POLITICS

‘เศรษฐา’ ชวนคนไทยตื่นจากฝัน อยู่กับความเป็นจริง ‘เพื่อไทย’ เปลี่ยนโครงสร้างได้

‘เศรษฐา’ ให้กำลังใจ ‘พิธา’ – ชวนคนไทยตื่นจากฝัน อยู่กับความเป็นจริง ‘เพื่อไทย’ เปลี่ยนโครงสร้างได้ ลั่น รอบนี้ฝ่ายประชาธิปไตยต้องชนะ

วันนี้ (11 พ.ค. 66) นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระหว่างลงพื้นที่หาเสียง อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรมปราศรัย “เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ เชียงใหม่เปลี่ยนทันที” เมื่อวานนี้ (10 พ.ค. 66) โดยกล่าวว่า มั่นใจว่าชาวเชียงใหม่จะเทคะแนนให้พรรคเพื่อไทย จังหวัดเชียงใหม่สำคัญที่สุดกับเราจังหวัดหนึ่ง ถือเป็นบ้านเกิด ซึ่งมีผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 10 เขต เราก็มีความคาดหวังที่จะได้ยกจังหวัด

เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง แต่สุดท้ายกลับมาวังวนเดิม จนอาจวุ่นวาย มีความเห็นอย่างไร นายเศรษฐา ตอบว่า มั่นใจว่าประชาชนเหนื่อยมาเยอะแล้วในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญ เชื่อมั่นว่าประชาชนจะให้ฉันทามติกับพรรคการเมืองที่ชื่นชอบ ส่วนเรื่องความวุ่นวาย ไม่แน่นอน หรือไม่เป็นธรรม ส่วนตัวมองว่าเราต้องมั่นใจในระบบประชาธิปไตยและการทำงานขององค์กรอิสระ ความระแวงหวาดกลัวก็ต้องมีบ้าง ทุกคนมีความกังวล แต่ทุกคนมีหน้าที่ต่างกัน อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว เรามั่นใจว่าระบบที่เราอยู่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

เมื่อถามถึง เนื้อหาการปราศรัยวานนี้ ที่นายเศรษฐา และครอบครัวถูกคุกคามจากการรัฐประหารปี 2557 นายเศรษฐา ตอบว่า จริงแล้วการรัฐประหาร ส่วนตัวไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ถูกเชิญตัวไป และมีการลิดรอนสิทธิของคนไทย ส่วนตัวเข้าใจแต่ไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร เพราะเรื่องของการข่มขู่ก็ชัดเจน มีอีกหลายเรื่อง แต่ไม่อยากดราม่าตรงนี้ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งนี้สำคัญ ฝ่ายประชาธิปไตยต้องชนะ ประชาชนต้องเทคะแนนให้ฝ่ายประชาธิปไตยชนะ

เมื่อถามถึง การเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 คนของพรรคเพื่อไทย สะท้อนมุมมองของการป้องกันการใช้เทคนิคทางการเมือง ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า เป็นความหวาดระแวง เพราะเราโดนมาแล้วหลายหน แต่ถือเป็นกลยุทธ์ของเรา ต้องมีความระมัดระวังในการเดินไปข้างหน้า ยืนยันทั้ง 3 คนพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าใครได้รับเลือก อีก 2 คนก็ยืนอยู่เคียงข้าง

เมื่อถามถึงกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ถูกร้องให้ตรวจสอบกรณีถือหุ้นสื่อ ถือเป็นเทคนิคเตะตัดขาใช่หรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า ยังไม่ได้ดูข้อเท็จจริง แต่เป็นกำลังใจให้ หวังว่าทุกฝ่ายจะได้รับความเป็นธรรม ซึ่งส่วนตัวห่วงพรรคการเมืองเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียงชื่อเดียว

เมื่อถามว่า เวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้ายพรุ่งนี้ (12 พ.ค. 66) ที่กรุงเทพมหานคร จะมีทีเด็ดอะไรหรือไม่ นายเศรษฐา ตอบว่า รอดู คอยฟังดู เป็นธรรมดาของการปราศรัยครั้งสุดท้าย เราหวังโน้มน้าวคนที่ยังไม่ตัดสินใจ เรามั่นใจว่าเราเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุด เป็นสถาบันการเมืองที่ยึดโยงกับประชาชนและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรามีทีมงานพร้อม มั่นใจว่าการปราศรัยจะได้รับการติดตามจากประชาชน

เมื่อถามถึงกรณี พรรครวมไทยสร้างชาติ หวังได้รับคะแนนเสียงจากพลังเงียบ นายเศรษฐา ตอบว่า ไม่ได้บอกว่า พลังเงียบจะเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติเสมอไป แต่เหตุผลที่พลังเงียบ คือยังไม่ตัดสินใจ จึงเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองและพรรคเพื่อไทย จะดึงคะแนนเสียงออกมาให้ได้ โดยเฉพาะความชัดเจน และประสบการณ์

“เราอย่าอยู่กับความฝัน เพราะความฝันไม่ต้องเสียตังค์ เราอยู่กับความเป็นจริงดีกว่า ดูจากประวัติศาสตร์ว่า พรรคเพื่อไทยในอดีตเคยทำนโยบายยาก ๆ แต่โดนใจ เปลี่ยนโครงสร้าง สาธารณสุข การบริหารส่วนจังหวัด ทำให้เราได้รับการยอมรับจากทุกภาคส่วน ผมเน้นนะครับ ความฝันไม่ต้องจ่ายตังค์ แต่อยู่กับความเป็นจริงดีกว่า พรรคเพื่อไทยอยู่กับความเป็นจริง เรามั่นใจว่า นโยบายของเราขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขจัดความยากจนได้” นายเศรษฐา กล่าวทิ้งท้าย

Related Posts

Send this to a friend