ บริการ “Joy Ride Thailand ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น พาผู้สูงอายุไปหาหมอ” แต่เมื่อใช้บริการแล้ว หลายคนบอกว่าชีวิตเปลี่ยนไปเยอะ ทำให้รู้สึกดีไม่เหงา และดูแลเอาใจใส่เหมือนลูกหลาน รวมถึงให้บริการด้วยความสุภาพอ่อนน้อม ขณะที่ความภูมิใจของผู้ให้บริการอย่าง จอย-ณัฐกาญจน์ คือการที่ครั้งหนึ่งได้เป็นเพื่อนผู้สูงวัย นั่งเครื่องบิน เพื่อไปรับการรักษาตัว ด้วยการผ่าตัดที่ต่างประเทศ ซึ่งทำให้ผู้สูงวัยท่านนั้น มีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกครั้ง ซึ่งถือได้ว่าเป็นความประทับใจ ของเจ้าตัวเช่นกัน ที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่นี้ และเพื่อทำความรู้จักกับอาชีพนี้มากยิ่งขึ้น

ณัฐกาญจน์ ผู้ก่อตั้งธุรกิจให้ บริการ “Joy Ride Thailand ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น พาผู้สูงอายุไปหาหมอ” เล่าให้ The Reporters ฟังว่า “ไอเดียในการเปิดธุรกิจนี้ขึ้นมา คือการที่จอยไปโรงพยาบาล และได้รับการตรวจว่า ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าระยะเริ่มต้น และขณะที่ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ก็ได้พบเห็นผู้สูงอายุไปหาหมอเป็นจำนวนมาก ประกอบตอนที่ยังทำงานอยู่นั้นได้มีโอกาสพาพ่อ ของเจ้านายไปโรงพยาบาล ก็เลยทำให้รู้สึกดีเวลาที่ได้พาผู้สูงอายุไปหาหมอ เพราะการที่เราได้ให้กำลังใจผู้อื่นนั้น คนที่ได้ยินคนแรกคือตัวเอง จึงทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ หลังจากนั้นก็ได้ลาออกจากงาน เพื่อกลับมาดูแลรักษาสุขภาพ และรักษาจิตใจจากการป่วย จนกระทั่งดีขึ้น จึงได้มองหาอาชีพอื่น ที่นอกจาการเป็นพนักงานออฟฟิศมาเกือบ 20 ปี”

“จึงได้เปิดตัวบริการ “Joy Ride Thailand ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น พาผู้สูงอายุไปหาหมอ” ขึ้นจากการไปหาหมอในวันนั้น กระทั่งปัจจุบันการดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 2 แล้ว และกระแสตอบรับจากอาชีพนี้ เรียกว่าค่อนข้างดี เพราะในแต่วันจะมีผู้สูงอายุที่ป่วย และได้รับการนัดตรวจโรค จากโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก เห็นการเติบโตของธุรกิจได้ชัดเจน จากก่อนหน้าที่พึ่งเริ่มเปิดให้บริการนั้น ใน 1 เดือนจะมีผู้สูงวัยใช้บริการประมาณ 20 ราย ที่จองเข้ามาล่วงหน้า ซึ่งปัจจุบันนั้นเพิ่มเป็นหลัก 100 รายต่อเดือนค่ะ”

จอย เล่าอีกว่า ปัจจุบันทีมงานของ “Joy Ride Thailand ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น พาผู้สูงอายุไปหาหมอ” มีอยู่ประมาณ 10 คน ที่ผ่านการอบรม เกี่ยวกับเรื่องการดูแลผู้สูงอายุ เช่น ตั้งแต่การประคองขึ้นรถ การทำซีพีอาร์ ตลอดจากการเซอร์วิส ในขณะที่รับผู้สูงวัยไปหาหมอ หรือทำกิจกรรมต่างๆ กระทั่งการได้รับการอบรมเกี่ยวกับวิธีรับมือ กับเหตุการณ์เล็กๆ น้อยๆ ไปจนถึงเหตุการณ์ใหญ่ๆ นอกจากนี้ยังมีทีมงานอีกประมาณ 30 คนที่กำลังอยู่ในระหว่าง ของการอบรมดังกล่าว และที่สำคัญได้มีการจ้างผู้สูงอายุ ในช่วงวัยเกษียณที่ต้องการทำงาน เพื่อให้เข้ามาเป็นทีมงาน ในการตรวจสอบและประเมินการทำงาน ของพนักงานของ Joy Ride อีกด้วย

