บช.น.แถลงเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์การชุมนุมวันนี้ ( 3 ก.ค.)
วันนี้ (3 ก.ค. 64) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรจนครบาล หรือ บช.น. พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัยรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานโฆษก บช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอง รองผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ได้ทำการแถลงการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การชุมนุมและแผนเส้นทางการจราจรในวันนี้ (3 ก.ค.)
พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานโฆษก บช.น.กล่าวว่าแนวทางในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุม ในวันนี้มีการประกาศเชิญชวน 2 กิจกรรม คือ ‘กลุ่มประชาชนคนไทย’ มีการประกาศผ่านโซเซียลมีเดีย นัดรวมตัวกันบริเวณแยกอุรุพงษ์ มาหยุดที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์และ ’กลุ่มคนไทยไม่ทน’ มีการเชิญชวนชุมนุมที่สะพานผ่านฟ้า และจะเคลื่อนที่มาหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการห้ามชุมนุมบริเวณดังกล่าวโดยเด็ดขาดจะมีการตั้งแนวป้องกันอย่างแน่นหนา
สำหรับการดำเนินการกับผู้ชุมนุมแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มคณะราษฎรเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่มีการรวมตัวในช่วงเวลา 16.00 น. และเคลื่อนตัวมาที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ มีความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ พ.ร.บ.ความสะอาด พ.ร.บ.การใช้เครื่องกระจายเสียงพ.ร.บ.โรคติดต่อ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดผู้กระทำผิดทุกรายไว้แล้ว ขอแจ้งเตือนว่าห้ามมีการชุมนุม เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจนำเชื้อโรคดังกล่าวไปติดครอบครัวและอาจถูกดำเนินคดีได้
ด้าน พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า นอกจากกลุ่มผู้ชุมนุม 2 กลุ่ม ยังมีกลุ่มที่ขับรถขับไปโดยใช้ถนนราชดำเนินกลาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะไม่ปิดการจราจร โดยจะจัดการจราจรให้กระทบกับประชาชนให้น้อยที่สุด โดยจะเริ่มในเวลา 16.00 น. ที่บริเวณถนนราชดำเนินกลางและเวลา 17.00 น. บริเวณถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า โดยขอให้หลีกเลี่ยงการจราจรตั้ง แต่เวลา 14.00 น.
ทั้งนี้ ในส่วนของม็อบสมบัติทัวร์ขับรถบีบแตรนั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า กรณีมีการขับรถเป็นขบวนมีลักษณะกีดขวางจราจรก่อความเดือดร้อนประชาชนรายอื่น หรือเกิดอันตรายมีความผิดขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ตาม พ.ร.บ.ทางบกฯ พนักงานสอบสวนอาจยึดรถไว้เป็นของกลางในการกระทำผิด โดยจะมีการบันทึกภาพและเสียง รวมถึงภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝากเตือนว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นการกระทำผิดตามกฎหมาย
ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ได้เตรียมกำลังไว้ 9 กองร้อย ทั้งนี้ยืนยันว่าเตรียมกำลังไว้ตามสถานการณ์และการข่าวเพียงพอ เน้นบริเวณทำเนียบรัฐบาลเป็นหลัก
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมามีการสร้างการรับรู้ และมีการเตือนให้ทราบ เชื่อว่าหลายๆคนที่ติดตามข่าวสารการเมืองในประเทศไทย จะทราบอยู่แล้วว่าอะไรที่สามารถทำได้ตามกฎหมาย อะไรที่เป็นสิทธิและหน้าที่ แต่อย่าลืมว่าแม้จะมีสิทธิตามกรอบและกฎหมายแต่สิทธิของท่านจะต้องไม่กระทบกับการใช้ชีวิตปกติสุขของคนอื่น ซึ่งนับตั้งแต่เดือน ก.ค.63 ได้ดำเนินคดีไปแล้วกว่า 200 คดี ทั้งนี้มีการแจ้งเตือน หากยังมีเจตนากระทำความผิด จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน