POLITICS

‘แม่ทัพภาคที่ 2‘ ยัน ความสัมพันธ์ ‘รัฐบาล-กองทัพ’ ไร้ปัญหา

‘แม่ทัพภาคที่ 2‘ แจงกรณีกัมพูชาติดตาข่ายกันโดรน ชี้ เป็นมาตรการป้องกันปกติทั้ง 2 ฝ่าย ยัน ความสัมพันธ์ ‘รัฐบาล-กองทัพ’ ไร้ปัญหา จ่อ หารือ RBC ปมทุ่นระเบิด เผย หากไม่ยอมจะสื่อสารประชาคมโลก ย้ำ ทำหน้าที่ถึง 30 ก.ย. เกษียณ เชื่อ รองแม่ทัพเหมาะสมหลายคน เตือนอินฟลูฯโพสต์บนข้อเท็จจริง-ห่วงข่าวปลอมทำชาวบ้านตื่นตระหนก

วันนี้ (14 ส.ค. 68) ที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เกษตร พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาติดตาข่ายกั้นโดรน ว่า กัมพูชากั้นในพื้นที่ของเขาเป็นเรื่องปกติที่ทั้ง 2 ฝ่าย จะป้องกันไว้ก่อน เนื่องจากว่าการรบสมัยใหม่จะมีการใช้โดรน ซึ่งเราไม่รู้ว่าจะมาจากทิศทางไหน เพื่อป้องกันในลักษณะของโดรนสังหารด้วย โดยจะกั้นในที่ตั้งอาวุธยิงหรือที่ตั้งของฐาน ซึ่งฝั่งไทยก็ทำเหมือนกัน และต้องขอบคุณประชาชนที่บริจาคตาข่ายให้กองทัพได้นำไปใช้ป้องกันโดรนพลีชีพ ซึ่งเรากันเอาไว้ก่อนเพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขณะนี้ยังมีการรับบริจาคอยู่หรือไม่นั้นก็แล้วแต่ความประสงค์ของประชาชน หากจะมอบเราก็ยินดีรับอยู่แล้ว แต่หากมีการรุกล้ำเข้ามาในประเทศไทยเราก็สอยทันที

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ได้โทรหาพูดคุยเรื่องการรับบริจาคหรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า “ท่านไม่ได้โทร คิดว่าน่าจะไม่มีปัญหามั้ง” เพราะเรื่องลวดหนามก็เป็นเรื่องปกติ เหมือนกับที่มีการบริจาคกางเกงในหรือถุงเท้า และตอนนี้เราก็ได้ครบแล้วงบรัฐบาลก็สนับสนุนให้อยู่แล้ว แต่ก็อาจจะมีในส่วนของเรื่องระบบราชการที่อาจจะช้า ซึ่งตอนนี้เราสามารถควบคุมพื้นที่ได้จำนวนมากจึงจำเป็นต้องใช้ลวดหนาม เพื่อลดการลาดตระเวนของฝ่ายเรา

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพกับรัฐบาลไม่ได้มีปัญหากันใช่หรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ไม่มี เราก็ทำหน้าที่ป้องกันชายแดน รัฐบาลก็ทำหน้าที่ของรัฐบาลในฐานะผู้บริหาร

เมื่อถามถึงกรณีที่มีอินฟลูเอนเซอร์หลายคนใช้ปัญหาความขัดแย้งดังกล่าวนี้มาสร้างรายได้ให้กับตัวเองควรปฏิบัติตัวอย่างไรนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า การทำหน้าที่ของอินฟลูเอนเซอร์ทุกคนขอให้อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ข้อมูลข้อเท็จจริง และไม่ให้เกิดความแตกแยกของคนไทยในชาติ ตนเองเชื่อว่าประชาชนกำลังดูอยู่ หากโพสต์อะไรที่ไม่ดีตัวของอินฟลูเอนเซอร์ก็จะมีปัญหาต่อไปด้วยในเรื่องอาชีพ เพราะฉะนั้นก็ขอดูส่วนรวม ให้การโพสต์เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และเพื่อส่วนรวม ตนเองคิดว่าจะยั่งยืนมากกว่า

สำหรับการประชุม RBC ที่จะถึงนี้เราได้รับการตอบรับจากกัมพูชาด้วยดีหรือไม่ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ก็ดี เขาตอบรับแล้ว ในช่วงปลายเดือนนี้ก็จะพูดคุยกันในเรื่องของคณะเลขา แล้วที่ประชุมก็จะคุยกันอีกครั้งหนึ่งว่าเราจะหารือกันในเรื่องอะไรบ้าง โดยมีตนเอง และแม่ทัพของฝ่ายกัมพูชาเป็นประธานในที่ประชุม ยืนยันว่าต้องเป็นการหารือฝังไทยเท่านั้น คาดว่าจะใช้สถานที่บริเวณแถวแนวชายแดน เพื่อความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย และฝ่ายไทยจะนำเรื่องของทุ่นระเบิดเข้าหารือในที่ประชุม เพราะเป็นเงื่อนไขในอนุสัญญาออสตาวา ว่าด้วยทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งกัมพูชาก็เป็นสมาชิกด้วย โดยหากไม่ยอมรับก็จะทำการประท้วงและสื่อสารไปยังสากลให้รับทราบว่าเกิดอะไรขึ้น โดยการปฏิเสธทุกครั้งก็เป็นวิธีของกัมพูชาอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าจะคาดหวังได้แค่ไหนที่จะนำไปสู่การปฏิบัติตาม 13 ข้อตกลงหยุดยิงอย่างเป็นรูปธรรม พลโท บุญสิน กล่าวว่า ตนเองคิดว่าอยู่ที่ผู้นำของกัมพูชามากกว่า เพราะแม่ทัพของเขาก็ก็รอการยืนยันจากผู้บังคับบัญชาเช่นกัน ส่วนเรามีความพร้อมรับมืออย่างไรบ้างนั้น ก็พร้อมทั้งการชี้แจง และการใช้กำลัง

