‘เศรษฐา‘ ขอทุกหน่วยทะเยอทะยาน แก้หนี้บุคลากรรัฐ
’ทหาร-ตำรวจ-ครู-หมอ‘ ขอบคุณหน่วยงานลดดอกเบี้ย แม้แบงค์ชาติไม่ประกาศลด เชื่อจะลดปัญหาทุจริต-ยาเสพติด เมื่อแก้ปัญหา ‘ชักหน้าไม่ถึงหลัง’ จี้นำสหกรณ์เข้าระบบ
วันนี้ (15 มี.ค. 67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินเงินกู้ แก่บุคลากรภาครัฐ โดยได้รับฟังรายงานการดำเนินการแก่หนี้แก่ข้าราชการ จากผู้บริหารในหน่วยงานต่างๆ เช่น กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองบัญชาการทหารสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงรับฟังมาตรการในการดำเนินการตามนโยบายแก้หนี้ของรัฐบาลจากผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงไทย
นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการรับฟังรายงาน ว่า จากที่ได้ฟังความคืบหน้าจากทุกหน่วยงาน ขอชื่นชมในความตั้งใจในการทำงาน ส่วนตัวเชื่อว่าคนที่อยู่ในห้องนี้คงไม่ประสบปัญหามากแบบข้าราชการที่เรากำลังพูดถึงอยู่ ที่มีจำนวนหลายแสนคน ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติให้เดินไปข้างหน้าได้ หากพวกเขามีหนี้สินล้นพ้นตัว ชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำงานเท่าไหร่ก็ไม่พอใช้ดอกเบี้ย จะเป็นสารตั้งต้นของหายนะของประเทศ ไปพึ่งทางที่มิชอบ เช่น การไปข้องเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือการทุจริตประพฤติมิชอบเพื่อใช้หนี้ ดังนั้นการแก้ไขกฎหมาย ไม่ลงโทษให้ออกจากราชการ หรือการทำให้เหลือเงินใช้ประมาณ 30% มีสินเชื่อพิเศษ และคำที่เราได้ยินมากที่สุดในวันนี้คือคำว่าลดดอกเบี้ยซึ่งตนเข้าใจว่าหลายหน่วยงานต้องคำนึงถึงผลกำไรในการประกอบการ
“ขอขอบคุณ เราทุกคนได้คำนึงถึงการลดดอกเบี้ย ถึงแม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะไม่ปรับลด แต่พวกท่านลด ช่วยผมต้องขอขอบคุณทุกท่านในที่นี้อย่างใจจริง ผมเชื่อว่าประชาชน ข้าราชการหลายคนเป็นหนี้บุญคุณ และขอบใจในความประสงค์ดีของทุกท่านในที่นี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ ผมเข้าใจว่าทุกหน่วยงานจะมี KPI ในการทำงานก็เข้าใจแต่การที่ที่ท่านต้องเฉือนเนื้อ ต้องมีการลดดอกเบี้ย เรื่องนี้ผมถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี“ นายเศรษฐา กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวต่อว่า ตนฝากถึงท่านรองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ตสอยากให้หน่วยงานสหกรณ์เข้ามาร่วมในโครงการเยอะขึ้น ขอความกรุณาให้ท่านทำงานให้หนักขึ้น ทำให้พวกเขาเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้น เพราะปัจจุบันหนี้สินเหล่านี้ยังไม่ลดลงไปจึงต้องพยายามทำให้เยอะขึ้น
ตนเข้าใจว่าทุกหน่วยงานมีขีดจำกัดในการทำงานของตัวเอง เรื่องที่มาอธิบายว่าบางเรื่องยังทำไม่ได้ ตนเข้าใจ และเชื่อว่าทุกท่านเป็นผู้บริหารระดับสูง เป็นผู้ใหญ่บ้านเมืองเมื่อมาอยู่ตรงนี้แล้วเรามาอยู่เพื่อพยายามหาวิธีการแก้ปัญหาให้ได้
นายเศรษฐา กล่าวย้ำว่า ตนอยากให้พวกเรามีความทะเยอทะยานในการช่วยเหลือประชาชนให้มากขึ้น และเชื่อว่าหากทุกท่านลงไปในพื้นที่จริงแล้ว ท่านจะเข้าใจถึงความลำบากในการหารายได้เพิ่มเติมให้กับครอบครัวของบุคลากรในสังกัด ตัวผมเองลงพื้นที่มา ได้ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและกองทัพ ให้พวกเขามีที่อยู่อาศัย ที่สมเกียรติสมศักดิ์ศรี การรักษาพยาบาล พยายามเจียดงบประมาณให้พวกเขาประหยัดค่าใช้จ่ายและมีการรักษาพยาบาลที่ดี
“พวกเราต้องช่วยกันลดดอกเบี้ย เพิ่มวงเงิน และหาวิธีทางให้เรื่องนี้เกิดขึ้นให้ได้ ให้พวกเราทะเยอทะยานขึ้นอีกหน่อย เพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้น” นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้าย
