POLITICS

รองโฆษก ตร. ลงพื้นที่ย่านดินแดง ชี้ เจ้าหน้าที่ปฎิบัติงานตามขั้นตอน จากเบาไปหาหนัก ขึ้นอยู่กับสถานการณ์

วันนี้ (15 มิ.ย. 65) เวลา 17:30 น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกรัตน์
เปาอินทร์ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.วัชรพล สุวนันทวงศ ผกก.สน.ดินแดง
ลงพื้นที่รับฟังความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบจากสถานการณ์การชุมนุม รวมถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ กับผู้ประกอบการร้านค้า และประชาชนในซอยตลาดศรีวานิช บริเวณถนนดินแดง รวมทั้งใต้ทางด่วนดินแดง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการชุมนุมทางเมือง

พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า สำหรับการชุมนุมช่วงเย็นเมื่อวานนี้ มีการทำกิจกรรมตั้งแต่ช่วงเย็น ซึ่งสถานการณ์ปกติดี เป็นการรวมตัวกันไม่ถือเป็นการก่อเหตุความไม่สงบ จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.30 น. กลุ่มมวลชนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลได้พยายามเคลื่อนตัวไปบ้านพักนายกรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีความจำเป็นในการบังคับใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้จับกุมผู้ใด เพียงแค่ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ โดยมีตำรวจได้รับบาดเจ็บบางส่วน

จนในเวลาประมาณ 22.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมยังมีการใช้ประทัดยักษ์ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาแนวอยู่บริเวณใกล้เคียง ซึ่งตำรวจปฎิบัติหน้าที่ด้วยความอดทนอดกลั้น โดยผลการก่อเหตุดังกล่าวนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บประมาณ 12 ราย และมีทรัพย์สินของราชการเสียหายบางส่วน

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ยังพบการนำข้อมูลไปบิดเบือนว่าเจ้าทางหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ซึ่งหากดูเหตุการณ์ให้ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามผลักดันผู้ชุมนุมกลับไปยังพื้นที่ที่ควบคุมได้ ซึ่งสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยอมไม่ได้ คือการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ และสัญจรในบริเวณดังกล่าว

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนั้น การใช้ยุทธวิธีของตำรวจนั้นมีตั้งแต่เบาไปหาหนัก เช่นการเจรจาประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นแนวทางที่ใช้มาเสมอ ในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจนั้น เมื่อเจรจาต่อรองแล้วไม่เป็นผล ก็จะมีขั้นตอนในการดำเนินการ การใช้อุปกรณ์ในการป้องกันตนเองของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความเป็นเหตุเป็นผล ว่าเมื่อไรจึงควรใช้กระสุนยาง หรือใช้แก๊สน้ำตา และเมื่อไรควรใช้การฉีดน้ำ โดยเป็นการป้องกันตัวเองก่อน และอีกส่วนคือการป้องกันความเสียหายขยายวงกว้าง ซึ่งไม่สามารถบอกเป็นสูตรตายตัวได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์ สามารถเปลี่ยนแปลงได้

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า ตำรวจประเมินและปรับแผนตามสถานการณ์ รวมถึงหาข่าว และขอความร่วมมือประชาชน โดยเมื่อสักครู่ได้ไปพบปะประชาชน และสอบถามความเห็นถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการชุมนุม ซึ่งต้องแยกแยะระหว่างการเรียกร้องทางการเมืองที่มีวิถีทาง กับการก่อความไม่สงบในบ้านเมือง

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็พยายามป้องกัน และลดทอนความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงลดทอนอาวุธที่อาจถูกนำมาก่อเหตุ ดังจะเห็นได้จากเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา จุดตรวจจุดสกัดสามารถตรวจยึดอาวุธจำพวกระเบิด หนังสติ๊กลูกหินลูกแก้วได้จำนวนมาก และได้มีการดำเนินการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่าอจรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือถูกชักจูงมา แล้วกลับกลายเป็นผู้ถูกดำเนินคดี หรือบางรายได้รับบาดเจ็บ

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่ก็พยายามทำความเข้าใจกับมวลชน แต่หากไม่มีทิศทางที่ชัดเจน และมีการนำอาวุธมาใช้ ตนก็คิดว่าคงไม่ใช่การเรียกร้องทางการเมือง

ส่วนในวันที่ 17 มิถุนายนนี้ ที่จะมีการชุมนุมบริเวณห้าแยกลาดพร้าว และเคลื่อนขบวนไปที่กระทรวงพลังงานนั้น ได้เตรียมการเฝ้าระวังในจุดที่สุ่มเสี่ยงอยู่แล้ว รวมถึงจัดกำลังไว้รับมือ คงไม่ปล่อยให้เหตุการณ์เลยเถิด พร้อมยืนยันว่าการตั้งจุดตรวจสกัดนั้นตำรวจทำอยู่แล้วแม้ไม่มีเหตุอะไร ทั้งนี้หากมีเหตุอะไร สามารถแจ้งมาได้ที่คอลเซ็นเตอร์ 191 หรือหมายเลข 1599 ซึ่งทราบว่าทาง ผบช.น. ได้ดำเนินการในส่วนนี้มาก่อนแล้ว อยากให้เชื่อมั่น และหากมีข้อเสนอแนะอะไรตำรวจก็ยินดี

Related Posts

Send this to a friend