POLITICS

รมว.แรงงาน กำชับ โรงพยาบาลเครือข่ายประกันสังคม ดูแลผู้ประกันตนเสี่ยงติดโควิด-19 อย่างเต็มที่

​​นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่พบว่ามีผู้ป่วยโควิด -19 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในจังหวัดพื้นที่สีแดง กระทรวงแรงงาน ได้ให้ความสำคัญกับป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด -19 ในช่วงวันหยุดเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ และเตรียมความพร้อมรองรับในทุกด้านหากสถานการณ์การแพร่ระบาดรุนแรงมากขึ้น ผมในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานจึงได้กำชับโรงพยาบาลประกันสังคมให้ความร่วมมือดูแลผู้ประกันตนกลุ่มเสี่ยงติดโควิด โดยออกประกาศกระทรวงแรงงานเพื่อเน้นย้ำมาตรการช่วยเหลือผู้ประกันตน กรณีโรคโควิด-19 เพื่อให้โรงพยาบาลเอกชนในโครงการประกันสังคมเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้ป่วยโรคโควิด- 19

ทั้งการตรวจคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงและจำนวนเตียงรองรับผู้ประกันตนป่วยโรคโควิด- 19 ซึ่งเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ลดความเดือดร้อนของประชาชน โดยปัจจุบันมีโรงพยาบาลเอกชนเป็นโรงพยาบาลประกันสังคม จำนวน 81 แห่ง และสมาคมโรงพยาบาลเอกชนพร้อมให้ความร่วมมือกับกระทรวงแรงงานอย่างเต็มที่ 

​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยอีกด้วยว่า จากข้อมูล ณ วันที่ 9 เมษายน 2564 พบว่ามีผู้ป่วยโรคโควิด 19 รายใหม่ จำนวน 559 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่สีแดง 5 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และปทุมธานี ส่งผลให้ผู้ประกันตนตามเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง ตามที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด มีโอกาสเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคโควิด- 19 และอาจมีอัตราผู้ประกันตนที่ป่วยได้รับยืนยันเพิ่มขึ้น

กระทรวงแรงงานจึงได้สำรวจความพร้อมโรงพยาบาลประกันสังคม เพื่อเตรียมพร้อมรองรับการดูแลรักษาให้โรงพยาบาลประกันสังคมมีจำนวนเตียงเพียงพอ โดยการเพิ่มเตียงในโรงพยาบาลและจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเอกชน ซึ่งจาการสำรวจโรงพยาบาลประกันสังคมภาคเอกชน จำนวน 81 แห่ง ส่วนใหญ่มีความพร้อมในการให้บริการแก่ผู้ประกันตน

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานได้พร้อมจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่สถานพยาบาลตามประกาศคณะกรรมการแพทย์โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคมให้ผู้ประกันตนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรับบริการทางการแพทย์ทั้งค่าตรวจและค่ารักษาโรคโควิด- 19 ส่งผลให้สามารถช่วยเหลือผู้ประกันที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานพร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและรับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นจากผลกระทบภาวะวิกฤต โควิด -19 ในทุกๆด้าน เพื่อหาแนวทางกำหนดมาตรการแก้ไขให้สอดคล้องกับภาวะเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันต่อไป

Related Posts

Send this to a friend