POLITICS

‘เพื่อไทย’ เตรียมเปิดศึกซักฟอกประยุทธ์ เหตุแก้โควิดล้มเหลว ล็อกดาวน์ไร้เยียวยา

พรรคเพื่อไทย นำโดยนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ประธาน ส.ส.พรรค นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน รองหัวหน้าพรรค และนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าวถึงท่าทีของพรรคเพื่อไทยต่อการประกาศมาตรการครั้งล่าสุดของรัฐบาล ซึ่งมีผลในวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 และความล้มเหลวของรัฐบาลในการบริหารจัดการการระบาดของโควิด-19

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ข้อคิดเห็นของพรรคเพื่อไทยต่อการแก้ไขวิกฤติการณ์การระบาดของโควิด-19 ของรัฐบาลในสถานการณ์ปัจจุบัน เกิดโดยการกระทำของรัฐบาลโดยตรงทั้งสิ้น ที่ผ่านมาความพร้อมที่รัฐบาลมีอยู่แต่ไม่เคยมีความพร้อมที่จะดำเนินการ สิ่งที่เกิดขึ้นจึงน่าละอายที่สุดและเราไม่สามารถยอมรับการบริหารของรัฐบาลชุดนี้ได้ พรรคเพื่อไทยโดยคณะผู้บริหารได้ปรึกษาหารือและมีมติว่าจะดำเนินการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยใช้มาตรา 151 เพื่อให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้อภิปรายความเสียหายที่เกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเปิดโปงความเสียหายที่รัฐบาลบริหารราชการผิดพลาด โดยเฉพาะการกระทำที่ส่อไปในทางทุจริตที่เอื้อประโยชน์จนที่ทำให้พี่น้องประชาชนติดเชื้อและเสียชีวิต ทั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะจัดให้มีการประชุมพรรคในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ผ่านระบบ Zoom โดยจะหารือ ส.ส.เพื่อขอมติในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจและจะปรึกษาหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านโดยเร็ว

นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลดำเนินการในปัจจุบันต่อสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ละเลยต่อชีวิตและเศรษฐกิจปากท้องของพี่น้องประชาชน วันนี้มีผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 9,326 ราย เสียชีวิต 91 ราย และคาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้นอีก การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลไม่อาจไว้ใจได้ ทำให้ประเทศอยู่ในภาวะวิกฤต ทั้งในมิติของจำนวนผู้ติดเชื้อ อัตราการแพร่เชื้อ อัตราการป่วยหนัก ศักยภาพในระบบสาธารณสุขและความพร้อมของวัคซีนของประเทศไทย

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค กล่าวว่า การประกาศมาตรการล่าสุด เกิดจากการบริหารที่ล้มเหลวของรัฐบาล ถึงแม้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแสนสาหัสเป็นอย่างยิ่ง เป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐบาล ที่จะต้องเยียวยาช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อนอย่างตรงจุด ตรงกลุ่มเป้าหมายโดยรัฐบาลยังคงมีวงเงินเหลือจาก พ.ร.ก. กู้เงิน 5 แสนล้านบาทต้องใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงควรพึงระลึกไว้เสมอว่า การล็อกดาวน์เข้มข้นในลักษณะนี้ มีต้นทุนที่สูงมากต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะความเสียหายที่มีการประมาณการณ์เบื้องต้นจะอยู่ที่ประมาณ 260,000 ล้านบาทต่อเดือน หรือเกือบ 9,000 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งเป็นความเสียหายที่มีมูลค่าและน่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง ทุกวินาทีมีความหมาย คือ “ความทุกข์ร้อนของพี่น้องประชาชน” ดังนั้นพรรคเพื่อไทยจะเร่งจัดการประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านภายในสัปดาห์หน้าเพื่อเร่งเปิดสภาเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ มาตรการของรัฐที่ประกาศออกมา ไม่มีมาตรการเยียวยาแต่อย่างใด สะท้อนถึงความล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดินของพลเอกประยุทธ์ ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก

“การประกาศไม่รับเงินเดือน 3 เดือนของพลเอกประยุทธ์ แสดงว่าประชาชนจะต้องทนอยู่กับท่านอีก 3 เดือน ถ้าแน่จริงต้องสละตำแหน่งนายกฯไปเลย ประชาชนจะยินดีกว่านี้ ประชาชนอยากได้ผู้นำที่มีวิสัยทัศน์มากกว่านี้” นายประเสริฐกล่าว

