ครม.เดินหน้าแก้ รธน.เล็งยกคำถามประชามติ iLaw มาพิจารณา
ครม.เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ ไม่แตะหมวด 1, 2 เล็งยกคำถามประชามติ iLaw มาพิจารณา พร้อมอนุมัติ Free-Visa จีน-คาซัคสถาน
วันนี้ (13 ก.ย.66) เวลา 13.15 น. นสพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เป็นครั้งแรกหลังได้รับการแต่งตั้ง โดยเปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.มีมติจะแก้ปัญหาความเห็นต่างของรัฐธรรมนูญ ทำให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยไม่แตะหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ และจะรับฟังเสียงประชาชนจัดทำประชามติ ซึ่งได้มอบหมายให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ตั้งกรรมการ รับฟังความเห็นประชาชนในการตั้งคำถามทำประชามติ เนื่องจากทำประชามติสูญเสียงบประมาณหลายพันล้านจึงต้องออกแบบให้ชัดเจน ภายใต้หลักการให้ประชาชนมีส่วนร่วม ซึ่งนายกรัฐมนตรีสั่งการให้ดำเนินการเร็วที่สุด ส่วนคำถามประชามติของ iLaw เราจะนำมารับฟังและพิจารณา ทั้งนี้ยังมีประชาชนกลุ่มอื่นที่มีความเห็นต่าง และยังอยากที่แสดงความเห็นเพิ่มเติม
“เราตระหนักว่า iLaw เป็นองค์กรที่มีคุณภาพ แต่อย่าลืมว่าประเทศนี้มีความหลากหลาย ขอเวลารัฐบาลให้ทำความเข้าใจกับทุกกลุ่ม จะได้เป็นเรื่องที่ออกมาแล้วไม่เถียงกันทีหลัง”
ส่วนการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ได้มอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นเจ้าภาพในการกำหนดเงื่อนไขและรายละเอียด พร้อมให้นำกลับมาเสนอในที่ประชุม ครม. โดยเร็ว คาดว่าจะเป็นการประชุม ครม. รอบหน้า ส่วนการอภิปรายของรัฐสภาในสองวันที่ผ่านมา รัฐบาลยอมรับแนวคิดและคำติติง ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำให้ศึกษาอย่างละเอียดรอบคอบ
ด้านมาตรการท่องเที่ยวจะเปิด Free-Visa ให้กับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย รัฐบาลได้กำชับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้ไว้ที่ที่ 28 ล้านคน มีรายได้เข้าประเทศ 1.4 ล้านล้านบาท ส่วนปี 2567 ส่วนเป้าหมาย 2567 ต้องมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน รายได้ 3.1 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดูแลความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ หากเกิดความผิดพลาดต้องรับผิดชอบ สร้างความมั่นใจให้กับการเดินทางมาในไทย โดยมีแผนที่จะทำภาพยนตร์โฆษณา และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลไทยและรัฐบาลคู่ความร่วมมือ โดยนายกรัฐมนตรีจะนำคณะไปยังประเทศเป้าหมาย เพื่อเชิญชวนให้มาที่ประเทศไทย ทั้งยังจะกระตุ้นศักยภาพการเดินทาง โดยเพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน โดยเฉพาะเที่ยวบินไปเมืองรองที่มีศักยภาพสูง
เราจะจัดอีเวนต์ ทำให้การท่องเที่ยวเมืองไทยมีจุดขาย ให้นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยว 365 วัน ผลักดันให้เทศกาลสงกรานต์ และลอยกระทงเป็น “World Class Event” ซึ่งเราได้รับคำมั่นสัญญาจากผู้ประกอบการแล้วว่าจะเสนอโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็น Entertainment Hub ในเอเชีย สุดท้ายรัฐบาลจะตั้ง Online Crisis Management ทั้งหมดเป็นบัญญัติ 10 ประการสร้างรายได้ให้กับประเทศทำให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคัก












