POLITICS

‘กรณ์’ มั่นใจ ชาติพัฒนากล้าปักธงใต้อย่างน้อย 5 คน

‘กรณ์’ มั่นใจ ชาติพัฒนากล้าปักธงใต้อย่างน้อย 5 คน เชื่อผู้สมัครรุ่นใหม่เป็นหัวเชื้อการเมืองดี พาภาคใต้กลับสู่ยุครุ่งเรืองได้

วันนี้ (11 พ.ค. 66) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ขึ้นรถแห่หาเสียงที่ จ.ภูเก็ต ช่วย 2 ผู้สมัคร นายเทมส์ ไกรทัศน์ เขต 2 เบอร์ 7 และ นางสาวอรทัย เกิดทรัพย์ เขต 3 เบอร์ 1 ขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนที่สัญจรไปมา ตลอดจนผู้ประกอบการร้านค้าสองข้างทาง โดยมีเสียงตอบรับ และให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งชูมือสัญลักษณ์เลข 7 ตลอดเส้นทาง พร้อมกล่าวว่า นายเทมส์ เป็นคนรุ่นใหม่ มีความรู้ ความสามารถ มีจิตสาธารณะ มั่นใจว่าจะเป็น ส.ส.ที่ดีให้กับชาวภูเก็ตได้

นายกรณ์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวโดยมั่นใจว่า ผู้สมัครทั้ง 2 ของพรรคชาติพัฒนากล้า จะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน เพราะประชาชนต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง วันนี้ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวกลับเข้ามามาก แต่เราต้องดูด้วยว่าประชาชนได้รับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างไร ภูเก็ตควรมีโอกาสบริหารตัวเอง การจัดสรรงบประมาณต้องเป็นธรรม สาธารณูปโภคต้องอยู่ในระดับมาตรฐานของโลก และ ส.ส.ที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของชาวภูเก็ต ต้องเป็นคนที่ชาวภูเก็ตภาคภูมิใจว่าสามารถเป็นตัวแทนในระดับสากลได้

นายกรณ์ กล่าวถึงเรื่องค่าครองชีพที่สูงขึ้นว่า มีสาเหตุมาจากต้นทุนพลังงาน และค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ตนต่อสู้โดยตลอด อีกทั้งช่วง 2 ปี ที่ภูเก็ตต้องหยุดชะงักเพราะสถานการณ์โควิด หนี้สินภาคครัวเรือนจึงพุ่งสูงขึ้น ต้องเข้ามาช่วยคนตัวเล็กให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยที่เป็นธรรม

นายกรณ์ กล่าวว่า กระแสของพรรคชาติพัฒนากล้าในภาคใต้ดีวันดีคืน ตลอดสองสัปดาห์ที่อยู่ภาคใต้ แม้จะไม่ได้ส่งผู้สมัครครบทุกเขต แต่ประชาชนให้การยอมรับในท่าทีของเราที่ไม่ขัดแย้งกับใคร เรายึดความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก เพราะการลงพื้นที่มีแต่สะท้อนปัญหาความเดือดร้อนให้เราช่วยผลักดันแก้ไข เราจึงส่งผู้สมัครคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจเปลี่ยนแปลงการเมือง เพราะปัจจุบันการผูกขาดมากขึ้นเรื่อย ๆ และครอบงำการเมืองระดับประเทศ พรรคเราเป็นพรรคเล็กที่ปราศจากทุนผูกขาดอุปถัมภ์ สู้แบบไม่ต้องเกรงใจใคร และผู้สมัครทุกคนก็มีอิสระทางความคิดของตนเอง

“ภาคใต้เราส่งผู้สมัคร 19 คน ผมมั่นใจเข้ามาได้อย่างน้อย 5 คน ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่สูงสำหรับพรรคขนาดเล็กของเรา และหากเข้ามาได้ จะมีผลต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของภาคใต้ ที่จะกลับไปสู่จุดเดิม ผมเป็นคน กทม.เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์มาก่อน มีความชื่นชมการเมืองภาคใต้ตลอด รู้สึกว่าการเมืองภาคใต้ เป็นผู้นำทางความคิด และผู้นำในระดับประเทศ แต่ช่วงนี้มันหายไป เราไม่เห็นบุคคลที่โดดเด่นทางความคิดในทางปฏิบัติ เหมือนในอดีต ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ผมเชื่อว่าชาวใต้เองก็โหยหา ในส่วนของคนรุ่นใหม่พรรคชาติพัฒนากล้าครั้งแรกผมก็ไม่ได้มั่นใจนัก แต่พอเขาแสดงตน มีหลายคนที่จะสามารถนำพาการเมืองกลับไปสู่เหมือนเดิมได้ เพราะมีอุดมการณ์ที่ชัดเจนคือ ไม่ซื้อเสียง นำความคิด เน้นเรื่องลงมือทำ เน้นการแก้ปัญหา” นายกรณ์ กล่าว

นายเทมส์ กล่าวว่า การเลือก ส.ส.เขต ควรเลือกตัวบุคคล ไม่ต้องการให้การเมืองใหญ่มาเป็นปัจจัยในการลงคะแนน อย่าเลือกด้วยความกลัวว่าใครจะกลับมาหรือใครจะอยู่ต่อ แต่ให้เลือกด้วยความหวังว่าเศรษฐกิจหลังจากนี้จะดีขึ้น เลือกด้วยความหวังว่า ใครที่จะมาแก้ปัญหาได้

Related Posts

Send this to a friend