นายกฯ มอบนโยบายจัดทำงบฯ 68 ย้ำ เดินหน้า ’ดิจิทัลวอลเล็ต‘ ให้สำเร็จ

นายกฯ มอบนโยบายจัดทำงบฯ 68 ย้ำ ต้องตอบโจทย์นโยบายรัฐบาล ยืนยัน เดินหน้า ’ดิจิทัลวอลเล็ต‘ ให้สำเร็จ ลั่น ค่าแรงขั้นต่ำปี 67 ต้องทะลุ 400 บาท มั่นใจทำ GDP ไทยโต 5.5% ต่อปี

วันนี้ (12 ม.ค. 67) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย รองนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนา มอบนโยบาย และแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 แก่ส่วนราชการ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบาย และความต่อเนื่องของรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้จะมุ่งเน้นการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งในระยะเวลาที่เข้ามาทำงานได้ 4 เดือนกว่านั้น ก็เป็นช่วงที่ประเทศเจอความท้าทาย ทั้งภูมิรัฐศาสตร์มีความไม่แน่นอนสูง การรับมือกับภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้น การเปลี่ยนผ่านสังคมเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ปัญหาค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล การเข้าสู่สังคมสูงวัยจนเป็นภาระการเงินการคลังของประเทศ ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงขึ้น การจัดเก็บรายได้ของรัฐสวนทางกับ GDP ยาเสพติดทวีความรุนแรงมากขึ้น จนทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน

จากข้อมูลพบว่ารายได้ต่อหัวของไทย เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เราต่ำกว่าเขามาตลอด ประชาชนทำอาชีพการเกษตร ไม่มีแหล่งน้ำ ครัวเรือนเกษตรติดกับดักหนี้สิน รวมทั้งไม่ใช้เทคโนโลยีมาทำเกษตร ปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ที่ส่งผลให้ค่าฝุ่นเกินค่ามาตรฐาน

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในปีงบประมาณ 2568 การใช้จ่ายในภาครัฐ จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐบาล ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม นโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลจะต้องอาศัยการทำงานบูรณาการกันเป็นอย่างมาก และมีความเชื่อมโยงหลายส่วน ดังนั้น ในการจัดทำงบประมาณ ขอให้สำนักงบประมาณติดตามทั้งตัวชี้วันของหน่วยงาน และงบประมาณที่ขอไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และจะต้องตอบโจทย์รัฐบาล เพื่อให้การจัดทำงบประมาณตอบโจทย์ความต้องการ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด และยังย้ำด้วยว่า นโยบายที่ดำเนินการภายในรัฐบาล จะต้องชัดเจน จับต้องได้ เพื่อให้ประชาชนสบายใจได้ว่า ภาษีประชาชน จะถูกใช้เพื่อสร้างประโยชน์ให้ประเทศ

โดยนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำถึง นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ที่เป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะผลักดันให้สำเร็จ แม้ว่าในขณะนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าออกพระราชบัญญัติกู้เงิน แต่ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ลืมที่จะต้องงบประมาณเผื่อไว้ ในกรณีที่ต้องใช้พัฒนา และดำเนินโครงการด้วย และขอให้ตั้งงบประมาณอย่างสมเหตุสมผล

ส่วนนโยบายใยการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลได้เปิดวีซ่าฟรี เพิ่มระยะเวลาการอยู่ในไทยของนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาอย่างถูกกฏหมาย มีการเปิดสนามบินนานขึ้น อำนวยความสะดวกในการเข้าประเทศ รวมถึงการทดลองเปิดสถานบริการถึงตีสี่ ให้กระตุ้นเศรษฐกิจไปในชุมชนมากขึ้น ซึ่งยังต้องปรับไปในอีกหลาบพื้นที่ โดยในปีถัดไปอาจต้องปรับเปลี่ยนกฎหมาย ขอให้ขยายไปยังเมืองรองมากขึ้นด้วย

สำหรับเป้าหมายเรื่องแรงงาน นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะผลักดันนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท และปริญญาตรี 25,000 บาท ให้สำเร็จภายในปี 2570 นี้ โดยในปี 2567 นี้ จะต้องทำค่าแรงขั้นต่ำให้มากกว่า 400 บาทให้ได้ พร้อมมั่นใจว่า ทิศทางนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลชี้ จะทำให้สำเร็จได้อย่างแน่นอน พร้อมกล่าวถึงเป้าหมายด้านการเกษตร ที่รัฐบาล ตั้งใจทำให้เกษตรกร มีรายได้สุทธิมากขึ้น 3 เท่า ภายใน 4 ปีนี้

นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งทางถนน ทางราง ทางอากาศ และทางน้ำ พร้อมรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ และ “โครงการแลนด์บริดจ์” เป็นหนึ่งในโครงการที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เพื่อใช้จุดแข็งของภูมิศาสตร์ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้า และการคมนาคมที่สำคัญ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของการขนส่งผ่านช่องแคบมะละกา โดยคาดว่า โครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างงานได้ 280,000 ตำแหน่ง และ GPD ประเทศ จะโตปีละ 5.5% จึงมั่นใจว่า โครงการนี้จะมีประโยชน์ต่อประเทศมหาศาล และขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันสนับสนุน และผลักดันไปด้วยกัน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเป้าหมายความเป็นอยู่ของประชาชน โดยยืนยันว่า รัฐบาล จะทำนโยบายค่ารถโดยสารไฟฟ้าของประชาชน 20 บาทตลอดสายให้สำเร็จ และจะพัฒนาระบบฟีดเดอร์ เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดง และสีม่วงให้มากขึ้น พร้อมย้ำว่า รัฐบาล จะเดินหน้าทำส่วนอื่น ๆ ให้สำเร็จ เพื่อให้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายเกิดขึ้นได้จริงสำหรับประชาชน

ส่วนเป้าหมายด้านกองทัพ และความมั่นคงนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รัฐบาลจะพัฒนากองทัพให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาศักยภาพประเทศและประชาชน ทำทหารให้เป็น “ทหารอาชีพ” ลดกำลังพล และงบประมาณให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของประเทศ เปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารให้เป็นสมัครใจให้มีนัยยะ และทำให้ทหารใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น ช่วยเหลือประชาชนในด้านด่าน ๆ เช่น บรรเทาสาธารณภัย ความยากจน และที่ทำกิจ

ส่วนเรื่องการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะทำประชามติ เพื่อทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จ โดยไม่จัดชนวนความขัดแย้งใหม่ในสังคมให้ได้ เพื่อมุ่งหน้าทำให้ประเทศไทย มีหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง