POLITICS

มติรัฐสภา 472:33 ผ่านแก้ รธน.วาระ 3 ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ รอ 15 วันทูลเกล้าฯ

การประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 83 และ 91 ในวาระที่ 3 ซึ่งเปลี่ยนจากระบบเลือกตั้งใช้บัตรใบเดียวมาเป็นบัตร 2 ใบ แบบเดียวกับรัฐธรรมนูญ 2540 เริ่มประชุมตั่งแต่เวลา 09.00 น. โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พร้อมชี้แจงขั้นตอนการลงคะแนนแบบขานชื่อรายบุคคล ซึ่งครั้งนี้ที่ประชุมใช้ระบบนับคะแนนแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความรวดเร็ว

ทั้งนี้ หลังลงมติแบบขานชื่อกว่า 3 ชั่วโมง ประธานการประชุมแจ้งผลการลงคะแนนว่า ที่ประชุม มีมติเห็นชอบผ่านวาระ 3 ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ด้วยมติเห็นชอบ 472 เสียง แบ่งเป็น ส.ส. 323 เสียง ส.ว. 149 เสียง มติไม่เห็นชอบ 33 เสียง แบ่งเป็น ส.ส. 23 เสียง ส.ว. 10 เสียง งดออกเสียง 187 เสียง แบ่งเป็น ส.ส. 121 เสียง ส.ว. 66 เสียง ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขมติเห็นชอบเสียงเกินกึ่งหนึ่ง คือมากกว่า 365 เสียง และมีเสียง ส.ว.เกิน 1 ใน 3 หรือมากกว่า 84 เสียง รวมถึงต้องมีเสียง ส.ส.ที่มาจากพรรคการเมือง ไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรี ประธานสภา และรองประธานสภา เกิน 20 % ทำให้ร่างฉบับนี้เข้าเงื่อนไขผ่านวาระไปได้

ขณะเดียวกัน พบว่า พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐโหวตเห็นชอบ ส่วนพรรคก้าวไกลและพรรคภูมิใจไทย งดออกเสียง พรรครวมพลังประชาชาติไทย และพรรคเล็กบางพรรค ไม่เห็นชอบ แต่พรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน พรรค เดียวที่ลงมติเห็นชอบ

ทั้งนี้ หลังจากร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ลาออกจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวานนี้ ก็ไม่ได้เข้าร่วมลงมติในวันนี้เช่นกัน และจากการตรวจสอบ พบว่า เสียง ส.ว.แตกเป็น 2 กลุ่ม คือ ส.ว.กลุ่มที่ลงมติเห็นชอบ กับ ส.ว.กลุ่มที่งดออกเสียง

สำหรับขั้นตอนต่อไป ภายหลังรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว ประธานรัฐสภา จะได้ส่งร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 1 พุทธศักราช 2564 ให้นายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่ก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ นั้น จะต้องเว้นระยะเวลาไว้ 15 วัน ซึ่งในระหว่างนี้ หาก ส.ส. และ ส.ว. เห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ หรือมีประเด็นที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ สามารถเข้าชื่อกัน ไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 เพื่อเสนอความเห็นต่อประธานรัฐสภา หรือประธานสภาที่ตนสังกัด ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งหากเกิดกรณีดังกล่าวระหว่างนี้ นายกรัฐมนตรี จะยังไม่สามารถนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยเสร็จสิ้น

Related Posts

Send this to a friend