POLITICS

‘พิธา’ แถลงผลหารือภาคธุรกิจภูเก็ต ดันเป็นเจ้าภาพ World Expo 2028

‘พิธา’ แถลงผลหารือภาคธุรกิจภูเก็ต ดันเป็นเจ้าภาพ World Expo 2028 ชี้ การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว พร้อมผลักดันกระจายอำนาจให้แก้ปัญหาตอบโจทย์ พัฒนาภาคใต้ทั้งภูมิภาค ทำงานร่วมภาครัฐ-เอกชน

วันนี้ (9 มิ.ย. 66) เวลา 13.00 น. ที่โรงแรมดีวาน่า พลาซ่า ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ประชุมพบปะกลุ่มภาคธุรกิจ ภาคการศึกษา เอกชน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต

จากนั้น นายพิธาได้แถลงผลการประชุมร่วมระหว่างพรรคก้าวไกลซึ่งมีทั้งว่าที่ ส.ส.ทั้ง 3 เขต และนายเดชรัตน์ สุขกำเนิด ประธานโครงการ Think Forward Center หนึ่งในทีมเศรษฐกิจพรรคก้าวไกล และภาคธุรกิจของภูเก็ต ที่มีทั้ง สภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ภาคการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม

โดยภาคเอกชนของจังหวัดภูเก็ตมีข้อเสนอแนะให้กับพรรคก้าวไกลทั้งหมด 24 ข้อ ซึ่งนอกจากเหตุผลหลัก ในการช่วยกันดูแลชีวิตของประชาชนชาวภูเก็ตและการดูแลชาวภาคใต้แล้ว ยังมีวาระเร่งด่วน ที่จะสนับสนุนให้ภูเก็ต ได้รับเลือกเป็นให้เป็นจังหวัดในประเทศไทย ที่จะได้เป็นเจ้าภาพงาน Specialized Expo 2028

“…ตามมารยาททางการเมือง คงต้องให้เครดิตจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ที่มีมติ ครม.ให้ภูเก็ตเป็นตัวแทนเจ้าภาพในการจัด Specialized Expo 2028 ตอนนี้จะมีการโหวตของ 127 ประเทศ ในวันที่ 21 มิถุนาคมนี้ ที่กรุงปารีส…” นายพิธา กล่าว

นายพิธา กล่าวต่อว่าเราต้องแข่งกับเจ้าภาพอีกหลายเมือง เช่น มินนิโซต้า สหรัฐอเมริกา รวมไปถึงประเทศอาเจนติน่า เซอร์เบียร์ และสเปน จึงต้องการใช้โอกาสนี้ในการส่งสัญญาณไปทั่วโลก ว่าภูเก็ตเรามีความพร้อมในการที่จะเป็นเจ้าภาพ Specialized Expo 2028 นี้ ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสในการยกระดับ ทั้งเรื่องคมนาคม สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม และการศึกษา ซึ่งตนคิดว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนภูเก็ตไม่มากก็น้อย

ขณะที่นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า องค์กรเอกชนขอขอบคุณพรรคก้าวไกล ที่เลือกมาที่จังหวัดภูเก็ต และเปิดโอกาสให้กับภาคเอกชนในการเสนอเรื่องที่เป็นสาระสำคัญ และยุทธศาสตร์ และการพัฒนาของจังหวัดภูเก็ต รวมถึงปัญหาต่างๆที่คั่งค้างมานาน 20-30 ปี ซึ่งก็มีการนำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง เพราะต้องการให้ภาคเอกชนมีการพัฒนาเทียบเคียงเป็นจังหวัดชั้นนำด้านการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมา มีการแก้ปัญหาบ้างไม่มีปัญหาบ้าง จึงอยากฝากความหวังไว้ที่พรรคก้าวไกลในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

“…หากท่านได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว หวังว่าจะไม่ลืมจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะเมื่อเรามี ส.ส.ถึง 3 คน และได้มอบหมายให้ทำงานควบคู่กับองค์กรเอกชน รวมถึงทุกภาคส่วน ทำให้เราได้เป็นกำลังหลักของประเทศ ในการสร้าง GDP จาก 4.5 แสนล้าน จะกลายเป็น 1 ล้านล้าน และ 2 ล้านล้านในอนาคต โดยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะพัฒนาไปด้วยกันและทุกคนต้องมีความสุข…” นายพิธา กล่าว

