‘ใจบัว’ จี้ สารวัตร สน.บางพลัด ให้ออกมาขอโทษ

‘ใจบัว’ จี้ สารวัตร สน.บางพลัด ให้ออกมาขอโทษ ยอมรับ หลังเกิดเหตุเครียดจัด นอนไม่หลับ ต้องไปพบจิตแพทย์รักษา

วันนี้ (9 ส.ค. 65) นางสาวใจบัว ฮิดดิง ดาราสาว พร้อมด้วยทนายษิทา เบี้ยบเกิด ทนายความ เปิดแถลงข่าวครั้งแรกถึงคดีที่นางสาวใยบัวถูกนายตำรวจยศสารวัตร สน. บางพลัดอนาจาร เหตุเกิดต่อเนื่องวันที่ 1 สิงหาคมและ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา

นางสาวใจบัว กล่าวว่า หลังเกิดเหตุสภาพจิตใจย่ำแย่ ร้องไห้ และนอนไม่หลับ เฝ้าโทษตัวเองตลอดว่า ดูแลตัวเองไม่ดี ไว้ใจเพื่อนมากเกินไป และไม่คาดคิดว่าตำรวจจะกล้าก่อเหตุขึ้น ทำให้ต้องไปพบจิตแพทย์เพื่อรับการรักษา กระทั่งเหตุการณ์ผ่านไปเกือบ 10 วัน สภาพจิตใจเริ่มดีขึ้นจึงกล้าที่จะมาพูดความจริง เพื่อไม่ให้มีผู้หญิงตกเป็นเหยื่ออีก

‘ใจบัว’ เปิดเผยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันที่ 1 ส.ค. ว่าคืนเกิดเหตุ ไปปาร์ตี้หมูกระทะวันเกิดรุ่นพี่ที่รู้จักกันมาเป็น 10 ปีจากนั้นมีแผนจะไปทานข้าวต่อที่ร้านอาหารย่านสายไหมโดยออกจากร้านหมูกระทะประมาณตี 2 โดยมีเพื่อนไปด้วยกันรวม 5 คน ซึ่งระหว่างทางเกิดฝนตกเพื่อนผู้ชายที่รู้จักกันมาเกือบ 10 ปี จึงเปลี่ยนแผนชวนให้ไปบ้านรุ่นพี่ที่ย่านคู้บอน จึงตัดสินใจไป เมื่อไปถึงได้พบกับเจ้าของบ้านและพบกับนายตำรวจคนดังกล่าว จึงตั้งวงดื่มกินกันถึงประมาณตี 4 ตนเห็นว่าดึกมากแล้วจึงจะขอตัวกลับบ้าน แต่เพื่อนขอให้กลับพร้อมกัน ด้วยความง่วงจึงขอไปนอนหลับที่โซฟารับแขก โดยมารู้สึกตัวตื่นขึ้นตอน 9 โมงเช้าวันรุ่งขึ้น พบว่านายตำรวจคนดังกล่าวมานอนเบียด และใช้มือจับที่หน้าอกตนซึ่งได้ปัดออก

นายตำรวจคนดังกล่าวตกใจรีบลุกเดินออกไป ตนมองดูสภาพในบ้านพบว่าเพื่อนที่มาด้วยกัน 4 คนกลับไปแล้ว 2 คน เหลือเพื่อนผู้ชายที่รู้จักกับตำรวจยังอยู่แต่ก็ไม่กล้าโวยวาย ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกัน หลังจากนั้น ตนได้เข้าปรึกษากับทนายษิทา และแจ้งความดำเนินคดีฐานอนาจารกับนายตำรวจคนดังกล่าวที่ สน. คันนายาว ท้องที่เกิดเหตุ

‘ใจบัว’ กล่าวยืนยันจะดำเนินคดีกับ ตำรวจนายนี้ให้ถึงที่สุด ในข้อหาอนาจาร ซึ่งตำรวจคนดังกล่าวได้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และยังไม่มีการออกมาขอโทษแต่อย่างใด

ในขณะที่ตำรวจได้เรียกเพื่อนชายที่อยู่ในเหตุการณ์เข้ามาให้ปากคำแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือ

‘ใจบัว’ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังเกิดเหตุก็โทษตัวเองมาตลอด ว่าทำไมถึงไม่กลับบ้าน และไว้ใจเชื่อเพื่อนชายคนนี้ รู้สึกแย่และรับไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ จะเลิกคบและตัดความสัมพันธ์กับเพื่อนผู้ชายคนที่พาไปแน่นอน แม้จะรู้จักและคบหาเป็นเพื่อนกันมาเป็น 10 ปี

นายษิทรา ยังบอกอีกว่า หลังจากเกิดเหตุมีผู้ใหญ่ของวงการตำรวจโทรมาสอบถามกับตนว่าเรื่องราวเป็นยังไง และถ้าเป็นความจริงก็จะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ณ ขณะนี้ทราบว่านายตำรวจที่ก่อเหตุเป็นพนักงานสอบสวนอยู่ที่ สน.บางพลัด แต่ไม่ทราบว่าเคยมีพฤติกรรมชอบลวนลามหรือกระทำอนาจารมาก่อนหน้านี้หรือไม่

ทนายษิทรา กล่าวว่า พฤติกรรมของเพื่อนคนที่พา นางสาวใจบัวไปที่บ้านหลังดังกล่าว น่าสงสัยหลายอย่าง ตั้งแต่การเปลี่ยนแผนจากที่จะไปปาร์ตี้กันต่อที่ร้าน และเปลี่ยนแผนไปที่บ้านหลังดังกล่าว และในขณะเกิดเหตุการณ์ขึ้นก็ไม่อยู่ พอตำรวจเรียกเข้าไปสอบปากคำก็ไม่ให้ความร่วมมือ จึงมีความเป็นไปได้ที่อาจมีการเตรียมการเอาไว้ก่อน ซึ่งหากพบความผิดจริงอาจมีการดำเนินคดีในข้อหาสมคบคิดได้

ส่วนทางคดีอาญาอยู่ระหว่างสอบสวน ส่วนทางวินัย กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 ต้นสังกัดได้ตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนโดยจะเชิญ “น้องใจบัว” ไปให้ถ้อยคำประกอบการพิจารณาด้วย

ทั้งนี้ ‘ใจบัว’ คาดหวังว่าตำรวจนายนี้จะออกมายอมรับความผิด นางสาวใจบัวคิดว่าตนทำถูกแล้ว คนที่ต้องอายต้องเป็นตัวตำรวจไม่ใช่ตน และหากใครพบเหตุการณ์เช่นนี้ให้ออกมาแจ้งความเลย หากนิ่งเฉยเหตุการณ์เช่นนี้จะกลายเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควร