POLITICS

เปิดใจโฆษกทีมเศรษฐกิจ เพื่อไทย ‘อู๋ จุฑาพร’ ดีกรี UCLA – ออกซ์ฟอร์ด

เปิดใจโฆษกทีมเศรษฐกิจเพื่อไทย ‘อู๋ จุฑาพร’ ดีกรี UCLA-ออกซ์ฟอร์ด บอกลาเส้นทางอาจารย์ สู่สนามเลือกตั้งบางรัก-ปทุมวัน-สาทร ไม่หวั่นเจ้าถิ่น พปชร.-ปชป. เพราะเชื่อว่าคนรอเลือกตั้ง และอยากเห็นประเทศเปลี่ยนไปจากเดิม

วันนี้ (13 ธ.ค. 65) The Reporters พูดคุยกับ นางสาวจุฑาพร เกตุราทร หรือ อาจารย์อู๋ อดีตอาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ปัจจุบันเป็นว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขตบางรัก เขตสาทร เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร (กทม.) และโฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเปิดเผยถึงจุดยืน ตัวตน วิสัยทัศน์ ทั้งในพื้นที่เขตเลือกตั้ง และภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ

เศรษฐกิจที่ทำให้คนอยากตาย

นางสาวจุฑาพร มองเศรษฐกิจไทยที่ผ่านมา 8 ปีภายใต้การบริหารงานของรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ประชาชนเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะข้าวของและค่าครองชีพที่แพงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหารที่แต่ก่อน 30-40 บาท แต่ปัจจุบันขึ้นมา 60-70 บาท รวมถึงค่าน้ำมัน ค่าแก๊สหุงต้ม ซึ่งล้วนเป็นต้นทุนการใช้ชีวิตที่ประชาชนเดือดร้อน เมื่อค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่เงินในกระเป๋าไม่เพิ่มตาม หลายคนเริ่มมีหนี้สิน รวมถึงดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบที่สูงมาก เก็บเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์

“บางคนวิ่งมาเจอเรา แล้วบอกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ ปีหน้า เขาอยากตาย เลยต้องบอกให้เขาใจเย็น แล้วเขาก็ร้องไห้ คือมันเป็นอะไรที่ประชาชนอัดอั้นมาก”

โฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ยังมองว่า แม้ทุกประเทศทั่วโลกเจอวิกฤตโควิด-19 เหมือนกัน แต่เมื่อเปรียบเทียบตัวเลขเศรษฐกิจของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน จะพบว่า ในไตรมาสที่ 3 ไทยยังเติบโตช้า เพียงแค่ 4% ขณะที่ต่างประเทศอย่างมาเลเซียและเวียดนามขยายตัวกว่า 13-14% จึงอยู่ที่ผู้บริหาร หากบริหารผิดพลาด คนที่ได้รับผลกระทบจึงเป็นประชาชน

มุมมองอดีตนักศึกษาออกซฟอร์ดและ UCLA ต่อกระแสสมองไหล คนรุ่นใหม่อยากย้ายประเทศ

ด้วยประสบการณ์การศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านเศรษฐศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส (UCLA) ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับทุนการศึกษาด้านนโยบายสาธารณะ ที่มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ จึงอดถามความเห็นต่อกระแสการย้ายประเทศของคนรุ่นใหม่ ที่หลายคนเห็นว่าเป็นเสมือนสมองไหลออกไป

“นี่เป็นคำถามแรก ๆ ที่อู๋ได้ยินตอนมาสอนที่ มธ. เชื่อไหมว่านักศึกษาทุกคนจะถามประโยคนี้ ‘ทำไมจารย์กลับมาเมืองไทย ?’ ‘จารย์ไปเรียนเมกา ไปเรียนอังกฤษมา ทำไมจารย์ ไม่อยู่ไปเลย ?’ อู๋ก็ตกใจ เพราะเขามองว่าประเทศเหล่านี้มองว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า และเขาเบื่อหน่ายกับระบบราชการ และระบบหลายอย่างในประเทศไทย”

อย่างไรก็ตาม ในฐานะอาจารย์ เธอยังเห็นว่า ประเทศไม่ได้แย่ขนาดนั้น ประเทศยังแก้ไขได้ และอยู่ที่ผู้นำ ส่วนตัวเธอเลือกที่จะกลับมาเพราะเชื่อว่าประเทศไทยพัฒนาได้และดีกว่านี้ได้ ถ้าเปิดให้คนรุ่นใหม่ออกมาช่วยกัน ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นได้