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน รองหัวหน้าพรรค กล่าวว่า มาตรการของศบค.ล่าสุดนั้นเกิดขึ้นมาจากความผิดพลาดล้มเหลวในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 นับตั้งแต่ปีที่แล้ว เกิดจากการปล่อยปละละเลยและความหย่อนยานของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งเรื่องแรงงานข้ามชาติ คลัสเตอร์สนามมวยตลอดจนคำสั่งปิดแคมป์คนงาน ส่วนมาตรการที่รัฐประกาศล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นมาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายเดินทาง และงดกิจกรรมกลุ่มและบุคคล รวมถึงมาตรการด้านการแพทย์ ล้วนเหมือนปีที่ผ่านมา เพียงแค่เปลี่ยนจากคำว่าล็อกดาวน์เป็นประกาศการปฏิบัติในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งตนมองว่าจะไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยเหตุผลว่า มาตรการการคัดกรองหาผู้ติดเชื้อยังล่าช้า มีการรอคิวตรวจหาเชื้อข้ามคืน ซึ่งทางแก้คือควรอนุญาตให้ประชาชนเข้าถึงการตรวจเชื้อด้วยตัวเอง ( Rapid Antigen test ) ซึ่งปัจจุบันจำกัดใช้ในสถานพยาบาล 300 กว่าแห่งเท่านั้น มาตรการกักตัวในบ้านยังไม่มีแผนงานรองรับ มาตรการฉีดวัคซีน 1 ล้านโดสในสองสัปดาห์ จากวัคซีนที่ได้รับบริจาคยังไม่เห็นผล จนทุกคนในประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงทั้งหมด

พรรคเพื่อไทย จึงขอเสนอให้รัฐบาลใช้การตรวจหาเชื้อด้วยมาตรการปูพรม อนุญาตให้ประชาชนใช้Rapid Antigen test อย่างแพร่หลายที่สุด โดยภาครัฐเพียงสอนวิธีตรวจให้ประชาชนเข้าใจอย่างง่าย ให้รู้ผลด้วยตัวเองเบื้องต้น การตรวจเชื้อต้องรุกเข้าถึงชุมชน ตั้งทีมลุยตรวจและฉีดวัคซีนในชุมชน ไม่ใช่ให้ประชาชนออกมายืนรอคิวตากฝนข้ามคืน รัฐต้องให้ทุกเขตจัดสถานที่พักพิงแรกรับให้มากพอ ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ผู้ติดเชื้อที่มีภูมิลำเนาต่างจังหวัดสามารถส่งตัวกลับไปกักตัวยังภูมิลำเนาได้ในสถานที่ปลอดภัยมิดชิด ให้คนในชุมชนช่วยกันดูแล แต่ไม่ใช่ที่เถียงนา และสุดท้ายรัฐต้องมีวัคซีนที่ดีและเพียงพอ ฉีดให้ประชาชนในพื้นที่ระบาดครอบคลุมไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 หากไม่สามารถดำเนินการตามแนวทางนี้ได้ รัฐบาลอาจจะควบคุมการระบาดไม่ได้

นายแพทย์ชลน่าน กล่าวถึงประเด็นการฟ้องร้องดำเนินคดีภาครัฐในคดีอาญาและปกครองว่า ต้องยอมรับว่ารัฐได้เขียนกฎหมายยกเว้นความผิดของตนเองไว้แล้วทุกกรณี จึงยากลำบากมาก แต่ช่องทางที่พอดำเนินการได้ คือฟ้องละเมิดทางแพ่ง พรรคเพื่อไทยเห็นพ้องสนับสนุนและพร้อมให้คำปรึกษาให้ผู้เสียหายสามารถฟ้องดำเนินคดีละเมิดทางแพ่งกับภาครัฐได้ในทุกกรณี

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ไว้วางใจให้รัฐบาลชุดนี้บริหารประเทศต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศเสียหายลึกไปมากกว่านี้ ชีวิตของพี่น้องประชาชนถูกพรากไปมากกว่านี้ ผู้บริหารของพรรคเพื่อไทยมีมติว่า จะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 เพื่อเปิดโปงความล้มเหลว ความผิดพลาดการทุจริตเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องบนความตายของประชาชน โดยจะนำมตินี้เข้าหารือกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทยในวันอังคารที่ 13 ก.ค. 2564 เพื่อขอมติยื่นญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาลเป็นการเร่งด่วนต่อไป

นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค  กล่าวว่า ขอขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่เสียสละเป็นด่านแรกในวิกฤตโรคระบาดที่มากขึ้นทุกวัน ซึ่งเกิดจากความล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพของผู้นำประเทศและคณะรัฐมนตรี ที่ไม่สามารถรับมือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ บุคลากรทางการแพทย์ถือเป็นผู้รับความเสี่ยงและคลี่คลายปัญหาการระบาดให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ปัญหาทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน สถานการณ์ที่มีประเทศไทยอยู่ในวิกฤตโดยมีผู้นำที่ไร้ความสามารถ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทำให้ประชาชนล้มตายจำนวนมาก เกิดกรณีที่ลูกเสียชีวิตจากโควิด-19 พ่อทนไม่ได้กระโดดตึกเสียชีวิต ภาพประชาชนตากแดดตากฝนข้ามคืนเพื่อรอตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในจุดตรวจต่างๆ สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพของพลเอกประยุทธ์ ที่ไม่สามารถดูแลทุกข์สุขให้กับพี่น้องประชาชนได้ ในฐานะพรรคฝ่ายค้านได้พยายามเสนอวิธีการแก้ไขปัญหาต่อเนื่องมาโดยตลอดในช่วงกว่า 1 ปี แต่ไม่เคยได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลอย่างทันการณ์ พรรคเพื่อไทยได้ข้อสรุปว่า การระบาดที่เกิดขึ้นเกิดจากความบกพร่องของรัฐ และผู้นำประเทศซึ่งเป็นฝ่ายปกครองทั้งสิ้น ยิ่งอยู่นาน ยิ่งทำให้ชีวิตประชาชนล้มตายและเศรษฐกิจเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆพรรคเพื่อไทยจะใช้วิธีการทางสภาทั้งหมดเพื่อทำให้พลเอกประยุทธ์ออกจากตำแหน่ง ไม่ให้บริหารประเทศต่อไป พลเอกประยุทธ์ยิ่งอยู่ ยิ่งทำลายเศรษฐกิจ ทำลายชีวิตของพี่น้องประชาชนในประเทศ

นายภูมิธรรม กล่าวว่า มาตรการล็อกดาวน์ ประชาชนเจ็บแต่ไม่จบ เพราะเป็นเพียงมาตรการหนึ่งที่ช่วยสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายเท่านั้น แต่ต้องมาพร้อมกับการได้รับวัคซีนที่ทั่วถึงและการดูแลเยียวยาประชาชนให้มีชีวิตอยู่ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจด้วย พลเอกประยุทธ์ต้องระดมบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมาช่วยกันแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยด่วน ไม่ใช่อยู่ไปวันๆ แบบนี้ พร้อมเชื่อว่าอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราจะได้เห็นโศกนาฏกรรมที่รุนแรงกว่านี้ทั้งเรื่องของโรคระบาดและการเผชิญชีวิตของพี่น้องประชาชนขณะที่วัคซีนที่รัฐบาลจัดซื้อมานั้นมีราคาแพงที่สุด แต่ประสิทธิภาพต่ำที่สุดจากข้อมูลทางการแพทย์ ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมมากมาย แต่เหตุใดจึงทู่ซี้ยืนยันที่จะจัดซื้อมาอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยเปิดเผยเหตุผลในการจัดซื้อแต่อย่างใด

ส่วนกรณีที่พลเอกประยุทธ์ ไม่รับเงินเดือนเป็นเวลา 3 เดือนนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า เงินจำนวนนั้นไม่ได้ช่วยให้พี่น้องประชาชนที่เสียชีวิตฟื้นขึ้นมา ไม่ได้ช่วยให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น ตรงกันข้ามอาจทำให้ประชาชนร้องไห้ที่ต้องทนอยู่กับพลเอกประยุทธ์อีก 3 เดือน สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่าพลเอกประยุทธ์ไม่เคยจัดลำดับความสำคัญของปัญหา และไม่รู้ปัญหาที่แท้จริง โดยควรเร่งจัดหาและปลดล็อกการใช้ชุดตรวจเชื้อด้วยตัวเอง (Rapid antigen test) จัดหาวัคซีนคุณภาพดีและต้องทั่วถึง พรรคเพื่อไทย กลุ่มวิชาชีพสมาคมวิชาชีพต่างๆ รวมถึงกลุ่มหมอไม่ทน ได้นำเสนอวิธีการแก้ปัญหาที่จะช่วยให้สถานการณ์ทุเลาลงมากมาย แต่พลเอกประยุทธ์ไม่เคยสนใจข้อเสนอเหล่านั้น ยังมีความพยายามขายผ้าเอาหน้ารอดด้วยการประกาศลดเงินเดือนซึ่งไม่ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

Related Posts

Send this to a friend