“ส่วนประเด็นที่หลายคนมองว่า อาชีพนี้ใช้เงินแก้ปัญหาหรือไม่ จอยมองว่านั่นอาจเกิดจากการที่คนเหล่านั้น อาจจะมองว่าพ่อแม่เป็นปัญหา หรือผู้สูงอายุเป็นภาระของลูกหลาน แต่ทีมงานของจอย หรือแม้แต่ตัวจอยเอง ไม่ได้คิดอย่างนั้นค่ะ แต่มองว่าเราจะดูแลผู้ใช้บริการอย่างไรให้ดีที่สุด โดยที่เราไม่ได้มาทดแทนลูกหลาน แต่เราเป็นตัวช่วยในการดูแลผู้สูงอายุ และส่วนหนึ่งก็เป็นเลขาส่วนตัว ให้กับลูกหลานเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะลูกหลานที่ต้องประกอบอาชีพ หรือมีเวลาในการลางานค่อนข้างน้อย เพื่อพาพ่อแม่ไปหาหมอ ดังนั้นทีมงานของเรา จะเข้ามาช่วยดูแลพ่อแม่ให้ และคอยช่วยปลอบประโลมจิตใจ พูดง่ายๆว่าเราเป็นตัวกลาง ที่ช่วยให้ลูกหลานคุยกับพ่อแม่ได้ง่ายขึ้น”

“นอกจากนี้อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการที่อาชีพของจอย จะทำให้ลูกหลาน ถูกคนรอบข้างตำหนิหรือไม่ โดยเฉพาะการไม่ดูแลพ่อแม่นั้น สำหรับจอยมองว่า การแสดงความกตัญญูนั้นมีหลายรูปแบบ เช่น ตอนที่คุณยังเป็นเด็กพ่อแม่ดูแลคุณ แต่เมื่อคุณโตขึ้น คุณก็ดูแลพ่อแม่ด้วยการเลือกทีมงาน หรือคนที่ไว้ใจได้ในการพาไปหาหมอพบแพทย์ ด้วยการซัพพอร์ตเงินจากการทำงาน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลท่าน ในฐานะของลูกที่เห็นความสำคัญ ของสุขภาพของแม่เป็นอันดับแรก เพื่อให้ท่านมีสุขภาพที่ดี และเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลาน นั่นไม่เพียงทำให้พ่อแม่อายุยืนยาวขึ้น แต่ยังมีสุขภาพดีด้วยการไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อชะลอการเจ็บป่วย ก่อนที่อาการจะลุกลามค่ะ จอยมองว่าเป็นการแสดงความรัก ความกตัญญูอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ”

บริการ “Joy Ride Thailand ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น พาผู้สูงอายุไปหาหมอ” ทำงานอย่างไร?

