POLITICS

‘รังสิมา’ ร้อง ‘ชวน’ สอบปมประมูลร้านอาหาร ส.ส.

‘รังสิมา’ ร้อง ‘ชวน’ สอบปมประมูลร้านอาหาร ส.ส. มองสภามีอะไรซับซ้อน ร้านก่อนยังโดนแกล้ง เอาเกลือโรยถ้วยชาม ลั่น แม้คนด่ายุ่งทุกเรื่อง แต่ผลประโยชน์ชาติยอมไม่ได้ ต้องกู้ศักดิ์ศรีสภาฯ

วันนี้ (10 พ.ย. 65) นางสาวรังสิมา รอดรัศมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่อาคารรัฐสภา ถึงกรณีที่ 14 ส.ส. ร่วมกันเข้าชื่อ ร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมการสอบ ‘บิ๊กสภา’ ใช้อำนาจมืดล็อบบี้ข้าราชการและจ่ายเงิน ส.ส. ประมูลห้องอาหารจัดเลี้ยง ส.ส.

นางสาวรังสิมา กล่าวว่า ดิฉันเป็นกรรมการชิมอาหารทุกครั้งที่มีการประมูลร้านที่จะทำอาหารให้ ส.ส. ในการประชุม ซึ่งผลการคัดเลือกในครั้งนี้ยังไม่ออก ในตอนแรกก็ยังไม่ทราบ แต่นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ออกมาเปิดเผยว่ามีการจ่ายเงินและล็อบบี้กัน จึงคิดว่าหากเป็นแบบนี้ ต้องให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และอยากให้ยกเลิกวิธีการประมูลในลักษณะนี้

“เราอยากให้มีการยกเลิกไปเลย เพราะว่าเงินงบประมาณแผ่นดินมันสูญเสียไปกับค่าอาหารมาก เราต่อสู้เรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะอย่างปีก่อนๆ ที่ตั้งงบประมาณอาหารเป็นร้อยล้าน แต่ถ้าทำแบบรังสิมาเสนอจะเหลือประมาณ 50 ล้านบาทได้”

นางสาวรังสิมา ระบุต่อว่า หากจะประมูลแบบนี้ สมมติมี ส.ส. 500 คน ค่าอาหารคนละ 1,000 บาท 1 วันจะตกค่าอาหารรวมทั้งหมด 500,000 บาท ซึ่งหาก ส.ส. ไม่มาประชุม สภาฯก็ยังเสียเงิน 500,000 บาท แล้วหากสภาฯ ล่ม ก็ต้องนำอาหารไปบริจาค ซึ่งปลายสมัยประชุมแบบนี้ สภาฯ ล่มบ่อยมาก

“การสูญเสียเป็นงบประมาณแผ่นดินซึ่งสามารถนำไปทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้มากมายมหาศาล เราเสนอว่าให้สภาฯ ก่อสร้างห้องอาหารให้เสร็จไวๆ แล้วประมูลให้คนที่อยากมาขายในสภาฯ ขายให้กับบุคคลทั่วไป ผู้สื่อข่าวก็สามารถเข้าไปทานได้ ส.ส. ก็ให้เข้าไปทานได้ ทำแบบศูนย์อาหารของห้าง มีบัตร ส.ส. หิวตอนไหนก็ลงมา”

นางสาวรังสิมา ระบุว่า ปัจจุบัน ส.ส. ไม่มีสิทธิ์เลือกอาหาร กินได้ก็ต้องกิน กินไม่ได้ก็ไม่ต้องกิน แต่หากมีระบบคล้ายกับศูนย์อาหาร เงินในสภาฯ จะเหลือ เพราะหาก ส.ส. ไม่ใช้ ระบบก็ส่งคืนคลัง

“แบบนี้มันเสียหายกับสภาฯ เสียหายกับสมาชิกที่เป็นคณะกรรมการก็เลยลงชื่อกัน ให้ทางนายชวนตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการฮั้วกันจริงไหม มีการจ่ายเงินจริงไหม หากมีจริงต้องทำโทษ ต้องเอามาประจานว่าคนที่ทำเป็นใคร ทำให้สมาชิกที่เป็นกรรมการเสียหาย ประธานเสียหาย”

นางสาวรังสิมา ยอมรับว่าเพิ่งทราบว่ามีการล็อบบี้เกิดขึ้น ไม่ทราบว่ามีจำนวนกี่คน ส่วนตัวไม่ได้โดนล็อบบี้ ใครล็อบบี้ก็ไม่สำเร็จ เพราะเราดูตามความเป็นจริง ตอนนี้ยังไม่เห็นผลคะแนนการประมูล ทราบมาว่าคะแนนยังอยู่ในตู้ ยังไม่ได้ออกมารวม

“วิธีการเก่าๆ ที่สภาทำมาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัยเราว่าควรที่จะเปลี่ยนแปลงเพราะมีความรั่วไหลเยอะมาก ตั้งแต่เรามาอยู่ พูดกันจริงๆ ใครจะประมูลก็ยาก เพราะเอาใจยาก ส.ส. มี 500 คน แต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แล้วก็อุปกรณ์ต่างๆ ร้านที่ทุนไม่หนา ก็อยู่ยาก อุปกรณ์จะหายทุกวัน ห้องนี้เอาชามไป 2 ลูก ห้องนี้เอาถ้วยไป เราก็สงสารร้านที่มาประมูล บางคนเข้ามาก็ถูกกันแกล้ง อยู่ไม่ได้ สมัยที่สภาฯ เก่าก็มีร้านเข้ามา แต่ก็ถูกเอาเกลือไปโรย เอาข้าวสารไปโรย ในจานอะไรแบบนี้ เขาก็อยู่ไม่ได้ มันมีอะไรสลับซับซ้อนเยอะในสภาฯ”

ส่วนบิ๊กเนมในสภาฯ เกี่ยวข้องมาตั้งแต่สมัยสภาฯ เก่าหรือไม่ นางสาวรังสิมา ตอบว่า เรื่องนี้ตอบยาก มีมือที่มองไม่เห็น เราไม่รู้ว่าใครไปล็อบบี้ใคร เพราะเรื่องนี้ถือมีผลประโยชน์เป็นร้อยล้าน จากที่คุยกับเพื่อนสมาชิกในกรรมาธิการกิจการสภาฯ หลายคนก็เห็นด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ในสภาฯ อย่างประธานด้วย

นางสาวรังสิมา ย้ำว่า เรื่องนี้ต้องกู้ศักดิ์ศรีของสภาฯ ไม่ใช่เงินหมื่นเดียวไปเลือกร้านที่ ส.ส. กินกันไม่ได้ โดยเรื่องนี้ส่วนตัวต่อสู้มาโดยตลอด

“คนก็จะบอกว่าเราเสือกทุกเรื่องเลย แต่เราและรักษาผลประโยชน์ให้ประเทศชาติ อย่างเรื่องนี้เราได้วันละ 1,000 บาท แต่เด็กได้น้อย ก็ทำให้ประชาชนไม่แฮปปี้กับสมาชิกอยู่แล้ว แต่ต้องกราบเรียนว่า ส.ส. ไม่สามารถออกไปทานอาหารข้างนอกได้ เพราะลงคะแนนไม่ทันในสภา ก็จะเกิดความเสียหาย ประชาชนก็จะเสียผลประโยชน์ เพราะฉะนั้นการบริการต้องอยู่ภายในนี้ ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้”

Related Posts

Send this to a friend