‘กมธ. ต่างประเทศ’ เห็นด้วยเจรจาเปิดจุดผ่อนปรนขึ้นปราสาทพระวิหาร
เผย รอนายกฯ คุยผู้นำกัมพูชา 7 ก.พ. นี้ เชื่อจะสร้างรายได้ เพิ่มนักท่องเที่ยวได้
วันนี้ (11 ม.ค. 67) ที่อาคารรัฐสภา นายนพดล ปัทมะ ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวหลังจากประชุมหารือประเด็นการเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร ในบริเวณเขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ. กันทรลักษ์ จ. ศรีสะเกษ ว่า ตามที่ นายธเนศ เครือรัตน์ สส. พรรคเพื่อไทย จังหวัดศรีสะเกษ ได้ยื่นเรื่องเสนอเข้ามาให้ กมธ. ต่างประเทศ พิจารณา โดยได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย สภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กรมแผนที่ทหาร กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช รองแม่ทัพภาคที่ 2 และนายธเนศ เครือรัตน์ เข้าร่วมประชุม
นายนพดล ระบุว่า หลังจากรับฟังทุกฝ่าย กมธ. ต่างประเทศ เห็นพ้องกับข้อเสนอของนายธเนศและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องการผลักดันให้มีการเจรจากับกัมพูชาเพื่อเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร ซึ่งมีการปิดทางขึ้นตั้งแต่ปี 2551 ส่งผลให้ธุรกิจการท่องเที่ยวและการค้าระหว่างชายแดนในบริเวณดังกล่าวซบเซาจนถึงปัจจุบัน และเป็นความร่วมมือของทั้งไทยและกัมพูชา
นายนพดล ระบุว่า สถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ขณะนี้ได้คลี่คลายลง และทั้งสองฝ่ายต่างมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ซึ่งนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีกำหนดการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ก.พ. 2567 ตามคำเชิญของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตนเองจึงมองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการพูดคุย และผลักดันให้มีการเปิดทางขึ้นชมปราสาทพระวิหาร และยังเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้น ส่งเสริมการเดินทางข้ามแดนไปมาระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศ เสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระดับพื้นที่อีกด้วย
“ข้อมูลในอดีตพบว่าเคยมีนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปชมปราสาทพระวิหารปีละประมาณ 700,000 คน หากมีการเปิดจุดผ่อนปรนเขาพระวิหาร จำนวนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ และทั้งสองประเทศย่อมได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวและเกิดการกระตุ้นการค้าระหว่างกันมากขึ้น” นายนพดล กล่าว
ส่วนความกังวลใจของรองแม่ทัพภาค 2 สำหรับเรื่องนี้ นายนพดล ระบุว่า ทั้งหมดสนับสนุน ซึ่งสามารถดูแลทั้งเรื่องความมั่นคง สิทธิด้านเขตแดน และความปลอดภัยบริเวณนั้นทั้งหมด ซึ่งจะต้องเน้นเรื่องไม่เขตแดน โดยจะทำเหมือนที่เคยทำในอดีต พร้อมย้ำว่า ทหารไม่กังวล และเห็นด้วย
ส่วนจะเปิดได้เมื่อไหร่นั้น นายนพดล ระบุว่า ต้องดูการเจรจา และคาดว่าเร็วที่สุด เพราะจะได้ประโยชน์ทั้งสองประเทศ ตนเองคิดว่ามีความน่าจะเป็นไปได้ที่เปิดในปีนี้ เนื่องจากตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทย – กัมพูชาดีมาก รวมถึงคนในพื้นที่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร อยากเห็นการเปิดจุดผ่อนปรนด้วย