POLITICS

นายกฯ ลงพื้นที่สระบุรี ติดตามการแก้ไขบริหารจัดการน้ำ

นายกฯ ลงพื้นที่สระบุรี ติดตามการแก้ไขบริหารจัดการน้ำกรมชลประทาน พอใจภาพรวมการบริหารจัดการน้ำ ยัน รัฐบาลจะทำให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้น

วันนี้ (9 ก.พ. 67) ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ตำบลหนองยาว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะ ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาด้านชลประทาน โดยมีนายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน, นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี, นายณัทเศรษฐ์ ถิรวัฒน์ธนกร ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสระบุรี, นายประทีป นิลมูล ประธานกลุ่มบริหารการใช้น้ำชลประทานคลองเพรียวสามขวาพัฒนา และเกษตรกรชาวนาในพื้นที่มารอให้การต้อนรับ

ภายหลังการรับฟังบรรยายการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา นายกรัฐมนตรี แสดงความพอใจต่อการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน และเชื่อว่ากรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของเกษตรกรชาวนา และนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความพอใจต่อราคาข้าวที่สูง ยืนยันรัฐบาลจะเดินหน้าหาตลาดข้าว และตลาดสินค้าเกษตรให้มากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวและสินค้าเกษตร

นายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า ยังมีปัญหาเรื่องต้นทุนการทำการเกษตร โดยเฉพาะราคาปุ๋ย และราคาไฟฟ้า สั่งการให้กรมชลประทานศึกษาการใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลล์เพื่อประหยัดต้นทุนการทำการเกษตร

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้พบปะกับพี่น้องเกษตรกรที่มาให้การต้อนรับ พร้อมสอบถามเรื่องปัญหาต่าง ๆ โดยมีตัวแทนชาวบ้านได้นำเรียนปัญหากับนายกฯ เรื่อง การทำนาข้าว ขอให้รัฐบาลช่วยสนับสนุนให้มีน้ำทำนาข้าว เพื่อจะได้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ พร้อมกล่าวขอบคุณรัฐบาลที่ช่วยทำให้ราคาสินค้าเกษตรมีราคาที่ดีขึ้น

ด้านนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า จะเดินหน้าทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น โดยเฉพาะราคาข้าว จะพยายามทำให้มีกำไรตันละ 6,000 บาท ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบ หากจ่ายหนี้ไปแล้วเกินครึ่งหนึ่งขอให้หยุดจ่าย ขอประชาชนอย่ากลัวและเป็นกังวล ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามเรื่องแก้ไขปัญหาหนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ นายกฯ ได้ฝากให้เกษตรกรช่วยกันอย่าเผาตอซังข้าว เพื่อลดมลพิษ ลดฝุ่น PM.2.5

สำหรับภาพรวมการเพาะปลูกข้าวนาปรังในช่วงฤดูแล้ง 2566/67 ทั้งประเทศทำนาปรังไปแล้วกว่า 8.38 ล้าน ไร่ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยามีการทำนาปรังไปแล้วประมาณ 5.63 ล้านไร่ จากสถานการณ์ดังกล่าว กรมชลประทานต้องปรับการจัดสรรน้ำเพิ่มเติม เพื่อสนับสนุนพื้นที่ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งหลังจากที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวแล้วเสร็จ จะพิจารณาปรับลดการระบายน้ำ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้อุปโภค บริโภค รักษาระบบนิเวศ รวมทั้งสำรองไว้ใช้ในช่วงต้นฤดูฝนเป็นหลัก

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางไปตรวจติดตามโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองลำสนธิ ณ วัดสิงหาราม ตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ต่อไป

Related Posts

Send this to a friend