POLITICS

‘เศรษฐา’ แท็กทีม ‘อุ๊งอิ๊ง’ ลุยต่างจังหวัดครั้งแรก รับกดดันเวทีใหญ่เย็นนี้

‘เศรษฐา’ แท็กทีม ‘อุ๊งอิ๊ง’ ลุยต่างจังหวัดครั้งแรก รับกดดันเวทีใหญ่เย็นนี้ น้อมรับคำเตือน ‘ชูวิทย์-ส.ว.วันชัย’

วันนี้ (11 มี.ค. 66) พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย เข้าสักการะหลวงพ่อเพชร วัดท่าหลวง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดพิจิตรในช่วงเย็นวันนี้

ระหว่างการเข้าสักการะมีประชาชนรอต้อนรับพรรคเพื่อไทย โดยมอบพวงมาลัย ดอกไม้ รวมถึงภาพวาดของนางสาวแพทองธารในชุดแต่งงาน

หลังจากเข้าสักการะแล้ว แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ซึ่งนางสาวแพทองธาร ระบุว่า มีความมั่นใจในพื้นที่ด้วยนโยบายและการทำงานอย่างหนักของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จึงหวังว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากประชาชนทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง

นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงโอกาสที่นายเศรษฐาลงพื้นที่หาเสียงต่างจังหวัดร่วมกันเป็นครั้งแรกว่า การควงคู่กันมานี้ก็ขอให้รอดูว่าจะมีอะไรบ้าง ตอนนี้จะไปที่ต่าง ๆ ก่อนขึ้นเวทีที่จะมาปราศรัยร่วมกันครั้งแรก จึงคิดว่าวันนี้จะแนะนำนายเศรษฐาให้ประชาชนพบเห็นมากขึ้น ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย

นายเศรษฐา เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมในการขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกว่า ได้เข้าใจปัญหา ซึ่งเรื่องที่จะพูดไม่ใช่เรื่องใหม่ คงไม่มีมุกอะไร แต่เป็นครั้งแรกที่จะได้พบปะกับประชาชนในเวทีใหญ่ จึงขอให้คอยฟัง

เมื่อถามว่านายเศรษฐาขอคำแนะนำอะไรจากนางสาวแพทองธารบ้าง นางสาวแพทองธาร กล่าวด้วยอาการเขินอายว่า “โอ้โห เกินไป เกินไป” ก่อนที่นายเศรษฐาจะตอบว่า “ให้กำลังใจ บอกว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพอขึ้นพูดแล้วก็ไหลมาเอง ได้ซ้อมมานิดหน่อย”

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวเสริมว่า “คุณเศรษฐาพูดอยู่แล้วบนเวทีธุรกิจ” ส่วนนายเศรษฐา กล่าวว่า “แต่เป็นคนละบรรยากาศ ก็มีความประหม่าเหมือนกัน โอ้กดดันผมเหลือเกิน” ทำให้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่กดดันหรอก เพราะว่าเราไปเจอประชาชนแล้วจะมีพลังมาก

เมื่อผู้สื่อข่าวยกกรณี นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แสดงความคิดเห็นว่า นายเศรษฐา ควรทิ้งคราบนักธุรกิจให้หมดสิ้นนั้น นายเศรษฐา ตอบรับว่า ก็เป็นคำเตือน ซึ่งก็น้อมรับ แต่ที่จริงแล้ว การเข้ามาทำการเมืองก็มีขั้นตอนการพยายามสลัดภาพนักธุรกิจออกไป ทั้งการลางานโดยไม่รับผลตอบแทน โอนหุ้นให้บุตรธิดา ซึ่งจะต้องดำเนินการจ่ายภาษีตามขั้นตอนกฎหมาย ก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ ในระยะยาวจึงขอให้ดูกันแล้วกัน จะปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ย้ำว่าจะนำบ้านเมืองและประชาชนเป็นที่ตั้ง

เมื่อยกความเห็นของ ส.ว. ต่อไปว่า หากสลัดภาพนักธุรกิจไม่หมดจะซ้ำรอยกับกรณีของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ตอบว่า ตามที่ตอบไปแล้ว ขอให้ดูไป ระยะเวลาเป็นตัวพิสูจน์ว่าในอดีตมันเกิดอะไรขึ้น หลายเรื่องไม่ว่าเรื่องรัฐประหาร เรื่องการปกครองบ้านเมือง ก็ต้องดูกันไป ส่วนตัวเข้ามายังไม่เป็นอะไร เป็นเพียงประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขอให้เป็นขั้นเป็นตอนไป

นางสาวแพทองธาร ยังกล่าวเสริมในกรณีที่บิดาและอาถูกพาดพิงว่า ในสิ่งที่ส่วนตัวเห็นคือ คุณพ่อและคุณอาทำประโยชน์ให้บ้านเมืองมากมาย การที่เรายังขึ้นเวทีแล้วพูดถึงนโยบาย 20 ปีที่แล้ว แล้วยังใช้ได้อยู่เพียงเพิ่มเทคโนโลยีเข้าไป นี่คือตัวพิสูจน์ว่าประชาชนได้รับประโยชน์อย่างไรบ้าง จากทั้งคุณพ่อและคุณอาที่เคยเป็นนักธุรกิจ แต่ก็แล้วแต่มุมมองของคน ซึ่งขอรับฟังเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวยังสอบถามนายเศรษฐาถึงความรู้สึกต่อกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ยังคงออกมาขย่มอย่างต่อเนื่อง นายเศรษฐา ตอบว่า เป็นการเตือนมา คงไม่มีอะไร วิธีการเตือนของแต่ละคนแตกต่างกันไป จึงน้อมรับ และไม่กังวล ยืนยันว่ารู้จักกันกับนายชูวิทย์ เป็นนักธุรกิจมา 30 กว่าปี จึงรู้จักผู้คนจำนวนมาก

ส่วนจะมีการสื่อสารกันหรือไม่ นายเศรษฐา ปฏิเสธโดยระบุว่า ไม่มีการโทรไปคุย เมื่อเตือนมาแล้ว ก็รับฟังแล้ว

นายเศรษฐา ยังมองว่า การก้าวออกมาจากการเป็นนักธุรกิจแล้วผันตัวเป็นนักการเมือง จะบอกว่าไม่กลัวอะไรเลยก็ไม่ใช่ ยอมรับว่ามีความหวาดระแวง แต่กลัวมากที่สุดคือไม่สามารถทำประโยชน์ให้ประชาชนได้ การลงพื้นที่นี้ก็น่าจะเป็นบันไดขั้นหนึ่งที่ส่งต่อให้เราได้ไปบริหารจัดการบ้านเมือง หวังว่าชาวพิจิตรจะยกทั้ง 3 เขตเลือกตั้ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พรรคเพื่อไทยได้ 310 ที่นั่ง

นายเศรษฐา ยังปฏิเสธว่าไม่ใช่คำขู่ แต่เป็นคำเตือน เพราะการอยู่ในพื้นที่สาธารณะก็เป็นธรรมดาที่ได้คำเตือนและคำแนะนำ อยู่ที่การปฏิบัติตัวของเราเองมากกว่า

ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยมีกำหนดตั้งเวทีปราศรัย ณ วิทยาลัยเทคนิคพิจิตร อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร ตั้งแต่เวลา 17:00 น. เป็นต้นไป

Related Posts

Send this to a friend