“ไม่ต้องย้ายหนี อู๋ว่าเปลี่ยนผู้นำง่ายกว่า”

สละเส้นทางวิชาการ สู่สนามการเมืองระดับประเทศ

แม้จะไม่ได้สวมบทบาทผู้สอนแล้ว แต่สำหรับนางสาวจุฑาพร เธอมองว่า แวดวงอาชีพนักวิชาการ ช่วยให้ได้เข้าใจและแลกเปลี่ยนมุมมองกับนักศึกษามามากพอสมควร จนเข้าใจว่าคนรุ่นใหม่เบื่ออะไรและอยากเห็นประเทศไปในทิศทางไหน

นางสาวจุฑาพร เปิดเหตุผลเบื้องหลังว่า ไม่ใช่แค่ตัวเธอ แต่น่าจะเป็นหลายคนที่คิดว่าประเทศต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงจากระบบการเมือง ปัญหาของประเทศในทุกวันนี้เป็นวงจรเดิม ทั้งการเสียผลประโยชน์ จนเรียกร้อง และรัฐประหาร จึงถึงเวลาแล้วที่เราจะมีประชาธิปไตยเต็มใบและเป็นประชาธิปไตยที่กินได้

“พรรคเพื่อไทย เป็นพรรคเดียวที่เวลาเสนอนโยบายแล้ว ทำได้จริง นโยบายทุกคนเสนอได้หมด แต่ที่ผ่านมาเราเคยได้ยินเรื่องค่าแรง 400 บาทเมื่อ 4 ปีที่แล้ว แล้ววันนี้มันไปถึงตรงนั้นหรือเปล่า ?”

ฝันของเพื่อไทย ในการปักธงย่าน CBD ของพลังประชารัฐ และอดีตประชาธิปัตย์

นอกจากบทบาทโฆษกคณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย ที่ต้องรับผิดชอบการแถลงข่าวทุกวันอังคารแล้ว หมวกอีกใบที่นางสาวจุฑาพรต้องสวมอยู่ คือการเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางรัก เขตปทุมวัน และเขตสาทร ซึ่งล้วนเป็นเขตธุรกิจกลางเมือง (CBD) ในพื้นที่ดั้งเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนที่ปัจจุบันเป็นที่นั่งของ ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ที่ล่าสุดมีกระแสข่าวจะย้ายไปพรรคภูมิใจไทย

ในมุมมองของว่าที่ผู้สมัคร พรรคเพื่อไทย นางสาวจุฑาพร เห็นว่า จริงอยู่ที่แต่ก่อนอาจมีบางพรรคที่มีฐานเข้มแข็ง แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อกาลเวลาเปลี่ยนแปลง คนก็อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ หากเลือกคนเดิมก็ได้ผลลัพธ์เดิม

“เขาก็บอกว่าเหมือนเดิม ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น หลายอย่างที่เคยสัญญาไว้ แล้วไม่สามารถทำได้ในช่วงที่ผ่านมา ประชาชนก็รอคอยการเปลี่ยนแปลง รอคอยการเลือกตั้ง ถามเราเลยว่า เลือกตั้งเมื่อไร ? เบอร์อะไร ? เขาพร้อมจะออกไปใช้สิทธิ เลือกทางเลือกใหม่ที่จะแก้ปัญหาในปัจจุบันได้ ปีหน้าถ้าเป็นรัฐบาลเดิมก็น่าจะอ่วม”

นางสาวจุฑาพร ยังฝากทิ้งท้ายว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่พูดแล้ว ทำได้จริง อย่างเขตกลางเมือง ยังมีความเหลื่อมล้ำสูงมาก ยังมีประชาชนผู้ด้อยโอกาสและรายได้น้อยอยู่มาก ในหลายพื้นที่ที่เคยเจริญรุ่งเรืองอย่างย่านถนนพัฒน์พงศ์ ถนนธนิยะ ถนนเจริญกรุง ก็เงียบไปมาก นักท่องเที่ยวหายไปเยอะ ซึ่งเราอยากให้ผู้คนในประเทศอยากเข้ามาเยี่ยมชมได้ ไม่ใช่ไปแต่ห้างสรรพสินค้าในเมืองหลวง แต่อยากให้คนสนับสนุนซอฟต์พาวเวอร์และของดีประจำชุมชน

“การเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้นจากตัวเรา ถ้าเลือกแบบเดิม ได้แบบเดิม”

Related Posts

Send this to a friend