POLITICS

นายกฯ เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์สนามบินเบตงกระตุ้นเศรษฐกิจ-มั่นคง 3 จังหวัดชายแดนใต้

นายกฯ เป็นประธานเปิดเที่ยวบินพาณิชย์ปฐมฤกษ์ ท่าอากาศยานเบตง กระตุ้นเศรษฐกิจและความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันนี้ (14 มี.ค. 65) กระทรวงคมนาคม โดยกรมท่าอากาศยาน (ทย.) พร้อมเปิดให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ปฐมฤกษ์ ท่าอากาศยานเบตง จังหวัดยะลา ในการนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ร่วมเดินทางไปกับเที่ยวบินพาณิชย์ปฐมฤกษ์ และเป็นประธานในพิธีเปิดเที่ยวบินพาณิชย์ปฐมฤกษ์ โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ร่วมเดินทางไปกับเที่ยวบินพาณิชย์ปฐมฤกษ์ดังกล่าวด้วย

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า อำเภอเบตงเป็นอำเภอใต้สุดของประเทศไทยติดกับชายแดนของประเทศมาเลเซีย ถือเป็นเมืองชายแดนที่มีการเคลื่อนไหวทางธุรกิจและการค้าขายสูง ประกอบกับมีการผสมผสานทางวัฒนธรรม เช่นขนบธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ รวมถึงภาษาที่หลากหลาย และธรรมชาติมีความสวยงามทำให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เพื่อรองรับการขนส่งและการเดินทางต่อเนื่องหลายรูปแบบ รัฐบาลจึงได้มอบให้กระทรวงคมนาคมในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการยกระดับการให้บริการประชาชน ด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานและบริการคมนาคมขนส่งให้มีความคุ้มค่าและทั่วถึง ดำเนินการพัฒนาระบบการขนส่งของพื้นที่จังหวัดยะลา โดยมีแนวทางที่สำคัญ คือ การพัฒนาบริการขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานสากล

รวมทั้งพัฒนาด่านศุลกากรชายแดน ศูนย์เศรษฐกิจชายแดน และการอำนวยความสะดวกผ่านแดนที่รวดเร็ว ตลอดจนผลักดันการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งทางบกและทางอากาศ เพื่อให้เกิดระบบขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ สามารถรองรับการค้าและการลงทุนที่จะสูงขึ้นจากการเป็นประชาคมอาเซียน

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคม โดย กรมท่าอากาศยาน(ทย.) ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานเบตง ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2558 และนโยบายการพัฒนา 14 จังหวัดภาคใต้ เพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการท่องเที่ยว เนื่องจากอำเภอเบตงมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ให้กับจังหวัด รองจากอําเภอเมืองยะลา แต่การเดินทางในปัจจุบันต้องอาศัยการเดินทางทางถนนเป็นหลัก ซึ่งสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน ถนนแคบและคดเคี้ยวลาดชันเป็นช่วง ๆ ทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางจากอำเภอเบตงไปยังเมืองอื่น ๆ

ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาการคมนาคมของ อําเภอเบตงและพื้นที่ใกล้เคียง ท่าอากาศยานเบตงจึงเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการบินสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความมั่นคงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เป็นอย่างดี ท่าอากาศยานเบตงได้รับใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งมีความพร้อมให้บริการตามมาตรฐาน เริ่มให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์แรก โดยสายการบินนกแอร์ เส้นทางกรุงเทพฯ – เบตง – กรุงเทพฯ ในวันที่ 14 มีนาคม 2565 ซึ่งเส้นทางการบินและการขึ้น – ลงของอากาศยานจะอยู่ในน่านฟ้าของประเทศไทยเท่านั้น นอกจากเส้นทางให้บริการภายในประเทศแล้ว ท่าอากาศยานเบตงยังมีความพร้อมที่จะมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค (Regional Hub) เส้นทางระหว่างประเทศไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ในอนาคตด้วย

ท่าอากาศยานเบตง เป็นท่าอากาศยานแห่งที่ 29 ของ ทย. เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2560 แล้วเสร็จในปี 2562 ตั้งอยู่ในตำบลยะรม อำเภอเบตง จังหวัดยะลา บนพื้นที่ 920 ไร่ ประกอบด้วย ทางขับ จำนวน 2 เส้น ทางวิ่ง กว้าง 30 เมตร ยาว 1,800 เมตร ลานจอดเครื่องบินรองรับเครื่องบินขนาด 80 ที่นั่ง (ATR-72 และ Q-400) จำนวน 3 ลำ อาคารที่พักผู้โดยสารมีพื้นที่ใช้สอยขนาด 7,000 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 300 คนต่อชั่วโมง หรือ 800,000 คนต่อปี และลานจอดรถยนต์ จำนวน 140 คัน จะเริ่มให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์แรก โดยสายการบินนกแอร์ เส้นทางกรุงเทพฯ – เบตง – กรุงเทพฯ ในวันที่ 14 มีนาคม 2565 โดยให้บริการ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (วันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์) และดำเนินการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ตามประกาศของ กพท. และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ

ทั้งนี้ ทย. อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของแผนพัฒนาท่าอากาศยานเบตง ด้วยการเพิ่มความยาวทางวิ่งอีก 700 เมตร เป็น 2,500 เมตร เพิ่มความกว้างทางวิ่งเป็น 45 เมตร ขยายทางขับจาก 18 เมตร เป็น 23 เมตร ขยายลานจอดเครื่องบินจากเดิมที่มีขนาด 94 x 180 เมตร เป็นขนาด 94 x 240 เมตร สามารถรองรับเครื่องบินขนาด 180 ที่นั่ง ได้ 3 ลำพร้อมกัน (A380 และ B737-800) และขยายพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่งไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกอีก 240 เมตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยาน เติมเต็มโครงข่ายคมนาคมทางอากาศของไทย เสริมความมั่นคงแข็งแกร่งให้กับชายแดนใต้ มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค และเปิดประตูการค้าและโลจิสติกส์ให้กว้างไกลในเวทีโลก

Related Posts

Send this to a friend