POLITICS

ผอ.เตรียมพัฒน์ ร้อง กมธ.ส.ว. คุ้มครองนักเรียน หลัง ‘หยก’ ป่วน

‘ผอ.รร.เตรียมพัฒน์’ ร้อง กมธ. ส.ว. คุ้มครองนักเรียน หลัง ‘หยก’ ป่วน แม้ไม่มีสถานภาพเป็นนักเรียน ชี้ หาก ‘ทะลุวัง’ ได้รับสิทธิผู้ปกครอง มาสมัครเรียนใหม่ได้ แต่ต้องอยู่ในกฎระเบียบของ ร.ร.

วันนี้ ( 11 ก.ค. 66 ) ที่อาคารรัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ( ส.ว. ) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา รับหนังสือจาก นางสาวจินตนา ศรีสารคาม ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครอง และตัวแทนคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อขอความคุ้มครองนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการเป็นการเร่งด่วน และช่วยเหลือเด็กในสภาวะเสี่ยง คือ นางสาวธนลภย์ ผลัญชัย (หยก)

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ น.ส.ธนลภย์ ได้รับแจ้งว่าไม่มีสภาพการเป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ทำให้มีกลุ่มบุคคลมาก่อความไม่สงบหน้าโรงเรียน ระหว่างวันที่ 14 – 19
มิ.ย. 2566 จึงมีความหวาดกลัวถึงความไม่ปลอดภัยในการมาโรงเรียนของนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการจำนวน 4,073 คน

อย่างไรก็ตาม กระบวนการของการมอบตัวที่ยังไม่แล้วเสร็จ ทางโรงเรียนได้ระบุว่า เมื่อวันที่ 1 เมษายน นางสุภาพร ผลัญชัย (มารดา) และน้า ที่เป็นผู้ปกครองของ นางสาวธนลภย์ ได้ทำบันทึกขอผ่อนผันการมอบตัวของ นางสาวธนลภย์ เนื่องจากมีข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของ สน.สำราญราษฎร์

หลังจากนั้น ในวันที่ 19 พ.ค. 66 นางสาวธนลภย์ ได้เดินทางมาพร้อมกลุ่ม ‘ทะลุวัง’ ที่อ้างว่าเป็นผู้ปกครองเพื่อมามอบตัว โรงเรียนจึงให้เข้าเรียนเพื่อรักษาสิทธิไว้ก่อน และได้แจ้งให้ ‘หยก’ นำผู้ปกครองมามอบตัวภายในวันที่ 10 มิ.ย. 66 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการนำข้อมูลนักเรียนเข้าสู่ระบบ ในช่วงเวลาดังกล่าว โรงเรียนได้พยายามติดต่อผู้ปกครองของนางสาวธนลภย์จนสุดความสามารถ แต่ผู้ปกครองก็ไม่มาดำเนินการมอบตัว จึงทำให้ไม่มีฐานข้อมูลนักเรียนของหยกในระบบ

ทางโรงเรียนได้พยายามติดตามผู้ปกครองนักเรียนถึง 7 ครั้ง ที่บ้านซอยพัฒนาการ 65 แต่มารดาไม่ออกมาพบ จึงได้ไปพบบิดาที่ บ้านหัวหนอง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด แต่บิดาบอกปัดไม่รับผิดชอบ และขับไล่ไม่ให้ทางโรงเรียนกลับมาอีก

ส่วนทางผู้อำนวยการโรงเรียนยืนยันว่า หาก นางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ ‘บุ้ง ทะลุวัง’ ซึ่งอ้างว่าตนเองเป็นผู้ปกครองของ นางสาวธนลภย์ นั้น ได้รับคำสั่งศาลยืนยันว่าเป็นผู้ปกครองตามกฎหมาย ก็สามารถสมัครเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้าได้ แต่ต้องผ่านการสอบเข้าใหม่อีกครั้ง เพราะไม่มีสถานภาพนักเรียนในตอนนี้แล้ว และไม่มีสิทธิสอบในปีการศึกษานี้อีก แต่หาก นางสาวธนลภย์ ได้สมัครเข้าเรียนอีกครั้งแล้ว ก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนทั้งการแต่งกายและทรงผม

ผู้อำนวยการโรงเรียน ระบุว่า ตนเองไม่สามารถปฏิเสธกฎระเบียบได้ ทุกคนอยู่ใต้กฎระเบียบเดียวกัน นักเรียนไม่ได้มาแค่เรียนหนังสือ แต่ต้องเรียนรู้ถึงวิธีการอยู่ร่วมกันในสังคม และโรงเรียนก็ไม่ปฏิเสธที่จะรับ นางสาวธนลภย์ เข้าเรียน แต่เมื่อเข้ามาแล้ว ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ผู้ปกครองจึงมีส่วนสำคัญที่จะต้องเข้ามารับรู้ และร่วมพัฒนาเด็กไปพร้อมกัน

นางสาวจินตนา กล่าวว่าเมื่อทางโรงเรียนพยายามชี้แจงเรื่องกฎระเบียบกับ นางสาวธนลภย์ ก็จะได้รับคำตอบอยู่ไม่กี่แบบคือ สิทธิเหนือเนื้อตัวร่างกาย และ กฎระเบียบของโรงเรียนกับรัฐธรรมนูญอะไรใหญ่กว่ากัน และ นางสาวธนลภย์ มักมีพฤติกรรมไม่รับฟังครูหรือผู้ปกครอง

ส่วนทางตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครองฯ ระบุว่า ทุกฝ่ายไม่ได้รังเกียจ นางสาวธนลภย์ แต่ต้องยอมรับว่า นางสาวธนลภย์ ไม่ได้มีสถานะนักเรียนแล้ว และเป็นห่วงในอนาคตของ นางสาวธนลภย์ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปหากยังอยู่กับกลุ่มคนที่ชี้นำความคิด

Related Posts

Send this to a friend