POLITICS

‘แพทองธาร’ ยัน ไม่เบรค ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน แค่แสดงความเป็นห่วง

‘แพทองธาร’ ยัน ไม่มีเบรค ‘ทักษิณ’ กลับบ้าน แค่แสดงความเป็นห่วง มอง หากกลับมาต้องดูความเหมาะสม เผย ‘คุณหญิงพจมาน’ ห่วงทุกคนในครอบครัว ส่วน ปมหุ้นสื่อ ‘พิธา’ ขอให้กำลังใจ ย้ำชัด ‘เพื่อไทย’ เดินหน้าต่อกับพรรคร่วมฯ ไม่พลิกขั้ว เชื่อมั่นในประชาธิปไตย ชี้ ไม่ได้อยู่ในโผ ครม.

วันนี้ (14 มิ.ย. 66) ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีรายงานข่าวครอบครับชินวัตรเบรคการเดินทางกลับประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ถ้าเรื่องมันจริงจังขนาดนั้น คงไม่นัดกันทานข้าวนอกบ้าน สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่ความห่วงใยของคุณแม่ (คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์) ซึ่งตอนนี้เป็นเสาหลักของครอบครัว ก็เป็นห่วงทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตนเอง ที่ขอพูดในฐานะแม่ของลูกสาวคนเล็ก ไม่ได้พูดในนามแม่ของแคนดิเดตพรรคเพื่อไทย มีความห่วงใยนายทักษิณ และห่วงใยคนในครอบครัว หลังจากอ่านข่าวแล้วเห็นวิเคราะห์ไปมากมายก็เลยอยากบอกว่าไม่มีอะไรเลย

“ส่วนสถานการณ์การเมืองตอนนี้ จริง ๆ อยากให้คุณพ่อกลับบ้านอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่ว่าจะกลับมาแบบไหน แล้วทางใด เชื่อว่าคุณพ่ออยากกลับมาอยู่หลายครั้งในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา ท่านอยากกลับมาเลี้ยงหลาน ยิ่งอายุมากขึ้นก็ยิ่งอยากกลับมากขึ้นจึงอยากให้ท่านตัดสินใจมากกว่า”

นางสาวแพทองธาร ระบุต่อว่า ตนเองเป็นห่วง อยากให้ดูข้อมูลให้ครบ คำถามที่ว่าจะกลับมาเมื่อใด เป็นเรื่องที่เราพูดคุยกันตลอด ซึ่งต้องดู และตัดสินใจให้ดี ไม่ได้มีการห้ามว่าไม่ให้กลับมา หรือตอนนี้กลับมาไม่ได้ มองว่าอาจจะไม่แฟร์กับทางนายทักษิณ จึงให้ตัดสินใจเองดีกว่าเพราะชีวิตก็เป็นของนายทักษิณ คนในครอบครัวเราฟังกันอยู่แล้ว สุดท้ายการตัดสินใจของใครก็เป็นเรื่องของคนนั้น

นางสาวแพทองธาร ระบุอีกว่า การกลับบ้านของนายทักษิณต้องดูเหตุการณ์ทางการเมืองอยู่แล้ว ไม่อยากกลับมาแล้วเป็นความวุ่นวาย เพราะเขาก็เป็นคนที่มีความสำคัญทางการเมืองต้อง และดูเรื่องความเหมาะสมด้วย ส่วนจะเลื่อนกำหนดการกลับมาหรือไม่ นายทักษิณก็ยังไม่ได้บอกมา

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงความเป็นห่วงของครอบครัวว่าอาจยังไม่เหมาะสมในการเป็นแคนดิเดตนายกฯ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ทางครอบครัวไม่ได้ห้าม แต่พูดถึงลูกสาวคนเล็ก ซึ่งก็คงมีความภูมิใจในลูกสาวคนเล็กอย่างเรา เราไม่ได้เด็ก แต่ครอบครัวก็เป็นห่วงตลอด อย่างในช่วงระหว่างตั้งครรภ์แล้วต้องเดินทางไปปราศรัยที่บ้านก็เป็นห่วงมาก โดยส่วนตัวถ้าไม่พร้อมเป็นแคนดิเดตนายกฯ ก็คงไม่เป็น และคงไม่มีชื่อเรา ถ้าไม่พร้อมก็ไม่กล้ามาในจุดนี้ หากไม่พร้อมก็ต้องบอกคนในพรรคว่าไม่พร้อม

“พรรคเราโดนเรื่องการยุบพรรคมาแล้วถึง 2 ครั้งอยากเรียกร้องให้หนักแน่นในประชาธิปไตย เคารพเสียงของประชาชน ในเมื่อประชาชนเลือกมาแล้วก็อยากให้จัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด เพื่อแก้ปัญหาต่อไป ส่วนกระบวนการต่าง ๆ ขอให้พิจารณาตามกรอบตามฐานที่มี และขอส่งกำลังใจให้นายพิธา เพราะเห็นว่าประชาชนก็รอไม่ไหวแล้วประเทศก็รอไม่ไหวแล้วในการเคลื่อนไปข้างหน้าต่อ เราต้องมีการเมืองแบบใหม่แล้ว มุ่งไปข้างหน้าต่อไม่ว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยหรือครอบครัวของอิ๊งเจอมา อยากให้ยุติลง อยากให้เป็นการเมืองที่สร้างสรรค์พร้อมที่จะพัฒนาประเทศต่อไปจริง ๆ”

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงการประเมินอุบัติเหตุทางการเมือง แล้วพรรคร่วมทำอย่างไร นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ไม่อยากประเมิน เพราะตอนนี้โจทย์ที่มีอยู่คือการทำงานร่วมกันกับพรรคก้าวไกลที่ได้คะแนนอับดับหนึ่ง และเรื่องการรีแบรนด์ของพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามย้ำว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่มีการสลับขั้ว หรือยังคงอยู่ฝั่งประชาธิปไตยใช่หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ตอบว่า แน่นอน ฝ่ายประชาธิปไตยต้องจับมือกันไว้ให้แน่น เราเคารพเสียงของประชาชน ให้เป็นไปตามกระบวนการตามวาระไป เราไม่มีแพลนที่จะพลิกไปไหนอะไรทั้งสิ้น และข่าวที่ออกมาอย่างเรื่องดีลลับ ก็ไม่รู้ว่าไปดีลกันตอนไหน ถ้าลับคงต้องลับมาก เพราะว่าลับจากเราไปเลย

ส่วนเรื่องกระแสข่าวโผคณะรัฐมนตรีที่มีชื่อของนางสาวแพทองธารเป็นรองนายกรัฐมนตรี หรือเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศนั้น นางสาวแพทองธาร เผยว่า รู้ก่อนเราอีกแล้ว ซึ่งเราไม่ทราบเลยว่ามาจากไหน เราก็เห็นพร้อมกับคนที่ดูโซเชียล ส่วนเรื่องการรับตำแหน่งนั้นก็ยังไม่ทราบเช่นกัน และการรับตำแหน่งฝ่ายบริหารต้องรอดูคณะผู้บริหารหลายท่านพูดคุยตกลงกันระหว่างพรรคร่วมด้วย

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat