POLITICS

‘แรงงาน’ แจงเหตุกรณีแรงงานไทยถูกนายจ้างขายทอดตลาด ไม่ผิดกฎหมายอิสราเอล

กระทรวงแรงงาน แจงเหตุกรณีแรงงานไทยในอิสราเอลถูกนายจ้างขายทอดตลาด ไม่ผิดกฎหมายอิสราเอล เผยผู้ประสงค์ขอกลับไทยเพิ่มขึ้นเป็น 5,205 คน

วันนี้ (11 ต.ค. 66) นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่มีแรงงานไทยในอิสราเอลร้องเรียนมายังเพจต่าง ๆ ว่าถูกนายจ้างนำไปขายต่อให้กับนายจ้างรายอื่น และกล่าวว่าเป็นการซื้อขายแรงงาน ซึ่งนายไพโรจน์ ระบุว่า ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังทูตแรงงานที่กรุงเทลอาวีฟแล้ว พบว่าตามกฎหมายของประเทศอิสราเอลถือว่าทำได้ การส่งต่อไปให้กับนายจ้างรายใหม่ไม่ถือเป็นความผิด และไม่ผิดกฎหมายแรงงาน

“ผมได้สั่งการให้ทูตแรงงานที่กรุงเทลอาวีฟ ลงพื้นที่ออกไปเยี่ยมแรงงานไทยที่จุดอพยพ ซึ่งมีแรงงานย้ายออกมาจากโมชาฟ จำนวน 42 คน เพื่อปลอบขวัญให้กำลังใจและรับลงทะเบียนแรงงานที่ประสงค์กลับประเทศไทย จำนวน 25 คน และมีขอย้ายงาน 4 คน ที่เหลือยังอยู่กับนายจ้างเดิม นอกจากนี้ ยังได้ชี้แจงให้ทราบเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์จากเงินกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ รวมถึงเจรจากับนายจ้างเรื่องเงินเดือนค้างจ่าย และเงินปิชูอิมของแรงงาน ทั้งนี้คาดว่า แรงงานทั้ง 25 คน จะได้เดินทางกลับประเทศไทย วันที่ 18 ตุลาคม 2566” ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวานนี้ (10 ต.ค. 66) มีรายงานแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บ รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 13 ราย เป็นชายทั้งหมด มีอาการหนัก 2 ราย ส่วนรายอื่นออกมาพักฟื้นที่แคมป์คนงานนายจ้าง ทั้งนี้ ในส่วนของจำนวนผู้เสียชีวิต 20 ราย อยู่ระหว่างการตรวจสอบยืนยัน และมีแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันอีก 14 ราย โดยผู้ที่แจ้งความประสงค์เดินทางกลับไทยเพิ่มเป็น 5,205 คน

ทั้งนี้ แรงงานกลุ่มแรก จำนวน 15 คน ที่จะเดินทางกลับถึงไทยในวันที่ 12 ต.ค. กระทรวงแรงงานจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าดูแล ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่ออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทะเบียน และการได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ตลอดจนสิทธิประกันสังคมต่าง ๆ

Related Posts

Send this to a friend