ณัฐกาญจน์ เล่าว่า “รูปแบบการทำงานทีมงาน ในการพาผู้สูงวัยไปหาหมอ หรือการเป็นลูกรับจ้างหลานจำเป็น เริ่มต้นการทำหน้าที่ เช่น หากวันพรุ่งนี้ผู้สูงอายุโรคเบาหวาน ต้องไปเจาะเลือด ทีมงานจะโทรศัพท์ไปแจ้งเตือนผู้สูงวัย ให้งดการรับประทานอาหาร และดื่มน้ำหลังเวลา 20.00 น. และตอนเช้าก็จะทำหน้าที่เป็นลูกจำเป็น โดยการขับไปรับผู้สูงอายุไปโรงพยาบาล และไปหยิบบัตรคิวการจองเข้าตรวจให้ท่าน ซึ่งคล้ายกับการที่เราพาพ่อแม่ตัวเองไปหาหมอ ซึ่งจะต้องมีขั้นตอนตามปกติต่างๆ และระหว่างที่อยู่โรงพยาบาล ก็จะรายงานผลเป็นระยะให้ลูกหลานได้รับทราบ และหลังจากที่เจาะเลือดเรียบร้อย กระทั่งถึงเวลาที่เข้าพบแพทย์ ทีมงานก็จะเข้าไปนั่งฟัง และคอยซักถามอาการของผู้สูงอายุว่าเป็นอย่างไร เช่น หากหมอแจ้งว่าอาการป่วยดีขึ้น ทีมงานก็จะซักถามว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรต่อไป หรือ หากต้องรับประทานยาปฏิชีวนะตัวอื่นเพิ่ม ก็จะสอบถามการรับประทานอย่างเหมาะสม และต้องดูแลสุขภาพต่ออย่างไร รวมถึงอธิบายซองยาแต่สีนั้น ช่วยรักษาอาการอะไรบ้าง เพื่อรายงานให้กับลูกหลานได้รับทราบ เสมอว่าทีมงานของเราเป็นลูกคนหนึ่งค่ะ”

จอย อธิบายว่า ก่อนใช้บริการของ Joy Ride จำเป็นต้องจองคิวล่วงหน้า 3 วัน โดยเริ่มจากการแอดไลน์ @Joyride เข้ามา จากนั้นทีมงานจะมีการส่งแบบฟอร์มออนไลน์ ให้ผู้สูงอายุกรอกชื่อนามสกุล และรายละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพต่างๆ (ลูกหลานสามารถกรอกให้พ่อแม่ได้) และยืนยันการตอบรับการใช้บริการ และชำระค่ามัดจำ จากนั้นทางทีมจะแจ้งชื่อ และรายละเอียดของผู้ที่จะให้บริการ และเมื่อเวลานัดทีมงานก็จะขับรถมารับผู้สูงวัย ทั้งนี้ลูกหลานสามารถเห็นข้อมูล ของการเคลื่อนไหวของทีมงาน ที่จะมารับผู้สูงวัยไป รพ. ได้ทุกสถานะ กระทั่งตอนมาส่งกลับบ้าน ผ่านระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อคลายความกังวลใจ จากการใช้บริการ

ราคาค่าบริการต่อครั้งเท่าไร? – กระแสตอบรับความคุ้มค่าเป็นอย่างไร?

จอย กล่าวว่า “ปกติแล้วระยะเวลาในการใช้บริการของ Joy Ride ของผู้สูงอายุแต่ละคน เพื่อไปหาหมอจะอยู่ประมาณ 4-6 ชม. ซึ่งค่าบริการจะอยู่ที่ชั่วโมงละ 500 บาท นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจอื่นๆ ให้เลือกตามเหมาะสม ในราคาที่เหมาะสมแตกต่างกัน เช่น ผู้สูงอายุบางคนต้องการรถวิลแชร์ พร้อมด้วยคนดูแล 1 คน หรือต้องการทีมงานดูแล 2 คน ประกบทั้งไปและกลับจาก รพ. ก็มีให้เลือกอีกรูปแบบหนึ่งในอีกราคาหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อต้องการออกแบบการให้บริการ ให้สอดคล้องกับผู้สูงวัยแต่ละคนให้มากที่สุด พูดง่ายๆ ว่าชั่วโมงละ 500 บาท อาจยังไม่ครอบคลุมความต้องการ ของผู้สูงอายุทุกกลุ่ม เป็นต้นว่ากลุ่มที่ต้องการรถวิลแชร์ พร้อมคนดูแลประกบ 2 คน ก็จะเป็นอีกช้อยส์หนึ่งให้เลือกค่ะ”

“ในส่วนของกระแสตอบรับ จากลูกหลานผู้ใช้บริการ ยกตัวอย่างว่าค่าใช้จ่ายต่อครั้ง อยู่ที่ประมาณ 2,000 บาท ในระยะเวลา 4 ชั่วโมง โดยผู้สูงอายุแต่ละคน จะมีการนัดไป รพ. เดือนละ 1 ครั้ง หรือบางคน 3 เดือนครั้ง ทั้งนี้จอยได้การตอบรับในส่วนนี้ว่า คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับโดยเฉพาะบริการที่เป็นกันเอง เหมือนพาพ่อแม่ไปหาหมอ โดยที่ลูกหลานไม่ต้องหยุดงานหรือปิดร้าน เพื่อพาผู้สูงวัยไปหาหมอ ซึ่งเราพยายามบาลานซ์ทั้งราคา และการให้บริการอย่างสมเหตุสมผลค่ะ” จอย กล่าว

ณัฐกาญจน์ บอกอีกว่า นอกจากการพาผู้สูงอายุไปหาหมอแล้ว บริการอื่นๆ เช่น พาผู้สูงวัยไปรับประทานอาหาร ไปช้อปปิ้ง ไปทำบุญ และไปเป็นเพื่อนงานเลี้ยงต่างๆ ก็ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ลูกหลานติดงาน หรือบางคนที่ไม่มีลูกหลาน ซึ่งมีความว้าเหว่ทางใจ ดังนั้น Joy Ride จึงเข้ามาเติมเต็มความสุขในจุดนี้ ให้กับคนวัยเกษียณเช่นกัน และทำให้รู้สึกกลับมีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง

กลุ่มลูกค้า Joy Ride เป็นใคร? -เลือกรับงานอย่างไร?

ณัฐกาญจน์ เล่าว่า “กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการของ Joy Ride Thailand ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น พาผู้สูงอายุไปหาหมอ มีหลายช่วงอายุ ตั้งแต่คนโสดทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่อายุประมาณ 30 ปี ที่มาใช้บริการ จากการมีปัญหาสุขภาพ เช่น การป่วยเป็นโรคเรื้อรังบางโรค ที่ไม่สามารถหาหมอคนเดียวได้ เนื่องจากต้องมีคนช่วยดูแลตอนกลับบ้าน ซึ่งเราก็จะไปช่วยเดินเอกสารให้ และคอยรับกลับบ้านค่ะ หรือแม้แต่คุณแม่ตั้งครรภ์ ในไตรสุดท้ายก่อนคลอด ที่ไป รพ. คนเดียวไม่ได้และคุณพ่อไม่ว่าง ก็เป็นลูกค้าของเราเช่นกันค่ะ นอกจากนี้คนอายุ 95 ที่ยังสามารถเดินได้คล่องแคล้ว ก็มีเช่นเดียวกันค่ะ”

“ส่วนการคัดเลือกผู้สูงวัยมาใช้บริการนั้น อันที่จริงแล้วจอยไม่ได้เป็นผู้คัดเลือก เนื่องจากลูกค้าที่ใช้บริการ จะเป็นฝ่ายเลือกเรามากกว่าค่ะ แต่โดยส่วนใหญ่เรายังไม่สามารถรับ กลุ่มผู้สูงอายุที่มีภาวะติดเตียงได้ค่ะ หรือผู้ที่เกิดการเจ็บป่วยกะทันหันค่ะ ตรงนี้เราแนะนำให้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ จาก 1669 ที่มีความพร้อมทั้งในส่วนของรถ ที่ให้บริการและทีมแพทย์พยาบาล ที่ช่วยดูแลระหว่างทางไป รพ. จะดีที่สุดค่ะ”

