POLITICS

‘พล.อ.ณัฐพล‘ เผย คงมาตรการเปิด-ปิดด่านตามระยะเวลา รอถกตัดน้ำ-ตัดไฟในที่ประชุม สมช.

‘พล.อ.ณัฐพล‘ รับสถานการณ์ไทย-กัมพูชาดีขึ้นเล็กน้อย คงมาตรการเปิด-ปิดด่านตามระยะเวลา รอถกตัดน้ำ-ตัดไฟในที่ประชุม สมช.หวั่น เหตุกลับมาตึงเครียด

วันนี้ (10 มิ.ย. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า สถานการณ์ดีขึ้นเล็กน้อยกว่าเมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ยืนยันว่า มาตรการในการปรับระยะเวลา เปิด-ปิด ด่านชายแดนยังคงไว้อยู่ เพราะสถานการณ์ดีขึ้นเล็กน้อยตรงที่ทั้งสองฝ่ายได้ปรับกำลัง ไม่ได้เผชิญหน้ากัน ถือว่าดีขึ้น เพราะตราบใดที่ยังมีการเผชิญหน้ากันมันมีความเสี่ยงในการปะทะและการใช้อาวุธ ทำให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่าย สุ่มเสี่ยงทั้งกำลังทหารและพี่น้องที่อยู่ชายแดน

ขณะที่กำลังส่วนอื่นทั้งสองฝ่ายยังอยู่ที่เดิม เพราะฉะนั้นมาตรการควบคุมตามแนวชายเรายังทำต่อไป ซึ่งหลังจากนี้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมาเปิดเผยอีกครั้งหนึ่งว่า จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ส่วนมาตรการตัดน้ำ ตัดไฟ จะเสนอต่อที่ประชุม สมช.คงต้องพิจารณาตามสถานการณ์ ซึ่งเรื่องตัดน้ำ ตัดไฟ ขณะนี้มีอยู่ 2 เรื่องในเวลาเดียวกัน หน่วยกำลังป้องกันชายแดนต้องการที่จะตัดน้ำ ตัดไฟ

ขณะเดียวกันศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ศอ.ปชด.) ที่มีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้อำนวยการต้องการตัดน้ำ ตัดไฟ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการคอลเซ็นเตอร์ จึงขึ้นอยู่กับ สมช.จะพิจารณาว่าจะดำเนินการหรือไม่อย่างไร เหมาะสมหรือไม่ ที่จะดำเนินการในช่วงนี้

ส่วนจะทำให้สถานการณ์ชายแดนกลับมาตึงเครียดอีกรอบหรือไม่ ก็ต้องช่วยกันพิจารณา ที่ผ่านมาไม่ได้แค่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำคนเดียว ทั้ง สมช.และรัฐบาลร่วมหารือกันในวงเล็ก และขอชี้แจงกับสื่อมวลชนว่าต้องขอความเห็นใจ เพราะการเจรจา การพูดคุย ถ้าเรามาพูดออกสื่อก่อนจะทำให้เขารู้ว่าเราคิดอะไร จะทำอะไร เพราะฉะนั้น บางครั้งก็ไม่ได้พูด ซึ่งการไม่ได้พูดนี่แหละทำให้ประชาชนหรือสื่อมวลชนตัดพ้อต่อว่า รัฐบาลนิ่งเฉย ช้าไป แต่ถ้าเราพูดก่อน เขาก็รู้ก่อน เปรียบเสมือนการแข่งขันกีฬาฟุตบอล ฟุตบอลไทยแข่งกับกัมพูชา สื่อจะมาถามว่า จะส่งผู้เล่นคนไหนลง ถามหมดเลย แต่ไม่มีใครไปถามทีมกัมพูชาว่า เขาจะจัดทีมอย่างไร เพราะฉะนั้น ฝ่ายความมั่นคงเวลาที่จะคิดทำอะไร ลำบากตรงนี้ ก็ต้องขอความเห็นใจจริง ๆ ความมั่นคง การทหาร จะต่างกับด้านเศรษฐกิจและด้านอื่น ๆ ซึ่งสามารถชี้แจงก่อน แต่ด้านการทหารบางครั้งถ้าเราพูดก่อนอาจเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ การเจรจาต่อรองกับต่างประเทศ ถ้าเราบอกหมดทางนั้นจะทราบหมดว่า เราคิดอย่างไร

พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่าที่มีผู้รู้และนักการทหารออกมาพูดหลายคนนั้น การที่ออกมาพูดทำให้ทางฝ่ายกัมพูชาพอเดาออกว่า กองทัพทำอะไรอยู่ ตรงนี้ในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบก็รู้สึกหนักใจเล็กน้อย แต่ไม่เป็นไร ในยุคปัจจุบันเป็นเรื่องของข้อมูลข่าวสาร โปร่งใส เราต้องแสดงความโปร่งใส และต้องใช้ฝีมือมากขึ้น ตนเองได้ให้กำลังใจน้อง ๆ ในกองทัพว่า เราต้องเป็นกองทัพภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ภายใต้สังคมข้อมูลข่าวสาร เราจะไม่เหมือนเก่าที่สมัยก่อนทุกอย่างเป็นความลับ เขาจะไม่รู้ว่า เราทำอะไรบ้าง มีกำลังและอาวุธอะไรบ้าง แต่สมัยนี้ต้องพูดก่อน ส่วนที่ตนเองรับผิดชอบพยายามจะไม่พูด หรือพูดให้น้อยที่สุด เพื่อที่เราพยายามรักษาความลับ ซึ่งความลับไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้ไว้ใจสื่อหรือประชาชน เพียงแต่ว่า เราต้องการให้มีความได้เปรียบอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็เข้าใจสื่อและประชาชนว่า อยากรู้ว่าจะทำอย่างไร

ทั้งนี้การประชุม JBC ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะมีการหยิบยกเรื่อง 4 พื้นที่ที่กัมพูชาจะนำขึ้นไปศาลโลกหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกระทรวงการต่างประเทศ ตนเองไม่ขอก้าวล่วง ตนเองรับผิดชอบในเรื่องของความมั่นคง

ขณะที่การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของพรรครวมไทยสร้างชาติ พล.อ.ณัฐพล ปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว โดยได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ และขึ้นห้องประชุม ครม.ทันที

Related Posts

Send this to a friend

Thailand Web Stat