HEALTH

แพทย์เตือน อันตรายจากการแคะหู เสี่ยงแก้วหูทะลุ สูญเสียการได้ยิน

วันนี้ (13 ก.ย. 66) นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เตือน การแคะหูเอง เสี่ยงแก้วหูทะลุ อาจทำให้สูญเสียการได้ยิน และนอกจากจะแคะขี้หูได้ไม่หมด เนื่องจากมองเห็นได้ไม่ชัดเจนแล้ว จะทำให้ขี้หูอุดตันถูกดันลึกมากขึ้น อีกทั้งการแคะหูบ่อยๆ อาจทำให้เกิดรอยถลอกหรือแผลในรูหู และก่อให้เกิดอันตรายต่อหูชั้นนอก และทำให้เกิดการอักเสบ จึงทำให้มีอาการปวดหู หูอื้อ มีน้ำไหลจากหู ซึ่งทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง

พร้อมกันนี้แนะหลีกเลี่ยงการแคะหู โดยให้ใช้เพียงผ้าเช็ดทำความสะอาด บริเวณนอกรูหูเท่านั้น เนื่องจากขี้หูและผิวหนังที่หลุดลอกจะค่อยๆ เคลื่อนที่ออกมาที่ปากรูหู และหลุดออกเองในที่สุด ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติ เช่น หูอื้อ ปวดหู คันหู การได้ยินลดลง มีเลือดหรือน้ำไหลออกจากหู ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า การแคะหู หรือ ปั่นหูบ่อยๆ เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น เนื่องจากขี้หูของคนเรานั้นถูกสร้างขึ้นมา เพื่อช่วยในการป้องกันสิ่งแปลกปลอม ช่วยเคลือบช่องหู และมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ถ้าไม่มีขี้หูจะทำให้รูหูแห้งและคัน คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าขี้หูเป็นสิ่งสกปรกในร่างกาย ที่ต้องกำจัดออกจึงแคะหรือปั่นหูบ่อยๆ ซึ่งความเป็นจริงแล้วขี้หูจะสามารถหลุดออกมาได้เอง หรือเรียกว่า Self-Cleaning Mechanism คือการค่อยๆ ทำความสะอาดตัวเอง โดยขี้หูและผิวหนังที่หลุดลอกจะค่อยๆ เคลื่อนที่ออกมาที่ปากรูหู และหลุดออก ดังนั้นการทำความสะอาดหู โดยใช้ไม้พันสำลีแคะหู ใช้น้ำหยอดหู จึงไม่มีความจำเป็นยกเว้นในบางคน สำหรับคนที่ขี้หูเหนียวและเคลื่อนที่ออกมาช้า ทำให้ขี้หูรวมตัวกันเป็นก้อนภายในรูหู ส่งผลให้มีอาการหูอื้อ ปวดแน่น ในหู กรณีเช่นนี้ควรพบแพทย์เพื่อทำความสะอาดรูหู ไม่ควรแคะเอง เพราะจะทำให้ขี้หูอุดตันถูกดันลึกมากขึ้น

ขณะที่ นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวต่อว่า การแคะหูบ่อยๆ อาจก่อให้เกิดอันตรายหลายอย่าง เช่น อาจทำให้เกิดรอยถลอกหรือแผลในรูหู ก่อให้เกิดการอักเสบของหูชั้นนอก ทำให้มีอาการปวดหู หูอื้อ มีน้ำไหลจากหู บางรายขณะแคะหูอยู่อาจมีคนวิ่ง หรือเดินมาชนแล้วทำให้ไม้พันสำลี ถูกกระแทกเข้าไปถึงเยื่อแก้วหู อาจทำให้เยื่อแก้วหูทะลุได้ ดังนั้นการดูแลรักษาหู จึงควรหลีกเลี่ยงการแคะหู โดยใช้เพียงผ้าเช็ดทำความสะอาด บริเวณนอกรูหูเท่านั้น นอกจากนี้ควรหมั่นสังเกตอาการ หากเริ่มมีอาการเจ็บในช่องหู หูอื้อ ปวดหู คันหู การได้ยินลดลง มีเลือดหรือน้ำไหลออกจากหู ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี หากละเลยอาการของภาวะขี้หูอุดตัน โดยไม่ทำการรักษาอาจเป็นอันตราย ถึงขั้นสูญเสียการได้ยิน

ด้าน นายแพทย์ดาวิน เยาวพลกุล นายแพทย์เชี่ยวชาญ ด้านเวชกรรม สาขาโสต ศอ นาสิก กลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า หากหูมีภาวะที่ปกติดีไม่ควรทำการแคะหู ควรทำความสะอาดหูเฉพาะภายนอก หากมีความต้องการทำความสะอาดในช่องหูควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแพทย์จะทำการส่องกล้องภายในรูหู และใช้เครื่องมือในการนำขี้หูออก โดยไม่สัมผัส ตัวเยื่อบุ หรือผนังหู นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงเสียงที่ดัง เพราะเสียงดังจะส่งผลโดยตรงทำให้เกิดอันตรายต่อหูชั้นใน และทำให้ประสาทหูเสื่อมเร็ว หากพบอาการผิดปกติควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

Related Posts

Send this to a friend