POLITICS

‘ก้าวไกล’ ยื่น ร่าง กม. 9 ฉบับ ใน 3 ชุด กม.เปลี่ยนประเทศให้ประธานสภาฯ

‘ก้าวไกล’ ยื่น 3 ชุดกฎหมาย 9 ร่าง พรบ. ‘ปลดล็อคท้องถิ่น-ป้องกันทุจริต-โอบรับความหลากหลาย’ ดักคอนายกฯ รับรอง ร่างยุบ กอ.รมน.-ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ไม่เพิ่มภาระงบประมาณ ขอให้สภาฯ ได้พิจารณาไม่ว่าหน้าตารัฐบาลชุดหน้าจะเป็นอย่างไร

วันนี้ (9 ส.ค. 66) นายพริษฐ์ วัชรสินธุ์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อม สส.พรรคก้าวไกล ยื่นร่างกฎหมาย 9 ฉบับ ใน 3 ชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศ ได้แก่ การปลดล็อคท้องถิ่น, การป้องกันการทุจริต และ การโอบรับความหลากหลาย ต่อตัวแทนประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อบรรจุเข้าวาระการประชุมต่อไป

นายพริษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา สส.พรรคก้าวไกล ได้ยื่นชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศที่สอดคล้องกับ 300 นโยบาย ทั้งสิ้น 14 ร่างกฎหมาย ซึ่งได้ยื่นไปแล้ว 2 ชุด คือการปฏิรูปกองทัพและการแก้ไขทุนผูกขาด ทั้งหมด 7 ร่างกฎหมาย

ซึ่งตอนนี้ได้รับแจ้งมาว่าอาจจะมี 2 ร่าง คือร่างกฎหมายเกี่ยวกับการยกเลิก กอ.รมน. และการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ที่อาจถูกวินิจฉัยว่าเป็นพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ซึ่งถึงแม้สมาชิกของพรรคก้าวไกลได้แสดงออกก่อนหน้านี้ว่าไม่เห็นด้วยกับกลไกนี้ ที่ตีความว่าร่างใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ต้องส่งให้นายกรัฐมนตรีรับรอง แต่หากเข้าใจเจตนาของกฎหมายจะทราบว่าเป็นการป้องกันไม่ให้สภาผ่านกฎหมายที่ไปผูกมัดฝ่ายบริหารเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณ ถึงแม้กระบวนการทางกฎหมายต้องส่งทั้ง 2 ร่างนี้ไปให้นายกรัฐมนตรีรับรองก่อนจะบรรจุเข้าวาระการประชุมสภาฯ ตนหวังว่าจะไม่มีเหตุผลใดที่นายกฯ จะไม่รับรองด้วย 2 เหตุผลด้วยกัน คือ

1.ในเนื้อหาสาระ ไม่มีเนื้อหาที่ไปผูกมัดการจัดสรรงบประมาณของฝ่ายบริหารหรือเพิ่มภาระการจัดสรรงบประมาณให้กับฝ่ายบริหาร ส่วนของร่างเสนอยุบ กอ.รมน. จะเป็นการลดงบประมาณมากกว่าการไปเพิ่ม และร่างรับราชการทหาร เกี่ยวกับการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ก็ไม่เป็นที่แน่ชัด ว่าการยกเลิกการเกณฑ์ทหารจะไปเพิ่มภาระทางการเงินเสมอไป แม้จะมีการเขียนมาตราที่ให้ฝ่ายบริหารทบทวนค่าตอบแทนและสวัสดิการของพลทหารให้สอดคล้องกับค่าครองชีพและสมเหตุสมผลมากขึ้น แต่อีกข้อเสนอหนึ่งของการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหารคือการลดจำนวนกำลังพล ที่อาจไม่จำเป็นต่อการรักษาความมั่นคง จึงไม่ปรากฏชัดว่าเป็นการเพิ่มงบประมาณแต่อย่างใด

