‘ชลน่าน’ ไม่สามารถตอบในนามรัฐบาลได้หากแก้รธน.จบยุบสภาทันที
ชี้ต้องคุย 11 พรรคร่วม-ดูบริบทจบเมื่อไหร่ บนพื้นฐานประโยชน์สุขของประชาชน ย้ำรัฐบาลไม่ได้ผูกมัด
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์คำสัมภาษณ์ของ นพ.ชลน่าน ที่ว่า ‘ไม่เคยพูดว่าหากแก้รัฐธรรมนูญเสร็จจะยุบสภา’ ซึ่งมีการขุดคำสัมภาษณ์ก่อนหน้าที่ นพ.ชลน่านจะประกาศแยกตัวจากพรรคก้าวไกล ที่ระบุว่า ‘หากทำรัฐธรรมนูญเสร็จจะคืนอำนาจให้ประชาชน‘
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ถ้าให้ตอบในนามจุดยืนของรัฐบาล ตนไม่สามารถตอบได้เนื่องจากต้องพูดคุยกัน ซึ่งเราเริ่มต้นด้วยการทำงานกับพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ MOU กับพรรคก้าวไกลก็ถูกยกเลิกไป ทำให้ต้องจับมือกับ 11 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งมีเจตนาที่จะทำเหมือนที่ทำ MOU กับก้าวไกลคือต้องไปทำประชามติก่อน
ทั้งนี้ หากประชาชนเห็นชอบว่าจะทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คำถามคือถ้าเราพ่วงคำว่าการตั้ง สสร.จะมีคำตอบตรงนั้น และเอาคำตอบตรงนั้นมาแก้ 2 ระบบผ่านกระบวนการรัฐสภา นำไปสู่ขั้นตอนการทำประชามติ เมื่อทำประชามติหมายความว่ารัฐธรรมนูญถูกแก้ก็จะมีการยกร่าง ใช้เวลากี่เดือนก็ว่ากันไป และจะเข้าสู่กระบวนการนำเสนอเพื่อเป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และทำประชามติขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะนำมาใช้
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ส่วนจะมีการยุบสภาหรือไม่ ต้องไปดูบริบทที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าทำเสร็จในเวลาเท่าไหร่ หากทำเสร็จเร็วก็จะเป็นเงื่อนไขว่าสามารถตอบสนองต่อความต้องการประชาชนได้หรือไม่ เพราะรัฐบาลไม่ได้ผูกมัด
กรณีที่ถูกถามว่าต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ในเรื่องการยุบสภา นพ.ชลน่าน ระบุว่า เป็นขั้นตอนที่เขียนไว้อยู่แล้ว แต่ในทางปฏิบัติ ถ้าทำเองในฐานะผู้ดูแล เรื่องนี้ก็ต้องไปตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาเรื่องกระบวนการวิธีการว่าเขาจะเห็นด้วยตามนี้หรือไม่อย่างไร หากมีมติเห็นชอบก็ต้องผลักดัน พร้อมย้ำว่าต้องคุยกันและต้องคำนึงถึงพื้นฐานที่ว่าจะเกิดประโยชน์สุขกับประชาชน