‘Thailand Pride’ ยื่นหนังสือ เร่งพิจารณากฎหมายสมรสเท่าเทียม
‘ดนุพร’ เผย อีก 1 เดือนจะพิจารณาแล้วเสร็จ หวังคืนสิทธิ์ให้กลุ่ม LGBTQ+ เท่าเทียม ชาย-หญิง
วันนี้ (14 ก.พ. 67) คณะทำงาน Thailand Pride เดินทางมายื่นหนังสือ แก่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. … หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อขอให้ทาง กมธ. เร่งพิจารณากฎหมายสมรสเท่าเทียมโดยเร็ว โดยมี นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการฯ นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯ เป็นผู้รับหนังสือ ณ อาคารรัฐสภาฯ
นายธัญวัจน์ กล่าวว่า สำหรับวันนี้ที่เป็นวันแห่งความรัก ตนเองและทางคณะกรรมาธิการฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มารับหนังสือจากคณะ Thailand Pride ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความหลากหลาย เป็นบุคคลที่ใช้ชีวิตร่วมกันมาเป็นระยะเวลานาน แต่ก็ยังรอการจดทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเป็นบุคคลที่ต่อสู้ในเรื่องการข้ามเพศ เพื่อให้ได้สิทธิ์ของบุคคลข้ามเพศมาโดยตลอด
ด้าน นายกิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า อยากให้เร่งพิจารณาเพราะถือเป็นการคืนสิทธิให้กับชาว LGBTQ+ จึงอยากขอให้ กมธ. รีบคืนสิทธิให้ได้เร็วที่สุดเพื่อพัฒนาให้ประเทศไทยมีสิทธิสมรสเท่าเทียมและสร้างประวัติศาสตร์เป็นที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ประกาศใช้กฎหมายดังกล่าว
นายดนุพร กล่าวว่า ถึงประชาชนที่กำลังรอกฎหมายฉบับนี้อยู่ ในตอนมีทั้งหมด 68 มาตรา ผ่านการพิจารณาแล้ว 48 มาตรา ซึ่งมีบางประเด็นที่ยังอยู่ระหว่างพิจารณาอยู่ คาดว่าจะใช้เวลาในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้อีกประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นจะนำเข้าสู่สภาฯ เป็นวาระที่ 2 และ วาระที่ 3 ต่อไปก่อนจะส่งให้วุฒิสภาพิจารณา ซึ่งจะดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อจะให้ทันการพิจารณาของ สว. ในชุดนี้ที่กำลังจะหมดวาระลงในเดือน พ.ค. นี้ ซึ่งได้มีการประสานกับ สว. แล้วบางท่าน พบว่า สว.ในชุดปัจจุบันก็อยากที่จะมีส่วนร่วมในการพิจารณา กฎหมายฉบับนี้ด้วยเช่นกัน ยืนยันว่าจะพยายามทำกฎหมายให้ออกมาอย่างเร็วที่สุด และจะพิจารณาออกมาอย่างรอบครอบที่สุด โดยหวังว่าจะได้ประกาศบังคับใช้ภายในปีนี้
นายดนุพร กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้ถูกร่างเพื่อคนกลุ่มในกลุ่มหนึ่ง แต่ร่างเพื่อพี่น้องคนไทยทุก ๆ คน เพียงแต่เราจะคืนสิทธิ์ให้กลับกลุ่ม LGBTQ+ ให้เป็นไปตามสิทธิ์ที่ควรจะได้รับ เพื่อได้ใช้ชีวิตตามปกติสุขเสมือน ชาย-หญิง ทั่วไป ให้ประเทศไทยมีสิทธิเท่าเทียมกัน และหวังว่าจะสร้างประวัติศาสตร์ ที่จะเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชีย และเป็นประเทศแรงในเซาธ์อีสต์เอเชีย ที่ได้ประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม ในเร็ววันนี้