‘สุราชุมชน’ ผ่านสภาผู้แทนฯ เอกฉันท์ ‘ชนินทร์’ ย้ำ ไม่ใช่สุราเสรี
‘สุราชุมชน’ ผ่านสภาผู้แทนฯ เอกฉันท์ ‘ชนินทร์’ ชี้ ลดการผูกขาด สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ย้ำ ไม่ใช่สุราเสรี
วันนี้ (15 ม.ค. 68) สภาผู้แทนราษฎรมีมติ ’เห็นชอบ‘ ร่างแก้ไขพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต หรือ พ.ร.บ.สุราชุมชน ในวาระ 3 ด้วยเสียงเห็นชอบ 415 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 5 เสียง โดยนายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการร่าง พ.ร.บ.สุราชุมชน เปิดเผยว่า กฎหมายฉบับนี้เพิ่มเติมความในมาตรา 153 กำหนดกรอบในการออกกฎกระทรวง เกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการขออนุญาตและการออกใบอนุญาตผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสำหรับผลิตสุราไว้ในครอบครอง ให้เปิดกว้างมากขึ้น ภายใต้ 2 ประเด็นหลัก คือ
1) ต้องสนับสนุนให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน องค์กรเกษตรกร หรือผู้ประกอบการรายย่อย สามารถขอรับใบอนุญาตผลิตสุราเพื่อการค้าได้ โดยไม่ใช้หลักเกณฑ์ที่เป็นการเลือกปฏิบัติหรือผูกขาดทางเศรษฐกิจโดยไม่เป็นธรรม หรือสร้างภาระเกินสมควร
2) ต้องสนับสนุนการใช้สินค้าเกษตรในประเทศมาผลิตหรือนำมาเป็นส่วนผสมในการผลิตสุราทุกประเภท
ทั้งนี้ ยังดำรงในหลักการเดิมว่า การผลิตสุราหรือมีเครื่องกลั่นสุราไว้ในครอบครอง ไม่ว่าด้วยวัตถุประสงค์ใด ต้องมีการขออนุญาต เพื่อให้หน่วยงานของรัฐรับทราบและสามารถควบคุมผลกระทบจากการลักลอบผลิตอย่างผิดกฎหมายได้ ไม่ใช่ ‘สุราเสรี’ ที่เปิดให้ทุกคน ผลิตสุราโดยขาดการควบคุม แตกต่างจากร่าง ‘สุราก้าวหน้า’ ของพรรคประชาชน ที่มีหลักการให้การขออนุญาตผลิตสุราต้องทำเมื่อผลิตเพื่อการค้าเท่านั้น ซึ่งการแก้ไขกฎหมายสุราชุมจะสร้างประโยชน์ต่อเนื่อง 4 เรื่องคือ
1) ลดการผูกขาดทางเศรษฐกิจของผู้ประกอบการรายใหญ่ ส่งเสริมการประกอบอาชีพอย่างถูกต้องของผู้ประกอบการรายย่อย มีช่องทางได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย
2) ส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกรในประเทศ ให้เกษตรกรมีโอกาสใหม่ในการสร้างได้รายได้เพิ่มขึ้น
3) เพิ่มการจัดเก็บรายได้ทางภาษีแก่ภาครัฐ จากการนำสินค้าที่ผลิตแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมายเข้าสู่ระบบ และโอกาสจากการต่อยอดผลิตภัณฑ์สุราเป็นสินค้าส่งออกมากขึ้น
4) ส่งเสริมวัฒนธรรมสุราชุมชนให้เป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ ยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