ชัชชาติ จ่อเสนอทบทวนโซนนิ่งสถานบันเทิง กทม. หลังพบเปิดนอกโซนนิ่งจำนวนมาก
วันนี้ (9 ส.ค.65) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการในเขตจตุจักรเมื่อวานนี้ว่า ขอชมเชยผู้อำนวยการเขตตรวจอย่างเข้มข้น โดยร้านอาหารที่มีดนตรีต้องมีทางหนีไฟอย่างน้อย 2 ทางตามกฎหมาย ทำให้กรุงเทพมหานครต้องตรวจสอบละเอียดขึ้น อย่างน้อยเข้าไปเยี่ยมเยียนดูปัญหา สิ่งหนึ่งที่กังวลคือ ร้านอาหารที่มีชั้น 2 ค่อนข้างอันตราย เพราะทางขึ้นลงมีทางเดียว เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ ควันไฟจะลอยอยู่ด้านบน และจะหนีได้ยาก หากเราเทรนเจ้าหน้าที่จะทำให้เห็นปัญหา แก้ไขได้
พล.ต.อ.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อธิบายเรื่องโซนนิ่งของสถานประกอบการว่า การกำหนดโซนนิ่งโดยกระทรวงมหาดไทย มีมาตั้งแต่ปี 2545 เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบ และสังคมได้อยู่ร่วมกัน โดยปัจจุบันมี 3 โซนนิ่ง ได้แก่ พัฒน์พงศ์ รัชดา มักกะสัน บริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และ RCA
ปัจจุบันโซนนิ่งมีความเปลี่ยนแปลง ผู้ประกอบการขยับไปตามดีมานด์ของนักท่องเที่ยว จะเห็นว่าไปอยู่ในจุดอื่น ลักษณะของการตั้งสถานที่เหล่านี้จะเริ่มต้นจากการเป็นร้านอาหาร จำหน่ายอาหาร สุรา และมีดนตรี ซึ่งจะต้องมีทางเข้าออก 2 ทาง โดยเงื่อนไขในการดำเนินกิจการอยู่ที่เวลา หากจำหน่ายถึง 00.00 น. กรุงเทพมหานครได้ออกใบอนุญาตเรื่อง เสียงและอาหารให้ครบถ้วนแล้ว หากจำหน่ายเกิน 00.00 น. จะเข้าข่าย พ.ร.บ.สถานบริการฯ เป็นลักษณะของสถานประกอบการที่เปิดเลียนแบบสถานบริการ จะวนกลับมาที่เรื่องโซนนิ่ง เป็นเหตุผลว่า ทำไมถึงไม่สามารถให้บริการในพื้นที่ที่ขออนุญาต
พล.ต.อ.อดิศร์ ระบุว่า สถานบริการบางแห่งจุคนถึง 1,000 คน สัปดาห์นี้จึงจะลงพื้นที่ไปดูสถานบริการขณะให้บริการ เพื่อดูสภาพแวดล้อม
นายชัชชาติ ยังฝากให้ พล.ต.อ.อดิศร์ ลงพื้นที่ย่านทองหล่อ ที่พบเห็นฟู้ดทรัคส์ขายกัญชาอย่างน้อย 8 ราย อาจจะต้องดูมิติการใช้สารพวกนี้ และข้อกฎหมายต่าง ๆ ส่วนกรณีโซนนิ่งสถานบริการอาจจะต้องหารือกับตำรวจ เพื่อตั้งคณะทำงาน ก่อนยื่นข้อเสนอแนะให้กับกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแล เพราะขณะนี้สถานบริการอยู่นอกโซนนิ่ง บริเวณข้าวสาร อารีย์ ทองหล่อ พหลโยธิน