2.หากพิจารณาเรื่องเวลาในการยื่นร่าง ปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการ ซึ่งถึงแม้จะมีอำนาจพิจารณาตามกฏหมาย ตนก็หวังว่านายกฯ รักษาการจะไม่ใช้อำนาจดังกล่าวไปผูกมัดหรือขัดขวางเจตจำนงของรัฐบาลใหม่ และหากนายกฯ รักษาการ มีความกังวลว่าสภาจะผ่านกฎหมายที่จะไปผูกมัดรัฐบาลใหม่หรือไม่ ตนอยากคลายข้อกังวลว่า ไม่ว่ารัฐบาลใหม่จะเป็นอย่างไรรัฐบาลใหม่ก็ต้องประกอบไปด้วยพรรคการเมืองที่มีตัวแทนอยู่ในสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว ดังนั้นหากกฎหมายถูกพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎร พรรคการเมืองที่มี สส.อยู่ในสภา ก็ใช้ดุลพินิจในการเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยที่จะผ่านหรือไม่ผ่านกฎหมายเหล่านี้ได้

ส่วนการยื่นชุดกฎหมายอีก 3 ชุด 9 ร่างกฎหมาย ในวันนี้ ชุดแรกเกี่ยวกับการกระจายอำนาจ ปลดล็อคท้องถิ่น ได้แก่ ร่างพรบ.แผนและการกระจายอำนาจ เสนอโดย สส.วรภพ วิริยะโรจน์ เพื่อกระจาอำนาจในการจัดทำบริการสาธารณะให้ท้องถิ่น/ ร่างพรบ.ขนส่งทางบก โดย สส.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ เพื่อให้ท้องถิ่นมีอำนาจจัดทำขนส่งสาธารณะ สอดคล้องความต้องการของท้องถิ่นมากขึ้น/ ร่างพรบ.ถนน โดย สส.สุรเชษฐ์ จัดระบบถนน ลำดับชั้น การกนะขายงบประมาณสู่ท้องถิ่นมากขึ้น และ ร่างพรบ.กระจายอำนาจปลดล็อคการเวนคืน ให้ท้องถิ่นสามารถเวนคืนได้อย่างสอดคล้องกับความต้องการของคนในพื้นที่มากขึ้น

ชุดกฎหมายป้องกันการทุจริต มี 2 ร่างกฎหมาย ได้แก่ ร่างพรบ.ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ ทำให้ประชาชนมีสิทธิ์เข้าถึงข่าวสารสาธารณะให้รัฐต้องเปิดเผยข้อมูลโดยยึดหลักเกณฑ์เปิดเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น โดย สส.วรภพ / ร่างพรบ.อำนวยความสะดวก โดยพยายามจะรื้อระบบการออกใบอนุญาต เพื่อทำให้กระบวนการขอใบอนุญาตของประชาชนมีความสะดวกสบายมากขึ้น ปิดช่องการทุจริตหรือการจ่ายสินบนที่อาจจะเกิดขึ้น หากมีใบอนุญาตหรือการใช้ดุลยพินิจเยอะจนเกินไป

ส่วนชุดกฎหมายโอบรับความหลากหลาย มี 3 ร่างกฎหมาย ได้แก่ การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือ พรบ.สมรสเท่าเทียม / ร่างพรบ.รับรองอัตลักษณ์ทางเพศ และ ร่างพรบ.คุ้มครองสิทธิกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง

ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.ผู้เสนอร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม และร่าง พรบ. อัตลักษณ์ทางเพศ อธิบายเพิ่มเติมว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการเมืองและการตั้งรัฐบาลที่อาจจะล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น กฎหมายสมรสเท่าเทียมค้างพิจารณาจากสภาชุดที่ 25 และเราจะต้องยืนยันภายในวันที่ 3 กันยายนนี้ มิเช่นนั้นกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะตกไป จึงยื่นคู่ขนานท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน หากกฎหมายมีเนื้อหาใกล้เคียงก็อาจใช้มติสภาข้ามไปวาระที่สองได้ เป็นการยื่นเพื่อลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ทางการเมือง

Related Posts

Send this to a friend