จอย บอกอีกว่า สำหรับความประทับใจ ในการทำหน้าที่เป็น “ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น” คือการทำหน้าที่ในการเป็นเพื่อนผู้สูงวัยท่านหนึ่ง ในการเดินทางไปต่างประเทศ ในแถบโซนเอเชียเพื่อนบ้านของเรา เพื่อรับการผ่าตัดซึ่ง เจ้าตัวรู้สึกประทับใจ ที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่นี้ เพื่อช่วยทำให้คุณภาพชีวิตผู้สูงวัยท่านนั้นดีขึ้น รวมถึงการที่ผู้สูงวัยอีกหลายๆคน ที่บอกด้วยน้ำเสียงตื้นตันว่า บริการของ Joy Ride เข้ามาช่วยเติมเต็มความรู้สึกที่ว้าเหว่ และทำให้กลับมาสดใสและมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เฉพาะแต่การพาไปหาหมอ แต่ยังพาไปทำกิจกรรมต่างๆ ดุจลูกหลานจริงๆ ก็ช่วยเพิ่มสีสันให้ชีวิตผู้ใช้บริการได้ไม่น้อย

ทิศทางในอนาคตของ บริการ “Joy Ride Thailand ลูกรับจ้าง หลานจำเป็น พาผู้สูงอายุไปหาหมอ

ณัฐกาญจน์ กล่าวว่า “ปัจจุบันธุรกิจของให้บริการอยู่ใน กทม.และปริมณฑลเท่านั้น ส่วนในอนาคตต่อจากนี้ เนื่องจากกระแสตอบรับค่อนข้างดี เนื่องจากมีฟีดแบค ของคนที่ทราบข่าวเกี่ยวกับธุรกิจของเรา ผ่านช่องทางต่างๆ ที่อยากเข้ามาทำงานร่วมกับเรา ดังนั้นจึงคาดว่ามีโอกาส ขยายสาขาไปที่จังหวัดใหญ่ เช่น เชียงใหม่ โคราช ขอนแก่น หาดใหญ่ ชลบุรี ภูเก็ต เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากจังหวัดที่กล่าวมานั้น มักจะมีผู้สูงอายุต่างชาติ เข้ามาอยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก หรือแม้แต่ผู้สูงวัยในบ้านเรานั้น ก็ไปหาหมอ 3 แสนรายต่อวัน และในอีกไม่กี่ปีบ้านเราก็จะเข้าสู่ สังคมสูงวัยแบบสุดยอด หรือ Super Ageing ดังนั้นจำนวนผู้สูงอายุที่ไปหาหมอ ก็เพิ่มขึ้นอีกหลายแสนต่อวันเช่นกัน ดังนั้นจึงมองว่าการเติบโต ของธุรกิจพาผู้สูงวัยไปหาหมอนั้น ไปได้ดีอย่างแน่นอน เพราะจุดเด่นของบริการนี้ หุ่นยนต์หรือ AI ไม่สามารถทำแทนมนุษย์ได้ แม้ว่า AI หรือปัญญาประดิษฐ์นั้น จะช่วยดูแลผู้สูงอายุขณะดำรงชีวิต ในบ้านเพียงลำพังได้ แต่อย่าลืมว่ามนุษย์ย่อมแสวงหาการดูแล จากคนที่เข้าใจ โดยการพาไปสู่โลกภายนอก ไปทำกิจกรรมต่างๆ มากกว่าหุ่นยนต์อย่างแน่นอนค่ะ”ณัฐกาญจน์ ปิดท้ายว่า จากการที่เปิดให้บริการปีที่ 2 แล้ว นอกจากได้รับความนิยม ในกลุ่มผู้สูงวัยเป็นอย่างดีแล้ว บริการลูกรับจ้าง-หลานจำเป็น พาผู้สูงอายุไปหาหมอ จากบริษัท วีล ออฟ จอย จำกัด ยังได้รับรางวัล รองชนะเลิศอันดับ 2 จากรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2566 จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ ประเภทการออกแบบบริการ ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบธุรกิจกลุ่มสตาร์ทอัพ ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และได้กระแสตอบรับที่ดีอีกเช่นกัน

Related Posts

Send this to a friend