‘พริษฐ์’ ย้ำ ยื่นซักฟอกทันที หากรัฐบาลไม่เปิดสมัยวิสามัญแก้ รธน.ทันวาระ 3
‘พริษฐ์’ ย้ำ ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที หากรัฐบาลไม่เปิดสมัยวิสามัญแก้รัฐธรรมนูญทันวาระ 3 ก่อนยุบสภาฯ ยัน พรรคประชาชน ให้ความสำคัญทั้งแก้รัฐธรรมนูญและแก้สแกมเมอร์ ชี้ หากทำประชาชนเสียหายหนัก พร้อมยื่นอภิปราย
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน เปิดเผยถึงจุดยืนการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคว่า ในฐานะพรรคแกนนำฝ่ายค้าน เราพร้อมใช้ทุกกกลไกของสภาฯ ตรวจสอบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รวมถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีเงื่อนไข 3 ข้อขั้นต่ำที่จะใช้ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ
1.ถ้ารัฐบาลอยู่เกินวันที่ 31 ม.ค. 69 เกิน 4 เดือน ตามข้อตกลงใน MOA จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจทันที
2.หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 15/1 เพื่อปลดล็อกการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไม่สำเร็จในชั้นของสภาฯ ในสิ้นปีนี้ จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเช่นกัน เพราะถ้าจะให้เสร็จในวาระ 3 ต้องเปิดประชุมสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาวาระ 2 เป็นขั้นต่ำ ถ้ารอเปิดสมัยสามัญวันที่ 12 ธ.ค. แล้วค่อยพิจารณาวาระ 2 และต้องรอ 15 วันถึงจะพิจารณาวาระ 3 ได้ ก็ไม่ทันสิ้นปี การที่รัฐบาลตัดสินใจเปิด หรือไม่เปิดสมัยวิสามัญ บ่งบอกได้แล้วว่ารัฐบาลจริงใจเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญแค่ไหน หากไม่จริงใจก็พร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจ
3.ใน 2 เงื่อนไขเบื้องต้น ไม่ได้ตีเช็กเปล่าให้รัฐบาลบริหารประเทศตามอำเภอใจ หากดำเนินนโยบาย หรือทำอะไรที่สร้างความเสียหายหนักต่อประชาชน สะท้อนถึงความไม่โปร่งใส หรือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ก็อาจจะยื่นอภิปรายได้อย่างเร็วที่สุดในเชิงธุรการต้องรอเปิดสมัยประชุมวันที่ 12 ธ.ค. ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บข้อมูล
สำหรับกระบวนการ เมื่อยื่นไปแล้วกรอบเวลาจะเป็นอย่างไรคงต้องหารือกับพรรคเพื่อไทย แต่ก็เคารพสิทธิ์ซึ่งกันและกัน พรรคเพื่อไทยมี สส.เกิน 100 คน ก็มีสิทธิ์ยื่นได้ด้วยตัวเอง หากเรามีเป้าหมายที่ตรงกันก็ควรจะหารือกันว่าแต่ละพรรคมีมุมมองต่อเรื่องนี้อย่างไร
ทั้งนี้ หากเปิดสมัยประชุม 12 ธ.ค. จะรู้ก่อนแล้วว่าจะเปิดประชุมวิสามัญหรือไม่ ถ้าไม่เปิดก็ผิดเงื่อนไขชัดเจน เพราะไม่สามารถแก้รัฐธรรมนูญผ่านให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปีได้ แต่ถ้าเปิดสมัยวิสามัญพิจารณาวาระ 2 เสร็จก่อนวันที่ 12 ธ.ค. ซึ่งช่วงรอ 15 วันก่อนเข้าวาระ 3 ถ้าเราตัดสินใจรอก็รอ แต่ถ้ามีเหตุอื่นที่ไม่สามารถรอ 15 วันได้ ก็เป็นสิทธิ์ที่พรรคการเมืองจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ และหากวาระ 3 ในปลายเดือน ธ.ค. ไม่ผ่านสภาฯ เราก็ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้
สำหรับประเด็นเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ และสแกมเมอร์ เราให้น้ำหนักทั้งคู่ ท้ายที่สุดพรรคประชาชนยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง เหตุผลที่ทำ MOA เพราะถ้าสำเร็จผลประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว หรือปลดล็อกการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เชื่อว่าจะได้กติกา และระบบการเมืองที่ตอบโจทย์ประชาชนมากขึ้น แต่เมื่อต้องใช้อย่างน้อย 2 เดือนข้างหน้า เพื่อให้ MOA เป็นจริง ถ้า 2 เดือนข้างหน้าต้องแลกมากับความเสียหายอย่างหนัก เราต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน หลังระบุยังไม่เห็นความผิดที่ร้ายแรงของรัฐบาลจนต้องอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ผ่านมาพรรคประชาชนพยายามตรวจสอบและชี้ให้เห็นว่ามีข้อกังขาอะไรบ้างเกี่ยวกับนโยบาย และการดำเนินงานของรัฐบาล สิ่งที่พรรคสื่อสารชัดเจนสุดน่าจะเป็นเรื่องสแกมเมอร์ เราจะตรวจสอบต่อไป และเมื่อสภาฯ กลับมาเปิดอีกครั้งวันที่ 12 ธ.ค. จะมีข้อมูลเพิ่มเติมว่ารัฐบาลเอาจริงเอาจัง และตอบข้อครหาของสังคมได้มากแค่ไหน รวมถึงผลประโยชน์ทับซ้อน และการเปิดสมัยวิสามัญหรือไม่ ซึ่ง 2 ข้อมูลนี้จะนำมาประกอบการตัดสินใจของพรรค