เมื่อถามถึงเรื่องกับระเบิดจะมีการปรับยุทธวิธีอย่างไรบ้างนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เราได้มีการปรับไปแล้วในการเฝ้าตรวจระยะไกล การใช้เครื่องมือพิเศษ การใช้โดรนตรวจสอบ รวมถึงการวางลวดหนาม แต่ในพื้นที่บางจุดก็ยังคงมีความจำเป็นในการต้องเดินลาดตระเวนเพราะหากไม่ไปลาดตระเวนอาจถูกยึดคืนพื้นที่เข้ามาได้ แต่เราก็พยายามใช้วิธีที่รอบคอบที่สุดไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรหรือเครื่องตรวจทุ่น ส่วนการใช้รถกวาดนั้นถือว่ามีประโยชน์แต่บางจุดไม่สามารถเอารถกวาดเข้าไปได้

เมื่อถามถึงกระแสเรียกร้องที่ให้มีการต่ออายุราชการของแม่ทัพนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ตนเองมองว่าเป็นเรื่องของสังคมมากกว่า ซึ่งตนเองจะปฏิบัติหน้าที่ตามอายุราชการจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 68 จึงถือว่าจบภารกิจ แต่ตนเองก็ขอบคุณเพราะถือว่าประชาชนให้กำลังใจ และตนเองพร้อมที่จะเป็นคนดีของประเทศชาติต่อไป โดยมองว่ายังมีรองแม่ทัพอีกหลายคนที่มีความเหมาะสม เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ตนเองก็ยังเป็นคนไทยและอยู่ช่วยคนไทยเหมือนเดิม

เมื่อถามต่อว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนผ่าน พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า คนมั่นใจในการทำงานของแม่ทัพคนใหม่ มองว่าผู้บัญชาการทหารบกและผู้บังคับบัญชาจะเลือกคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว กองทัพสร้างคนมาทดแทนได้อยู่แล้ว ส่วนเรื่องพื้นที่ปราสาทตาควายนั้น ยืนยันว่ายังเป็นของเราอยู่ แต่ก็ต้องหาวิธีนำกลับคืนมาด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ ทั้งช่องทางระหว่างประเทศหรือช่องทางอื่นที่มีโอกาส ซึ่งเรายังถือว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของไทยอยู่

ทั้งนี้ กรณีที่กำลังพลโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียระบุว่าเสบียงที่แนวหน้าไม่เพียงพอนั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ตนเองได้แจ้งผู้บังคับหน่วยให้ลงไปดูลูกน้อง เนื่องจากบางจุดอาจมีปัญหาและอยู่ห่างไกล จึงขอให้ไปดูให้ทั่วถึง และขอคนที่โพสต์ข้อความดังกล่าวได้แจ้งไปที่ผู้บังคับบัญชาว่าเป็นอย่างไรบ้าง เราจะได้ลงไปแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะบางทีเสบียงไม่พอแต่การโพสต์แบบนี้เราก็ไม่รู้ว่าเป็นจุดไหนกันแน่

นอกจากนี้ พล.ท.บุญสิน ได้ฝากถึงชาวบ้านบริเวณชายแดนหลังมีข่าวลือให้อพยพอีกรอบ ว่า ขอให้ฟังศูนย์จากทางราชการเป็นหลัก เพราะการที่ไปฟังจากสื่อโซเชียลมีเดียนั้นตนเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโพสต์ให้ตื่นตระหนก ยืนยันว่าเป็นข่าวปลอมทั้งหมด ซึ่งแบบนี้ไม่ดี พร้อมฝากถึงคนไทยที่เอาไปโพสต์แล้วทำให้สังคมเกิดความเดือดร้อน ให้คิดก่อนโพสต์ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่อย่างไว้วางใจไม่ได้หรือไม่นั้น ก็ยังไม่มีมีการถอนกำลัง อาวุธทุกอย่างก็ยังอยู่ในพื้นที่เหมือนเดิม และคาดว่าฝ่ายเขาก็ก็จะยังไม่ลดลาวาศอกในเรื่องของการใช้ทุ่นระเบิด

ส่วนเรื่องขวัญกำลังใจของทหาร หลังมีเหตุการณ์เหยียบทุ่นระเบิดเกิดขึ้นมาหลายครั้งนั้น พลโท บุญสิน กล่าวว่า ดี แต่เป็นเรื่องปกติที่จะกระทบต่อจิตใจเพื่อนร่วมงานอยู่แล้ว ในฐานะผู้บัญชาการทุกระดับก็ต้องลงไปดู และให้กำลังใจกัน รวมถึงแก้ไขในส่วนที่เกิดขึ้นให้ดีที่สุด

เมื่อถามต่อว่าเหมือนฝ่ายกัมพูชาจะมีการล็อคเป้าหมายหมายหัวแม่ทัพภาคที่ 2 ไว้นั้น พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ยินดี เชื่อว่าเขาหมายหุวอยู่แล้ว เพราะตนก็หมายหัวไว้เหมือนกัน ส่วนเรื่องการเปิดด่านชายแดนนั้น ยังไม่พร้อมเปิดคิดว่าน่าจะปิดจนจนเกษียณอายุราชการ

Related Posts

Send this to a friend