‘ราษมัม’ รวบรวมจดหมายจากมวลชนกว่า 5 หมื่นฉบับ ส่งรุ้ง-เพนกวิน หวังให้ยุติอดอาหารเพื่อรักษาชีวิต
วันนี้ (16 เม.ย. 64) ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เหล่าบรรดาแม่ของแกนนำราษฎรที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า ‘ราษมัม’ อาทิ นางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ พร้อมด้วยแม่ของนายภาณุพงศ์ จาดนอก และแม่ของนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ ร่วมกันจัดกิจกรรมยื่นจดหมายถึงนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และน.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ให้ยุติการอดอาหารประท้วง เพื่อเป็นการรักษาชีวิตทั้ง 2 คน
นางสุรีรัตน์ เผยกับ The Reporters ว่า แคมเปญนี้ได้เริ่มต้นดำเนินการรวบรวมจดหมายตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 เม.ย) ใช้ระยะเวลาทั้งสิ้นประมาณ 6 ชั่วโมง ซึ่งประชาชนต่างให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยได้มีจดหมายทั้งหมดประมาณ 50,000 ฉบับ ภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งทางแม่จะนำข้อมูลเหล่านี้ส่งให้แก่ทนายความ เพื่อนนำสารไปแจ้งนายพริษฐ์และน.ส.ปนัสยา ว่าพ่อแม่มวลชนข้างนอกเป็นห่วงเป็นใย เพื่อทั้ง 2 คนจะได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาและนำไปนอนอ่านว่าคนอื่นมีความเป็นห่วงอย่างไรบ้าง และให้ทบทวนการกระทำของตนเองในขณะนี้
ส่วนเหตุผลสำคัญที่ต้องการให้ลูกยกเลิกการอดอาหาร นางสุรีรัตน์ ระบุว่า ตนเองต้องการให้ลูกทบทวนในสิ่งที่กระทำอยู่อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตนเองนั้นเข้าใจในเจตนารมย์และอุดมการณ์ของลูก โดยก่อนหน้านี้ลูกเคยบอกกับตนเองว่าอยากให้แม่มีชีวิตอยู่ต่อไปนานๆ เพื่อรอดูลูกประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานั้น จึงอยากให้ลูกรักษาสัญญาและอยู่เป็นกำลังใจให้แก่แม่ เพราะทุกวันนี้ตนเองสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้เพราะคิดอยู่เสมอว่าสักวันนึงลูกจะได้รับการปล่อยตัวออกมา หากไร้ซึ่งความหวังก็คิดว่าตนเองไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ จึงอยากให้ลูกทบทวนสิ่งที่กำลังกระทำอยู่ เพื่อแม่และทุกคนที่กำลังห่วงใย ทั้งในแง่ของสุขภาพและความปลอดภัย
ขณะที่ ทนายความ ระบุก่อนนำจดหมายไปส่งภายในเรือนจำพิเศษฯ ว่าช่วงบ่ายของวันนี้ทนายความได้เข้าไปเยี่ยมแกนนำราษฎรและต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องการฝากเอกสารให้แก่ผู้ต้องขัง เพราะมีจำนวนหลายฉบับ ซึ่งอาจต้องส่งให้เพียงบางส่วนก่อน เพื่อนำความห่วงใยของพ่อแม่และมวลชน รวมทั้งผู้ใหญ่หลายคนที่เป็นห่วง ไปส่งให้ทั้งสองคนให้ยกเลิกการอดอาหารให้เขาได้รับทราบ แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ทั้ง 2 คน ว่าจะตัดสินใจต่อไปอย่างไร
ทั้งนี้ บางส่วนของจดหมายที่ประชาชนได้ส่งความห่วงใยถึงนายพริษฐ์ และน.ส.ปนัสยา ได้มีการระบุเป็นข้อความและบทกวี อาทิ จดหมายของทีมวีโว่ ที่ระบุว่า ถึงเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เพนกวินและรุ้ง
“เพื่อน เราเป็นห่วงพวกเธอมากนะ เรี่ยวแรงในการต่อสู้จะมีขึ้นมาได้ จากอาหารต่างๆ ที่เรากิน ณ วันนี้หากพวกเธอมีอันตราย หรือมีสิ่งใดเกิดขึ้น ศักดินา และเผด็จการคงจะมีความสุขใจเป็นอย่างมาก #เพื่อนเอยเลิกอดอาหารเถิดนะ แรงและกำลังของพวกเธอ จะกลับมาส่งความสั่นคลอนต่อผู้มีอำนาจได้อีกหลายร้อยเท่าพันเท่า เราส่งข้อความแสดงความห่วงใย และขอร้องให้เพื่อนของเราเลิกอดอาหาร”
เช่นเดียวกับกลุ่มราษฎรบางบัวทอง ที่ได้ระบุข้อความว่า “เราติดตามข่าวรุ้งอดอาหารจากเพจราษฎรและเพจต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เราเคารพการตัดสินใจของรุ้ง เราเคารพการต่อสู้ของรุ้งเสมอมา แต่เราไม่อยากให้รุ้งอดอาหาร เราอยากเห็นรุ้งมาต่อสู้ด้วยกัน ยังอยากเห็นรอยยิ้มของรุ้งนะคะ รุ้งสร้างแรงบันดาลใจ รุ้งทำให้เรากล้าที่จะลุกขึ้นสู้ กล้าที่จะตะโกนเปล่งเสียงด่าทอเผด็จการที่กดหัวเรา เราอยู่ข้างนอก เรายอมรับเลยค่ะว่าเราไม่ได้กล้าหาญและเข้มแข็งเท่ารุ้ง เราทำได้แค่ออกไปยืนประท้วงขอให้เขาปล่อยเพื่อนเราที่ศาลฎีกา พวกเราข้างนอกเจ็บปวดทุกครั้งที่เพื่อนเราโดนจับไปทีละคนด้วยข้อหาที่อยุติธรรมโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้ เรายังอยากต่อสู้ไปพร้อมกับรุ้ง ไม่ว่ารุ้งจะตัดสินใจอย่างไร เราก็ขอเคารพการตัดสินใจของรุ้ง และเราสัญญาว่าอยู่ข้างนอก เราจะสู้ต่อไปแต่ก็หวังว่าเราจะได้เจอรุ้งในสักวันหนึ่ง”
นอกจากนี้บางส่วนได้ร่วมกันส่งกำลังใจผ่านบทกวี เช่น บทกวีจากกลุ่มฝุ่นเมืองลุง ที่บางช่วงบางตอนของบทกวีดังกล่าวระบุว่า
“#ฝากรักถึงเจ้าผีเสื้อ เพื่อทุกคน
ให้แก่ “ประชาชน” ที่ยังคงฝันใฝ่
กุหลาบแดงแห่งการต่อสู้,ขอให้กำลังใจ
ใช่เลย! ใช่! #ฟ้าหลังฝนย่อมมีรุ้งเสมอ”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้นายพริษฐ์ได้อดอาหารเป็นระยะเวลาครบรอบ 1 เดือนแล้ว ขณะที่น.ส.ปนัสยา อดอาหารเป็นเวลา 18 วัน ซึ่งจดหมายทุกฉบับล้วนเป็นการส่งความห่วงใยและขอให้ทั้ง 2 คนยกเลิกการอดอาหาร เพื่อรักษาชีวิต เพื่อรอวันที่ทั้ง 2 จะออกมาร่วมต่อสู้กับมวลชนทุกคนต่อไป