เมื่อถามว่านโยบายพรรคก้าวไกลที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว องค์กรภาคธุรกิจมีการตอบรับอย่างไรบ้าง นายก้องศักดิ์ กล่าวว่า ปัญหามีความซับซ้อน เราจึงพูดคุยเรื่องหลักเป็นเรื่องโครงสร้างความยั่งยืน ความเหลื่อมล้ำ สิ่งแวดล้อมและอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ซึ่งทางพรรคอาจจะยังไม่มีคำตอบในวันนี้ แต่นายพิธาก็นำเสนอนโยบาย 9 ส. เข้าใจปัญหาทุกอย่าง และนายพิธาก็รับปากไว้ว่าในเดือนกรกฎาคมจะกลับมาอีก เพื่อสร้างวิธีการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด มองว่าการทำงานอย่างใกล้ชิดจะทำให้เข้าใจปัญหาภูเก็ต

จากนั้น นายพิธา กล่าวเสริมว่า เวลาในการหารือมีน้อยประมาณชั่วโมงครึ่ง ตนอยากจะฟังมากกว่าพูด ทำให้ตลอดเวลาหารือได้ฟังทั้งหมด มองว่านโยบายท่องเที่ยวจะไม่ใช่เป็นแค่การท่องเที่ยวอย่างเดียว แต่ต้องเป็นนโยบายที่กระจายแต่ไม่กระจุก ไม่ได้เน้นธรรมชาติอย่างเดียว เนื่องจากคนที่ได้ประโยชน์จะมีไม่กี่กลุ่ม หากขยายภาคส่วนการท่องเที่ยวออกไปหลายรูปแบบ เช่น Medical Tourism , Sport Tourism จะกระจายออกทัวร์ภูเก็ตมากกว่า และยังคงต้องดึงนักท่องเที่ยวกลับมา เพราะฉะนั้นนโยบายระยะสั้นจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวกลับมาก่อน

“…การท่องเที่ยวเป็นเรื่องของสาธารณสุขด้วย เป็นเรื่องการคมนาคมด้วย เป็นเรื่องเกี่ยวกับความปลอดภัยด้วย…” นายพิธา กล่าวย้ำ

เมื่อถามว่าจังหวัดภูเก็ตจะเป็นจังหวัดแรกๆ ในการออกนโยบายกระจายอำนาจใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า แน่นอนว่าจังหวัดใหญ่ๆ ในประเทศไทยจะมีความพร้อมในการเตรียมรับในการกระจายอำนาจ งบประมาณ ภารกิจและบุคลากร ขณะเดียวกัน ตนไม่แน่ใจว่าการทำให้เกิดการกระจายอำนาจ เราคิด 10 จังหวัดก่อน และอีก 10 จังหวัดตามหรือไม่ เหมือนที่ทำกับกรุงเทพฯและพัทยา

“…นักท่องเที่ยวมาจังหวัดภูเก็ต 14 ล้านคน แต่ประชากรภูเก็ตมี 4 แสนคน เพราะฉะนั้นเวลาคิดเรื่องงบประมาณราชการส่วนกลางจะคิดงบประมาณตามพื้นฐาน 4 แสนคน ทำให้เป็นปัญหา เพราะโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตอบโจทย์ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้…” นายพิธา กล่าว

นายพิธา ย้ำว่า นโยบายที่คิดไว้ก่อนเลือกตั้งต้องมีการทำแต่ต้องมีการดำเนินการที่มีสัดส่วน ไม่ใช่บอกว่าภูเก็ตส้มยกเกาะแล้วเราจะเอามาให้จังหวัดภูเก็ตจนละเลยจังหวัดอื่น ตนยืนยันว่าจะไม่มีแบบนั้นแน่นอน

ส่วนพื้นที่ภาคใต้ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นแค่ยุทธศาสตร์ แต่เป็นการรักษาคำสัญญา ในเมื่อคน ภูเก็ตให้ความไว้วางใจ ก็จะทำให้ดีเพื่อกระจายไปทั่วภาคใต้

ผู้สื่อข่าวข่าวรายงานว่า เมื่อนายพิธาพูดถึงการจัดงาน Specialized Expo ได้พูดเดือนผิดจาก มิถุนายน เป็น มิถุนาคม จนผู้สื่อข่าวทักท้วง ทำให้นายพิธา กล่าวขอบคุณ แก้ไขเป็นเดือนมิถุนายน และออกอาการเขินด้วย

Related Posts

Send this to a friend