POLITICS

’วันชัย‘ มอง ‘ตะวัน‘ ป่วนขบวนเสด็จฯ ย่ำยีหัวใจคนไทย ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง

แนะพ่อแม่ควรอบรมสั่งสอน ชี้ ถึงเวลานิรโทษกรรมแล้ว ขอรัฐบาลเพื่อไทยอย่าลอยนวล เดินหน้าสร้างความสมานฉันท์

วันนี้ (12 ก.พ. 67) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้ความเห็นกรณีนางสาวทานตะวัน ตัวตุลานน แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมต่อขบวนเสด็จฯ ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ย่ำยีความรู้สึกของประชาชนคนไทย เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ประณามต่อการกระทำครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล พรรคการเมืองบางพรรคพี่น้องประชาชนมีความรู้สึกว่าการกระทำนี้ย่ำยีหัวใจเกินไป เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เราอยู่บนพื้นแผ่นดินไทยซึ่งเป็นพื้นแผ่นดินที่มีพระมหากษัตริย์ เป็นสิ่งที่เราเคารพเทิดทูนบูชา ดังนั้นพฤติกรรมที่จาบจ้วงล่วงละเมิด จึงไม่สมควรอย่างยิ่ง ถือเป็นพฤติกรรมเกินกว่าที่คนไทยจะรับได้

“แม้จะบอกว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน แต่สิ่งที่เคารพบูชาของประชาชนคนไทย เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร”

ในทางกฎหมายอาจเป็นการกระทำผิด แต่สิ่งที่สังคมไทยเห็นว่าจะยับยั้งการกระทำเหล่านี้ได้คือการปฏิเสธและประณามการกระทำ ใครก็ตามที่สนับสนุน หรือเห็นด้วยเราต้องประณามให้ไม่ควรมีที่ยืนในสังคม พ่อแม่ผู้ปกครองควรสั่งสอนอบรมให้เข้าใจวิถีชีวิตความเป็นไทย ส่วนกรณีที่ผู้กระทำอ้างว่าไม่ทราบเป็นขบวนเสด็จฯ ถือว่าฟังไม่ขึ้น เพราะใครก็รู้ได้ว่าเป็นขบวนเสด็จฯ และผู้กระทำก็มีพฤติกรรมสวนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งแล้ว

ขณะที่ภายหลังเหตุการณ์มีการปะทะกันรุนแรงของผู้เห็นต่าง ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่การประณามด้วยวิธีการที่ไม่มีความรุนแรงเป็นเรื่องที่กระทำได้ โดยการกระทำดังกล่าวต้องแยกส่วนกับความต้องการช่วยเหลือเพื่อนที่อยู่ในเรือนจำด้วยคดีมาตรา 112 เอามาปะปนกันคนละเรื่อง คนละประเด็น ไม่มีเหตุผลที่จะรับฟังได้

สำหรับกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้หารือกับกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงการเพิ่มมาตรการอารักขาบุคคลสำคัญนั้น เรื่องอารักขาบุคคลสำคัญเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องสากล ที่บุคคลคนสำคัญต้องมีมาตรการในการรักษาความปลอดภัย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีขบวนเสด็จฯ ลำพังอย่าใช้ข้อกฎหมายอย่างเดียว สังคมในประเทศนี้ ประชาชนทุกคนที่เคารพนับถือสถาบัน ต้องลุกขึ้นมาตะโกนพร้อม ๆ ก่อน และประณามการกระทำ จะเป็นการยับยั้งการกระทำของบุคคลที่จาบจ้วง ล่วงละเมิด

นายวันชัย กล่าวต่อว่าเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ 20 ปี อะไรที่จบได้ควรจบ อย่าให้เป็นบาดแผลในสังคมไทย จบแล้วก็มาเริ่มต้นกันใหม่ เพราะบรรยากาศทางการเมืองขณะนี้เหมาะกับการนิรโทษกรรม การโหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นปฐมบทของความสมานฉันท์ เป็นเหมือนการนิรโทษกรรม แดง-เหลือง แล้วมาร่วมกันเป็นรัฐบาล

เพราะฉะนั้นควรทำเป็นรูปธรรมทางกฎหมายอย่าสักแต่พูดประเด็นเรื่อง 112 ต้องมีคณะกรรมการพิจารณาร่วมกันหาความพอดีทางกฎหมายอย่าปล่อยให้คาราคาซังราคา เราหาความพอดีหาข้อยุติได้ เชื่อว่าผู้มีอำนาจในรัฐบาลพิจารณาได้ว่าเรื่องมาตรา 112 เป็นเรื่องที่อ่อนไหวสำคัญ ควรรู้วิธีการทำให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์

ทั้งนี้การปะทะกันของกลุ่มคนที่เห็นต่าง ถือเป็นความ ปกติในระบอบประชาธิปไตย ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โต การจะทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบเรียบร้อย รัฐบาลต้องยึดเป้าหมายเป็นสำคัญ เคยพูดเรื่องความปรองดองในสมัยที่เป็นฝ่ายค้าน แต่พอเป็นรัฐบาลแล้วลอยนวลดึงเวลาไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่วิสัยของรัฐบาลที่พึงจะทำ

“รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ควรเอาเรื่องสมานฉันท์เป็นหัวใจในการผลักดันไม่ใช่พูดแต่เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งไม่ก่อให้เกิดความสมานฉันท์ รังแต่จะมีความขัดแย้งมากขึ้น”

Related Posts

Send this to a friend